เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการฝึกงานของนิสิตท่านหนึ่ง ที่ฝันอยากเป็นครูอนุบาลPaan Nalinchat
week 5 & 6 : มหกรรมความวุ่นวาย
  • "เริ่มต้นวันวุ่น ๆ ในสัปดาห์ที่ 5 กับคนว่างงานที่มีงานทำ"

    หลังจากที่เราเขียนสมุดของเด็กอนุบาล 1-3 เสร็จแล้วก็ว่างเลย ไม่ค่อยมีงานอะไรให้เราทำแล้ว เราก็ช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเรื่อยแล้วแต่ว่าพี่คนไหนจะให้เราทำอะไร อย่างเติมหมึกปากกา ตัดกระดาษ เช็ดสีชอล์ก พอวันพฤหัสปุ๊ปงานมาเต็มโต๊ะเลย พอว่างก็ว้างว่าง พอมีงานทีก็มาเต็มเลย (ดีนะเคลียร์งานเร็ว) และแล้วเราก็ได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นครูเพราะอยากปั๊มวันที่ในสมุด วันนี้เราได้ทำแล้วนะ เราชอบมาก (อาจจะดูไร้สาระไปนิด แต่ตอนเด็ก ๆ เราอยากทำมากเลยนะ) แรก ๆ เราใช้ตัวปั๊มไม่เป็นเพราะมันไม่ใช้แบบที่เราเคยเห็นครูใช้ตอนประถม ก็เลยเอ๋อเล็กน้อย ใช้ไปมั่ว ๆ (ดีนะไม่ทำของเขาพัง) พอพี่ทิพย์สอน ก็เกิดการเรียนรู้ ทีนี้ล่ะใช้เป็นแล้ว ปั๊มสนุก ปั๊มเพลิน แอบปั๊มผิดไปด้วย

    งั้นก็มาต่อที่คาบศิลปะของพี่อนุบาล 3 กันเลย ในสัปดาห์นี้เราสอนพิมพ์นิ้วมือ ก่อนอื่นก็แจกอุปกรณ์ให้น้องก่อน พอถึงเวลาวาดรูปเราก็ช่วยสอนน้องที่ทำไมได้ ตามครูไม่ทัน แต่ละห้องวาดไม่เหมือนกันเลย แล้วแต่ว่าแต่ละห้องจะวาดธีมอะไร สัตว์ทะเล สัตว์ป่า ไดโนเสาร์ หรือเจ้าหญิง เวลาวาดก็เว้นส่วนหาง ครีบ ปีก แผงคอ หรือผมไว้สำหรับพิมพ์นิ้วมือ พอวาดรูประบายสีเสร็จแล้วก็พิมพ์นิ้วมือกัน เราก็ใช้พู่กันทาสีที่นิ้วน้องแล้วให้น้องพิมพ์นิ้วเป็นลาย บางคนหันมือไม่ถูก ไม่รู้จะหันยังไง พิมพ์ทางไหน เราก็จับมือเขาพิมพ์ก่อน แล้วให้เขาทำเองดู หรือเราช่วยหมุนสมุดให้น้องพิมพ์นิ้วเอง มีน้องคนนึงเขากลัว เขาก็ถามเราว่า ทาสีนิ้วเจ็บไหม เขากลัวเจ็บ  เพราะเขาไม่เคยทำมาก่อน เขาก็เลยกลัว เราก็บอกเขาว่าไม่ต้องกลัว มันไม่เจ็บเลย ถึงน้องจะดูไม่มั่นใจแต่ก็ยอมให้เราทาสีที่นิ้วเขา พอเขาไม่กลัวแล้วก็ตั้งใจทำเชียวล่ะ

    คาบพิเศษเย็นสัปดาห์นี้เราสลับไปช่วยพี่ปุ๋ยบ้าง พี่ทิพย์บ้าง ของพี่ปุ๋ยได้ปั้นกระุกออมสินสัตว์ทะเล เราก็ช่วยแบ่งดินให้น้อง บางทีก็สอนปั้นสัตว์บ้าง ส่วนของพี่ทิพย์เราก็ยังช่วยดูแก๊งเด็กเตรียมอนุบาลอย่างเจ้าทรัพย์กับเฌอบุญ พอเราบอกว่าวันนี้มาทำกบกัน เจ้าทรัพย์ก็พูดต่อทันที "กบอ๊บ ๆ " สัปดาห์นี้หนุ่มน้อยของเราเริ่มเก่งขึ้นแล้ว เริ่มวาดเองได้แล้ว มีเราช่วยประคองมือวาดบางจุด แถมเลือกเองด้วยว่าจะวาดตรงไหนก่อน ส่วนเฌอบุญ ก็ยังพูดเก่ง คุยเก่ง ทำงานเก่งเหมือนเดิม ทะเล้นมากคนนี้ ยิ้ม หัวเราะทั้งคาบเลย เราสอนไปก็ยิ้มไป แถมยังต้องเรียกให้ทำงานงานด้วย

