“นายท่าน มีลูกค้ามารอพบค่ะ”
เสียงหวานใสของเด็กสาวแย้มเอ่ยเจื้อแจ้ว เรียกให้ชายหนุ่มผมสีแดงส้มในชุดคลุมสีเข้มตวัดสายตาไปมอง
“บอกให้เขากลับไป อาทิตย์นี้เราจะไม่รับลูกค้า กระจายข่าวไปให้ทั่ว อย่าให้ใครเข้ามาในบริเวณบ้านเด็ดขาด”
“แน่ใจเหรอคะ วันนี้อากาศดี เหมาะแก่การต้อนรับลูกค้านะคะ” อันยูจินถามเสียงเซื่องซึมผิดหวัง มองออกไปด้านนอกต่างที่เป็นท้องฟ้าสดใสและมีฝูงนกบินผ่าน สายลมเย็นที่พัดโบกเข้ามาแผ่วเบา หอบเอากลิ่นหอมของแสงอาทิตย์และฤดูใบไม้ร่วงให้โชยเข้ามาในตัวบ้าน
“อีกไม่นานก็จะมาถึงแล้ว รอต้อนรับเถอะ”
อิมยองมินตอบเรียบๆ ขณะเด็ดกลีบดอกสีแดงของต้นเมนเดรกหนึ่งกลีบใส่ลงในหม้อต้มยา อันยูจินได้แต่พยักหน้าเบาๆ ไม่คิดซักไซ้ต่อ ขอตัวไปกล่าวปฏิเสธลูกค้าที่ยืนรอด้านนอก รวมถึงเดินออกจากตัวบ้านเพื่อไปกระจายข่าวให้เพื่อนบ้านโดยรอบได้รับรู้
อิมยองมินเบือนสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างด้วยแววตาเรียบเฉย เหม่อมองอยู่เนิ่นนานราวกับรอคอยบางสิ่ง แต่เมื่อไม่เห็นสิ่งที่เฝ้ารอ เขาก็หันกลับมาสนใจหม้อต้มยาขนาดเล็กตรงหน้าอีกครั้ง พร้อมกับยื่นมืออังเหนือตัวหม้อ พร้อมกับร่ายเวทด้วยน้ำเสียงสูงต่ำสลับกันราวขับขานบทกวี
สะท้อน สะท้อน เพลงกล่อมเด็กยามราตรี
ขับขาน ขับขาน บุตรแห่งซันซาชิ ให้หนามของเจ้าทิ่มแทงกีบเท้าผู้อดทน
ประกายแสงราวกับละอองดาวสีแดงกับเขียวปรากฏขึ้นเหนือหม้อต้มยา เมื่อแสงนั้นจมลงไปในของเหลวสีใสในหม้อ มันก็แตกสลายรวมเป็นเนื้อเดียวกับของเหลว พร้อมกับมีฟองเล็กๆ ฟูฟ่องออกมาเบาๆ เหนือผิวน้ำ ถือเป็นเครื่องยืนยัน ว่า น้ำเสกป้องกันฝันร้าย นั้นเสร็จสมบูรณ์
สายลมผันเปลี่ยนที่พัดโบกเข้ามา ทำให้อิมยองมินหันไปมองหน้าต่างอีกครั้ง
แววตาที่เรียบนิ่งมาตลอด ทอประกายวิบวับขึ้นมาครู่ เขารีบยื่นมือไปด้านหน้า ทำให้นกกระดาษเวทมนตร์ที่เพิ่งบินเข้ามาผ่านบานหน้าต่างบินมาเกาะบนหลังมือ ก่อนจะกลายสภาพเป็นจดหมายหนึ่งแผ่น จอมเวทหนุ่มไม่รอช้า รีบคลี่จดหมายอ่านแทบทันที
ของจะส่งถึงตอนสิบโมง เตรียมสิ่งแลกเปลี่ยนเอาไว้ให้ดี
อิมยองมินรีบหันไปมองนาฬิกาโบราณที่แขวนตรงผนัง ซึ่งเป็นจังหวะที่เข็มสั้นชี้ที่เลขสิบและเข็มนาทีทาบทับลงบนเลขสิบสอง ทันใดนั้น บริเวณพื้นบริเวณห้องนั่งเล่นก็ปรากฏวงเวทย์ขนาดใหญ่ขึ้น ก่อนจะตามด้วยเปลวไฟสีฟ้าสว่างลุกมอดไหม้ แต่แทนที่เปลวไฟจะแผดเผาสิ่งรอบข้างให้กลายเป็นขี้เถ้า ทุกอย่างกลับยังคงสภาพเดิม ราวกับเปลวไฟนี้เป็นเพียงสายลมพัดผ่าน และเมื่อเปลวไฟมอดลง ก็ปรากฏชายหนุ่มผมสีน้ำเงินหน้าตาหล่อเหลาท่าทางขี้เล่นในชุดสูท พร้อมกับโลงศพขนาดใหญ่สีดำเลื่อม
“มาส่งของคร้าบ สิบโมงเป๊ะๆ ตามนัดหมาย”
