[*คำเตือน* บทความนี้อาจมีการกล่าวถึงเนื้อหาบางส่วนของเรื่อง]
หากเราจะกล่าวถึงภาพยนตร์แนวแอคชั่น สายลับ ในลุคของสุภาพบุรุษชุดสูทแล้วละก็ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาพยนตร์ King's Man คือหนึ่งในภาพยนตร์สายลับ ที่ใครหลาย ๆ คนคงจะต้องนึกถึงเป็นเรื่องแรก ๆ อย่างแน่นอน บวกกับฉากแอ็คชั่นที่เรียกได้ว่าครบรส มาพร้อมกับเรทภาพยนตร์ 18+ ที่ทำให้เราได้เห็นถึงการต่อสู้อันดุเดือด เลือดพล่าน ผ่านมุมกล้องสุดแปลกที่ไม่เหมือนใคร
ซึ่งความจริงแล้ว ภาพยนตร์ชุด
King's Man เป็นหนึ่งในผลงานการกำกับของ
Matthew Vaughn หรือผู้กำกับจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง
Kick Ass ที่เคยฝากผลงานให้เราได้คุ้นหูคุ้นตากันมาบ้างแล้วนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของผู้กำกับคนนี้คือการนำเสนอฉากแอ็คชั่น ผสมผสานกับมุมกล้องสุดแปลกแหวกแนวอย่าง
Point of view หรือ
มุมมองบุคคลที่ 1 เสมือนว่าเราได้มองผ่านสายตาของตัวละครนั้นเองจริง ๆ !!!
โดยในภาพยนตร์ The King's Man ภาคนี้ ไม่ใช่ภาคต่อแต่เป็น Prequel ของสองภาคก่อนที่ผ่านมานั่นเอง โดยเนื้อหาหลักของภาคนี้ จะเป็นการเล่าเรื่องราวเน้นไปที่จุดต้นกำเนิดขององค์กรสายลับอิสระอย่าง KINGSMAN มาผสมผสานเข้ากับการนำเรื่องราวจริงบางส่วนในสงครามโลกครั้งที่ 1 มาถ่ายทอดให้เป็นประเด็น ซึ่งเราบอกได้เลยว่าถ้าใครที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หรือเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 มาบ้างแล้ว จะทำให้การดูภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกขึ้นมากอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา จากที่เคยศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางยุโรปมาบ้าง ทำให้การดูภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถดูได้อย่างลื่นไหลและเข้าใจบทบาทของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องได้พอสมควร อย่างการที่ภาพยนตร์จะใช้ความขัดแย้งของตัวละครต่าง ๆ ซึ่งเป็นชนวนสำคัญ ที่ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง พร้อมทั้งสอดแทรกภารกิจลับ ของเหล่าผู้บุกเบิกองค์กร KINGSMAN อย่าง Orlando Oxford รับบทโดย Ralph Fiennes ดยุคผู้เคยผ่านสงคราม และการสูญเสียคนสำคัญของชีวิตมานับไม่ถ้วน มาพร้อมกับลูกชายของเขาอย่าง Conrad Oxford รับบทโดย Harris Dickinson เด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีความกล้าหาญ แน่วแน่ ใฝ่ฝันอยากเป็นทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติ
ซึ่งภายในตัวภาพยนตร์เอง จะบอกเล่าถึงความโหดร้ายของสงคราม การเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพียงเพราะความขัดแย้งที่เล็กน้อยของจักรวรรดินิยมในสมัยก่อนอย่าง อังกฤษ เยอรมนี และ รัสเซีย ทั้งหมดก่อสงคราม สู้รบกันไปมา จนผู้คนต่างบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
