เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#Sissunอ่าน ไปทั่วsissun
เมษาลาตะวัน
  • เราล้วนต่างเคยรู้สึกเป็นคนนอกกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์หรือ ณ ห้วงเวลาใดเวลาหนึ่งหรือ...ตลอดไป หนังสือเล่มนี้ได้เขียนลงปกท้ายไว้ว่า เป็นจดหมายรักแด่ทุกคำอธิษฐานของ ‘คนนอก’ ที่ขอเพียงให้ได้เข้าไปอยู่ในวงสักวงที่เป็นของตัวเอง

    แม้ชื่อหนังสือจะขึ้นต้นด้วยเมษา ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนที่แดดจ้าจนต้องหยีตา ท้องฟ้าใสและอบอ้าว แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่าตอนนี้ที่อากาศกำลังหนาว ๆ ก็ได้เวลาที่จะหยิบมาอ่านซักที อาจจะเป็นเพราะปกเป็นสีฟ้าโทนหม่น และคำว่า 'ลาตะวัน' จึงชวนให้เรารู้สึกแบบนั้น 

    ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงที่เมษา...เดือนเมษายน ณ อำเภอห่างไกล เป็นเรื่องราวของเมษาและเด็กอีกสองคน หนุ่มลูกครึ่งข้างบ้านที่เพิ่งย้ายมาใหม่หลังจากพ่อเมษาทิ้งแม่กับเมษาไป ซันเรย์ หรือให้เมษาเรียกเขาว่า 'ตะวัน' จังหวะที่ตัวละครตัวนี้เผยชื่อออกมา สมองเรารู้สึกเหมือนมีอะไรมากระทบดัง ปึง เพราะหวนย้อนกลับไปนึกถึงชื่อหนังสือ ทำให้เราพอจะรู้ว่าหนังสือจะทำงานกับอารมณ์ความรู้สึกเราประมาณไหน (แต่เรายังมีความหวังอยู่ คอยเอาใจช่วยเด็กทุกคนในเรื่องนี้เสมอ) ส่วนเด็กอีกคนคือ 'ไนท์' เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคนเดียวที่เมษาใกล้ชิดที่สุด ไนท์กับตะวัน กลางคืนกับกลางวัน แต่กลับเข้ากันได้ดี จนทั้งสามคนได้ก่อตั้งกลุ่มลับ ๆ ชื่อว่า บุคคลภายในห้ามเข้า

    ***เนื้อหาข้างล่างต่อไปมีการสปอยล์***

    ช่วงแรก ๆ เรายังต่อไม่ติดแอบรู้สึกว่าบางทีละคำเชื่อมจนทำให้รู้สึกห้วน ๆ ช่วงแรก (เราก็ไม่แม่นเท่าไหร่แต่รู้สึกมันห้วน ๆ อ่ะ) แต่พอกลางเล่มเรารู้สึกไหลลื่นแล้ว เด็ก ๆ เขาก็จะมีปัญหาของแต่ละคน คือปัญหาครอบครัว เมษาเป็นเด็กเงียบ ๆ คืนหนึ่งพ่อทะเลาะกับแม่แล้วก็จากไป ส่วนแม่ก็กลายเป็นว่าทิ้งลูกไว้ให้อยู่บ้านคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ ตอนเราสิบห้านี่แค่เครียดเรื่องเรียนอย่างเดียวก็จะตายแล้วค่ะ

    ครอบครัวตะวันพ่อแต่งงานใหม่หลายครั้ง จนตะวันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่คนไหนคือแม่แท้ ๆ ของตัวเอง เราว่าเรื่องนี้ทำให้ตะวันกลายเป็นคนที่ภายนอกเหมือนจะโอเคตลอดเวลาแต่เขาจะทำให้รู้สึกว่ามีกำแพงล่องหนคอยกันไม่ให้เราเข้าไป แต่พื้นที่ปิดตายนั้นได้เว้นช่องว่างให้เมษาเสมอ อีกอย่างคือตะวันเป็นเกย์ เรารู้สึกเสียใจที่การที่ตะวันจะบอกใครซักคนว่าเป็นเกย์นั้น เขามีความกลัวกลัวว่าคนอื่นจะผิดหวัง จะรังเกียจ เวลามีใครซักคนที่รู้เข้า และเห็นได้ชัดเจนว่าพ่อตะวันไม่ยอมรับ

    ไนท์ เป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่แตกต่างกับเมษาและตะวัน เพราะที่บ้านเปิดร้านคาราโอเกะ ไนท์ต้องช่วยงานที่ร้านตอนกลางคืน ซึ่งจะมีลูกค้าที่เข้ามายุ่งวุ่นวายแต่สิ่งที่น่าเศร้าคือ แม่และน้ากลับไม่ปกป้องเขาเลย เพราะเหตุผลแค่ไนท์เป็นผู้ชาย สิ่งนี้เรารู้สึกว่ามันคือ toxic musculinity มันลดทอนความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับไนท์

    แม้จะมีความเศร้าที่อัดแน่นอยู่ แต่ก็มีจังหวะที่ให้เราได้ผ่อนคลาย คือ เวลาที่เด็ก ๆ อยู่ด้วยกัน คนนอกกะคนนอกมาอยู่ด้วยกัน งั้นคนในคนอื่นก็ย่อมกลายเป็นคนนอกเหมือนกัน แต่เพราะยังเป็นเด็กนั่นแหละ ครอบครัวที่เลือกไม่ได้จึงมีอิทธิพลต่อชีวิตของแต่ละคนอย่างมาก สุดท้ายกลายเป็นกรงคุมขังเอาไว้ และบางทีมันอาจจะระเบิดได้

    เราไม่ได้เศร้าขนาดนั้น มันค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ แต่เรามีความหวังเสมอค่ะ ขนาดที่ว่าอ่านชื่อบทสุดท้าย ก็ยังดีใจนึกว่าไม่ได้จบแบบที่เราเดาไว้ จนเราอ่านไปบรรทัดแล้ว บรรทัดเล่า... that hit me so hard จนจบเล่ม เรานิ่ง แล้วกลับไปอ่านซ้ำบทท้ายอีกรอบ ประมวลผลใหม่อีกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนรู้สึกว่ามีแต่ความเสียใจในอากาศ ไม่ได้ร้องไห้โฮ เราแค่อยู่นิ่ง ๆ แล้วก็ได้แต่คิดว่า ตอนนี้เมษาทำอะไรอยู่หนอ อากาศแบบนี้เมษาจะหนาวไหม ตอนนี้เขาอ่านนิยายเล่มไหนอยู่หนอ

    สวัสดีค้าบ ขอให้หนาวนี้ไม่ยากที่จะทานทน ขอให้เมษายนสดใสกระจ่าง
    thanks for cover photo by Pervez Robin on Unsplash
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in