“แน่ใจแล้วเหรอว่าพามาถูกต้อง” อิมยองมินถามอีกฝ่ายสั้นๆ
“เชิญตรวจสอบสินค้าได้เลย” คิมดงฮยอนตอบสั้นๆ เตะโลงศพที่วางตั้งอยู่ให้ล้มตึงลงกับพื้น พร้อมกับเตะฝาให้เปิดอ้าออก เผยให้เห็นเด็กหนุ่มผมแดงตัดสั้น ผิวขาวสว่าง ในชุดเชิ้ตขาว และกางเกงขายาวสีเดียวกัน เด็กคนนั้นนอนหลับตาพริ้มภายในโลงที่บุด้วยกำมะหยี่สีแดง “สภาพสมบูรณ์และงดงามราวตุ๊กตาเลยละ กว่าจะหาเจอก็เล่นเอาเหนื่อย”
อิมยองมินไม่สนใจเด็กส่งของที่พูดจ้อไม่หยุด เขาสาวเท้าไปใกล้โลง ย่อตัวลงต่ำและพลิกร่างของเด็กหนุ่มในโลงให้ตะแคงข้าง เผยให้เห็นต้นคอด้านหลังที่มีปานสีแดงราวกับกลีบดอกไม้ปรากฏอยู่
“ใช่ที่ตามหาไหม” คิมดงฮยอนถาม
“ไม่ผิด”
อิมยองมินหยัดตัวลุกขึ้นยืน หันไปเผชิญหน้ากับเด็กส่งของ พร้อมยื่นมือออกมาด้านหน้า เขากำมือหนึ่งครั้ง และเมื่อแบออกก็ปรากฏแหวนสีทองลวดลายเขี้ยวเล็บมังกรฝังอัญมณีสีแดงตรงกลาง
“รับค่าตอบแทนไปซะสิ”
“อืม เอาจริงๆ สเลย์เบก้าก็ค่อนข้างเป็นของหายาก แถมตอนที่ตกลงกันก็ไม่ได้บอกว่าให้ตามหาของหายากแบบนี้ ค่าตอบแทนเป็นแค่แหวนวงเดียวเนี่ย ไม่คิดว่ามันถูกเกินไปหน่อยเหรอ” คิมดงฮยอนเดาะลิ้นเบาๆ มองสลับไปสลับมาระหว่างแหวนกับเด็กหนุ่มผมแดงที่นอนหลับสนิทอยู่ อิมยองมินไม่ตอบ เขากำมือและแบออกอีกครั้ง ปรากฏแหวนสีเงินประดับด้วยอัญมณีสีน้ำเงินงดงามขึ้นข้างแหวนในตอนแรก “ยอดเยี่ยม แค่มีสองชิ้นนี้ก็สบายหายห่วงกับการใช้เวทมนตร์ไปได้สักสามสี่ปี”
“ถ้าหมดธุระก็กลับไปได้แล้ว” อิมยองมินตัดบท
“เย็นชาไม่เปลี่ยน แต่ก็ขอบคุณที่ใช้บริการ หากต้องการให้ตามหาของหรือจัดส่งของ สามารถเรียกใช้ได้เสมอ” คิมดงฮยอนทาบฝ่ามือลงบนอก ก้มโค้งให้ด้วยท่าทางสง่า พร้อมกับเปลวไฟสีน้ำเงินลุกโชติช่วง ในจังหวะที่เปลวไฟใกล้มอดดับ พ่อมดหนุ่มก็เอ่ยขึ้นอีกประโยค “เพื่อขอบคุณสำหรับค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น จะบอกชื่อของสินค้าให้ฟังฟรีๆ ก็แล้วกัน”
“ว่ามา”
พ่อมดหนุ่มขยับปากเป็นคำสามพยางค์ ก่อนที่ร่างของชายหนุ่มจะหายไปพร้อมกับเปลวไฟ
แววตาของอิมยองมินไหววูบเล็กน้อย จากนั้นจึงหย่อนตัวลงนั่งบนขอบโลง เลื่อนมือไปแตะสัมผัสแก้มเนียนของคนที่กำลังหลับฝันอยู่ วินาทีที่ฝ่ามือทาบลง เจ้าของใบหน้าหวานก็ขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ปรือตาขึ้นอย่างแช่มช้า ประสานสายตากับจอมเวทหนุ่มที่นั่งอมยิ้มบาง
อิมยองมินใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มขาวแผ่วเบา กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงทุ่มนุ่ม
“อรุณสวัสดิ์ จองเซอุน”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in