Orlando Oxford ที่ไม่เห็นด้วยกับสงคราม ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดการปะทะกันระหว่างประเทศเหล่านี้ โดยการก่อตั้งเครือข่ายแฝงตัวเข้าไปในประเทศต่าง ๆ เพื่อล้วงข้อมูลที่สำคัญ และพยายามแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศนั้น ๆ อย่างลับ ๆ แต่ด้วยความที่เขามีปมภายในจิตใจที่ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รักอย่าง Emily Oxford รับบทโดย Alexandra Maria Lara จึงทำให้เขาพยายามปกป้อง Conrad Oxford จากคำสัญญาสุดท้ายที่ให้ไว้กับภรรยา โดยการทำทุกวิถีทางเพื่อกีดกันไม่ให้ลูกชายคนสำคัญของเขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงคราม
แต่แล้ว เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งของชีวิต ตัวของ Conrad Oxford ไม่เข้าใจถึงการกระทำของพ่อ ผู้ซึ่งพยายามปกป้องและห้ามเขาไม่ให้เข้าร่วมสงคราม อีกทั้งเขาเองก็ยังไม่เข้าใจถึงความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ ส่วนตัวเรามองว่าตัวละครอย่าง Conrad นั้นเปรียบเสมือนนกในกรง ที่อยากบินออกไปเผชิญโลกกว้างด้วยปีกของตัวเอง ด้วยความมุ่งมั่น บวกกับความกล้าหาญ และความศรัทธาอันแรงกล้า เขาจึงพยายามทำทุกวิธี เพื่อให้ได้ออกไปเผชิญกับความจริงของโลกอย่างที่เขาเคยวาดฝันไว้ แต่แล้วในความเป็นจริง เมื่อเขาต้องพาตัวเองไปสู่สงคราม สิ่งต่าง ๆ ที่เขาต้องพบเจอ มันไม่ใช่ภาพฝันอย่างที่เขาคิดไว้เลย มันเต็มไปด้วยความโหดร้าย ทารุณ และความสิ้นหวัง...
ซึ่งภายหลังจากที่เราได้ดู The King's Man จบนั้น เกิดความรู้สึกขึ้นมากมายภายในใจ ทั้งผิดหวังและพอใจกับภาพยนตร์ ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรายังคงชื่นชอบและยังคงติดตามภาพยนตร์ชุด King's Man อยู่นั้น คือการกำกับของ แมทธิว วอห์น ที่มีทั้งมุมกล้อง ฉากแอ็คชั่น บวกกับการนำเสนอองค์ประกอบของภาพ ที่เราคุ้นเคยกันดีจากภาคก่อน ๆ ก็ได้ถูกนำมาใส่ในภาคนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าฉากการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์นั้น เป็นฉากที่เราประทับใจมากจริง ๆ และที่สำคัญการนำเสนอความร้ายแรง ผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากสงคราม ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากอีกเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ในตัวภาพยนตร์เอง ยังใส่ Easter Egg มาให้เราพอได้นึกถึงเรื่องราวของภาคที่ผ่าน ๆ มาอีกด้วย ส่วนในเนื้อหาของการดำเนินเรื่องนั้น เราแอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับการเดินเรื่องบางฉากของตัวละคร เพราะรู้สึกว่าตัวละครบางตัวที่เหมือนจะเด่น กลับถูกลดบทบาทลงไปมากพอสมควร อีกทั้งยังรู้สึกเสียดายที่ต้องสูญเสียตัวละครบางตัวไป แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะถ้าใครเคยมีโอกาสได้ดูภาคที่ผ่าน ๆ มาของภาพยนตร์ชุดนี้ ก็คงพอจะเข้าใจกันดีว่า "ถ้าไม่สูญเสียก็คงไม่ใช่ภาพยนตร์คิงส์แมน" ซึ่งการจะตัดบทหรือฆ่าตัวละครสำคัญของเรื่องทิ้งนั้น คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ชมอย่างเราเซอร์ไพรส์มากพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์ชุดนี้ T__T
และถ้าหากใครที่ยังไม่เคยได้ดูภาพยนตร์แนวสายลับ ที่แปลกใหม่ บวกกับมุมกล้องสุดเจ๋งอย่าง King's Man มาก่อน เราขอแนะนำให้เริ่มดูตั้งแต่ภาคนี้เป็นต้นไปได้เลยนะ!!! แล้วเชื่อเถอะว่าคุณจะต้องตกหลุมรักตัวละครในทุก ๆ ภาคของภาพยนตร์ชุดนี้อย่างแน่นอน :-)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in