หลังจบงานเช็คลิสต์ผลงานแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อก็คือการกลับมาออกแบบโปสการ์ดที่พี่ไนซ์มอบหมายเอาไว้ จริงๆแล้วฉันคิดมาตลอดว่าแค่ออกแบบโปสการ์ดมันจะไปยากอะไรวาดให้ดูมีอะไรก็ถือว่าใช้ได้แล้ว จนกระทั่งมานั่งออกแบบจริงจังนี่แหละถึงได้รู้ว่าความยากคือจะทำยังไงให้โปสการ์ดออกมาดี
คำที่ฉันเริ่มพูดบ่อยขึ้นก็คือหมดไอเดีย เพราะปัญหาของฉันก็คือยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าอยากจะใช้มุมไหนของหอศิลป์มาออกแบบโปสการ์ดจะมุมกระจกกลมสุดฮิต มุมหันหลังยืนดูผลงาน หรือจะมุมทางเดินที่วนเป็นวงกลมแล้วถ้าเลือกมุมได้แล้ว ฉันควรจะวาดอะไรเพิ่มเติม โทนสีแบบไหน เทคนิคอะไรซึ่งจริงๆ แล้ว ทุกอย่างจะเป็นเรื่องง่ายมากถ้าฉันไม่คิดเยอะเกินไป
เริ่มต้นจากการเข้าแอพprocreate ตั้งค่ากระดาษที่ต้องการและลองเลือกบรัชที่ถูกใจสำหรับฉันแล้วสิ่งเดียวที่มั่นใจคือวาดในไอแพดคงถนัดมือกว่าการใช้เมาส์ปากการวมไปถึงความคิดที่ว่าไหนๆ ก็ซื้อแอพมาแล้ว จะไม่ใช้ทำอะไรซักอย่างมันก็น่าเสียดายจากนั้นไอเดียก็ค่อยๆ มาทีละนิดละหน่อย
โปสการ์ดแบบแรกเป็นมุมบันไดทางเดินที่วนขึ้นไปตามผนังมีรูปวาดมากมาย ส่วนผู้ชมก็มีตั้งแต่เด็ก คู่รัก ผู้สูงวัยและสัตว์น้อยใหญ่ที่ฉันนึกออกมันอาจดูแปลกว่าทำไมต้องวาดให้สัตว์มาเดินอยู่ในหอศิลป์แต่ฉันที่พยายามคิดแบบคนที่มีอะไร (?) ก็คิดแค่ว่า เพราะศิลปะไม่มีกรอบ ไม่ว่าจะคน สัตว์หรือสิ่งของก็เข้าถึงศิลปะกันได้หมด
แบบที่สองเป็นมุมห้องนิทรรศการภายในหอศิลป์และแบบที่สามที่เป็นรูปอาคารหอศิลป์ด้านนอกซึ่งทั้งสามแบบใช้บรัชและโทนสีที่ต่างกัน แต่ถ้าถามว่าฉันชอบโปสการ์ดแบบไหนที่สุดฉันก็ตอบได้เต็มปากว่าชอบแบบแรก
ถึงแม้ว่าการออกแบบโปสการ์ดจะเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว(เพราะฉันเพิ่งจะเขียนบล็อกเอาตอนนี้) แต่ฉันก็ได้เรียนรู้ว่าการทำงานแบบไหนก็ไม่ง่ายถ้าไม่ได้ลองทำมาก่อนโดยเฉพาะฉันเองที่แทบไม่เคยได้ทำงานอะไรพวกนี้
บทเรียน (
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in