    ผลงานของเญอบุญ วาดเอง ระบายสีเอง เก่งเนอะ
    ปัญหาที่เรามักจะเจอเวลาสอนทั้งเจ้าทรัพย์กับเฌอบุญ คือ พอทำไปได้สักพักก็เริ่มไม่ค่อยอยากทำแล้ว เพราะเขายังจดจ่ออะไรนาน ๆ ไม่ได้ เราก็เลยต้องเรียกให้เขาทำงานบ่อย ๆ แล้วก็เวลาเราให้เด็ก ๆ จุดสีเกือบทุกคนเลย เขาจะจุดอยู่ย้ำ ๆ อยู่ที่เดิม ๆ แทนที่จะเป็นจุดกระจาย มันเลยเป็นจุดดวงใหญ่ ๆ อยู่ที่เดียว เราต้องคอยบอกว่า "จุดตรงนี้ด้วย ๆ อย่าจุดที่เดิม ตรงไหนยังมีสีขาวอยู่ก็จุดตรงนั้นเลย" น้องก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แล้วกระดาษก็ใหญ่ด้วยเนอะ มีน้องก็เล็ก คงจะมีเมื่อยกันบ้าง เราก็เราจุดสีด้วยกันกับน้อง พอจุดตรงนี้น้องก็จะมาจุดใกล้ ๆ เรา ย้ายไปนู่นน้องก็จะตามเราเป็นเงาเลย น่ารักเนอะ สรุปก็งานเสร็จ งานสวย เพราะน้องเก่ง (& พี่ช่วยทำนิดหน่อย) 

    อย่างหนึ่งที่เราชอบตอนสอนพิเศษก็คือ การพาน้องไปล้างมือหลังทำงานเสร็จ พอบอกว่า "เสร็จแล้ว ไปล้างมือได้" น้องก็จะลุกขึ้นยืนอย่างดีใจ แล้วก็ออกไปล้างมือ หลายครั้งเราจะเป็นคนพาน้องไปล้างมือ เราก็จะยื่นมือให้น้องจับแล้วก็จูงมือพากันไปล้างมือที่ห้องน้ำ น้องดูแฮปปี้สุด ๆ จูงมือไปน้องก็กระโดดโลดเต้นไป ขากลับก็วิ่งกลับห้องเลย จะได้กลับบ้านแล้ว เลยอารมณ์ดี ถือเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เราชอบมากที่สุดเลย


    "มาต่อกันที่สัปดาห์ที่ 6 กับคนว้าวุ่นที่มาพร้อมกับความวุ่นวาย"

    สัปดาห์นี้เราก็เวียนมาสอนน้องอนุบาล 1 กับ 2 อีกครั้ง เริ่มต้นสอนอนุบาล 1 เค้าลางความวุ่นวายก็มาให้เห็นทันที สัปดาห์นี้วาดรูปปลาจากรูปทรงเราขาคณิต พร้อมรับายสี ปะติดกระดาษหรือพิมพ์นิ้วมือเป็นเกร็็ดปลา หลายขั้นตอนเลยบางห้องน้องวาดได้ก็วุ่นวายน้อยหน่อย แต่ห้องไหนที่เด็กทำไม่ได้เลย เราต้องเดินเวียนจับมือคนนู้นวาดที คนนี้วาดที ปัญหาหลักคือน้องวาดตามบนกระดานไม่ทัน เราก็เลยช่วยสอนเขาซ้ำอีกรอบ ส่วนระบายสีดูเหมือนง่าย แต่พอละสายตาไปแป๊ปเดียวน้องก็ระบายสีผิดช่องแล้ว น้องหลายคนไม่เข้าใจว่าต้องเว้นช่องตรงตัวปลาไว้ปะติดเป็นเกร็ด พอให้ระบายสีน้องก็เลยระบายตัวปลาทั้งหมดเลย เราต้องคอยบอกเขาว่าอย่าระบายตรงตัวปลานะ 

