Doctor Taa told me that I have to shift focus from friends to my work.
Because I'm not just a little bit late with my thesis film, but so late ...
So I gave him my words.I will try.
and I try.
and before I come to class I already knew that they will be here.
I told myself
okay jj
shift focusdon't give them a sh*
just f* them
and I try
but I failed
I tried to think of my film
but then I got sad
and those friends situation come back in my head again.
I'm so pissed off at myself again.
วันอังคารที่ได้คุยกับหมอต๊ะ เอาจริงๆ อายไม่คิดว่าหมอต๊ะจะพูดขึ้นมาหลังจากที่อายพูดเรื่องอาชีพในวงการภาพยนตร์ของอาย ว่า "มันฟังดูเป็นจุดจบของชีวิตยังไงก็ไม่รู้" ซึ่งอายคิดเรื่องอยากจะตายมาสักพัก มันเคยหายไป และมันก็กลับมาอีก อายแค่ไม่คิดว่าหมอต๊ะจะสัมผัสได้ เพราะอายก็ลืมไปเลยตอนที่คุยกับเขา
ตอนนี้ที่อายอยู่ตอนนี้ทุกครั้งที่กลับมาสถานที่นี้
อายก็อยากจะตายให้มันจบๆไป ทุกๆครั้ง
เห็นหน้าเพื่อน รู้เรื่องพวกเขา อายก็อยากจะตายให้มันจบๆไป ทุกๆครั้ง
ที่บ้านพูดเรื่องอาชีพที่ไม่ได้เกี่ยวกับฟิลม์ อายก็อยากจะตายๆให้มันจบๆไป ทุกๆครั้ง
อายคิดถึงขั้นว่า หลังจากทำทีสิสจบ จะตายๆไปเลยดีไหม
ในห้วงที่มันเป็นแบบนี้อายรู้ว่ามันเป็นเพราะ depression
แต่ทุกอย่างที่หัวอายมันบอกอายตอนนี้ มันฟังดูขึ้นไปหมดเลยเนอะ
หมอต๊ะบอกว่าอย่าไปเชื่อมันมาก
อายเลยพยายามที่จะใช้ชีวิตให้มันผ่านไปวันต่อวัน
พยายามจะทำให้ตัวเองเดินไหว
อายพยายามให้ sadness ที่อายมีมัน blessing
อายพยายามอยู่
และอายก็ดีใจที่มีคนที่อดทนอยู่กับอาย
แม่งเอ้ย
อายแค่โกรธที่ตัวเองทำไม่ได้สักที
โกรธที่ตัวเองกลับไปเศร้า กลับไปอยากตายทุกๆครั้งถ้าอายตายจริงๆ
มันก็คงจบแหละ
หมายถึงคนที่สบายมันก็คืออาย
คนที่เศร้าคือคนที่อยู่
อายแค่ไม่อยากให้เขาเศร้า
อายแค่ไม่อยากให้เขาเศร้า
และอายก็อยากให้ตัวเองดีขึ้นกว่านี้ แค่นั้นเอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in