    มาต่อกันที่อนุบาล 2 สัปดาห์นี้มาวาดสัตว์เลี้ยงกัน น้องจะวาดสัตว์เลี้ยงประมาณ 2-3 ตัว ส่วนใหญ่ก็วาดสุนัขกับแมว จากนั้นก็วาดสิ่งแวดล้อมพวกพื้น หญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ บ้าน ก้อนเมฆ 2 ก้อน แล้วก็พระอาทิตย์ น้องยังมีปัญหาเรื่องวาดรูปเล็กอยู่เหมือนเดิม เราก็ลบแล้วให้เขาวาดใหม่ หรือบางทีก็จับมือเขาวาดเลย ส่วนเรื่องระบายสี น้องทำได้ค่อนข้างดีเลย แต่เพราะรูปที่วาดมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ บางคนเลยไม่ค่อยอยากทำเท่าไหร่ เราต้องกันมาจี้เขาบ่อย ๆ หรือบางคนที่ทำงานช้าเลยทำไม่ทัน เราก็ช่วยน้องระบายสีพวกพื้นดิน หญ้า หรือต้นไม้ แล้วให้น้องระบายตัวสัตว์หรือรายละเอียดที่สำคัญ ๆ แต่บางทีน้องก็ระบายสีไม่เรียบร้อย ด้วยความที่ครูต้องการให้งานออกมาเพอร์เฟกต์ เราก็เลยช่วยระบายสีซ้ำให้สวยขึ้นด้วย

    คาบพิเศษเย็นสัปดาห์นี้เราช่วยพี่ทิพย์สลับกับพี่ปุ๋ยเหมือนเดิม ของพี่ปุ๋ยเราก็สอนน้องปั้นสัตว์ทะเลต่อ พี่ปุ๋ยจะปล่อยให้เราสอนน้องเองเลย แต่ก็หันมาช่วยดูเราบ่อย ๆ ส่วนของพี่ทิพย์เราสอนน้องปั้นดินน้ำมันเป็นก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ เริ่มต้นด้วยการคลึงดินน้พมันเป็นเส้นยาว ๆ เราจะเจอปัญหาคือ ถ้าเป็นเด็กเตรียมอนุบาล เขาจะคุมน้ำหนักมือไม่ได้ แล้วก็ชอบเล่น เขาเลยยังคลึงเป็นเส้นยาวไม่ได้ หรือบางทีก็ชอบบี้หรือรูดดินน้ำมันติดโต๊ะ (แต่น้องดูสนุกกับการทำนะ) ส่วนอีกปัญหาที่เราเจอเวลาสอนเด็กทุกคนเลยคือ เวลาคลึงเส้น มือสองข้างเขาจะไม่ทำงานไปพร้อมกัน มือนึงคลึงอีกมือจะหยุด หรือทำสลับข้างกัน เส้นก็เลยขาดและไม่เสมอกัน เราก็ช่วยต่อเส้นให้เขาทำใหม่ หรือคนไหนที่เราเห็นว่าเก่งก็จะสอนให้เขาต่อส่วนที่ขาดเอง เรื่องน้ำหนักมือกับการวางทิศทางมือเป็นปัญหาของเด็กทุกคน ตั้งแต่เตรียมอนุบาล-อนุบาล 3 เลย เขายังกะแรงไม่ถูก เราบอกให้น้องเบาน้องก็ยังเบาให้เราไม่ได้ เราก็เลยจับมือสอน
    ผลงานของแม็ก เจ้าหนุ่มอ. 1 พูดเก่งมาก คุยกับเราทั้งคาบเลย (บางทีเราก็ไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร เพราะเขายังพูดไม่ชัดมาก
    เราก็เออออไปกับเขาทุกเรื่อง 555)
    สรุปแล้วมหกรรมความวุ่นวายน่ะ ก็หมายถึง 'ตัวเราเอง' นี่แหละ ที่วุ่นวายหัวหมุนไปเอง หันไปหันมา ใครเรียกเราก็รีบเดินเข้าไปหา หรือเราจำได้ว่าคนไหนช้าพอเราไปดูคนอื่นแล้ว ก็รีบกลับมาดูเขาต่อ
    เพราะกล้วน้องจะทำไม่ทัน เลยโดนแซวว่าเหมือนตัวตุ่น เพราะเดี๋ยวเราก็เดินไปทางนั้น เดี๋ยวก็โผล่มาทางนี้ แป๊ปเดียวก็แว๊บไปนู่นแล้ว พี่บอกว่าเราดูทำอะไรเร็ว ๆ เหมือนรีบไปหมด แบบปุ๊ปปั๊ป ๆ พอพี่เขาบอก ก็ลองกลับมาดูตัวเอง เราก็ดูรีบจริง ๆ ตัวเราดูวุ่นวายไปหมดเลย พอเรารีบก็เหนื่อยเอง มึนเอง ก็เลยลดสปีดตัวเองลง ค่อย ๆ ดูน้อง ช้า ๆ ดูไปทีละคน ใครไม่ได้ก็สอนนั่งสอนเขาที่ตรงนั้นเลย พอมีคนเรียกก็ค่อยเดินไปหา พอเราช้าลงแล้วรู้สึกว่าเราดูใจเย็นขึ้น ไม่เหนื่อย ไม่ลนเท่าไหร่แล้ว แถมดูมีสติมากขึ้นด้วย (เพราะบางทีเราก็แอบเอ๋อ ๆ งง ๆ อยู่เหมือนกัน)



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in