สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้ซามุรีวิวจะมารีวิวการสอบโทอิค ปี 2020
ขอแนะนำตัวข้อสอบโทอิคแบบคร่าวๆ ก่อนน้า โทอิคที่เราสอบมาอะจะแบ่งเป็น 2 พาร์ทใหญ่คือ พาร์ทฟังกับพาร์ทอ่าน ซึ่งก็จะแบ่งรูปแบบข้อสอบย่อยลงมาอีก
พาร์ทฟัง 495 คะแนน 100 ข้อ
1 ดูรูปและฟังคำบรรยายภาพ
2 ฟังคำถามและคำตอบ เลือกช้อยคำตอบที่เราฟังแล้วเข้ากับคำถาม ให้ฟังอย่างเดียวไม่มีอะไรให้อ่าน
3 ฟังบทสนทนาแล้วตอบคำถาม โดยเราต้องฟังไปด้วย อ่านโจทย์+คำตอบไปด้วยต่างหาก
4 ฟังคนพูดคนเดียวแล้วตอบคำถาม อันนี้จะมีทั้งฟังประกาศ ฟังบรรยาย ไม่ก็ข้อความเสียง ต้องฟังไป อ่านไปเหมือนกัน
พาร์ทอ่าน 495 คะแนน 100 ข้อ
1 เติมคำในประโยค ทดสอบแกรมม่าและคลังคำศัพท์
2 เติมคำ วลี หรือประโยคในบทความ ทดสอบแกรมม่าและความเข้าใจความต่อเนื่องของเนื้อหาที่อ่าน
3 อ่านและตอบคำถาม ทดสอบความเร็วของสายตาและความมโน
ต่อไปเป็นบทสัมภาษณ์ผู้ที่ผ่านประสบการณ์สอบมาแล้ว อยากให้เป็นการแชร์หลายๆ มุมมอง
ผู้เข้าสอบนัมเบอร์วัน
ก่อนอื่นเลยเราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบก่อน แนวทางต่างๆในการสอบ ดูรีวิวว่ายากง่ายแค่ไหน จะได้ทำใจถูก ;-; แล้วปีที่เราสอบดันโป๊ะเช้ะ มีการปรับเปลี่ยนข้อสอบให้ยากขึ้น!!! สุดยอดมาก เราทำอะไรมากไม่ได้นอกจากทำใจ เฮ้อ...
1. พื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นยังไง
ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานภาษาเราอยู่ระดับกลางๆค่อนไปทางบนๆ (เรียนภาษาอังกฤษเป็นวิชาโท) เราอยู่กับภาษาอังกฤษมาตลอด 4 ปี เลยค่อนข้างจะคุ้นเคยกับมันอยู่พอสมควร สิ่งที่เราถนัดที่สุดคือการฟังค่ะ เรื่องแกรมม่าก็พอถูไถแต่ไม่แม่นสักเท่าไร
2. เตรียมตัวยังไงบ้าง
ยอมรับตรงนี้ว่าเราแทบจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยสักกะนิด!!! นอกจากลองทำข้อสอบฟัง 2-3 รอบให้พอรู้แพทเทิร์นของข้อสอบแค่นั้นเองค่ะ เราขี้เกียจมากกกก มากกกก ขอโทษที่ไ่ม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร แต่อ่านต่อไปมีแน่นอนนะคะ แง (ปล. ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างนะคะ)
3. ไปสอบจริงมาเจออะไรบ้าง
ไปสอบจริงเจอความยุ่งยากค่ะ ก่อนจะเข้าสอบเจอหลายขั้นตอนมาก รับบัตรประจำตัวสอบ จ่ายเงิน ไปตรวจข้อมูลอีกที ส่งซองจดหมาย บลาๆๆ ก่อนสอบก็ต้องกรอกข้อมูลเยอะมาก แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คุมสอบคอยบอกให้กรอกไปพร้อมๆกัน แต่สิ่งที่เจอแล้วขัดใจที่สุดคือ "กระดาษคำตอบ" มันเป็นแบบฝนให้เต็มวงกลม ซึ่งมันเมื่อยมือมากและทำให้ฝนคำตอบไม่ทัน ตัวเราซึ่งลองทำข้อสอบมาน้อยบวกกับไม่ได้ทำกับกระดาษคำตอบจริงคือหลุด เสียคะแนนไปเยอะมาก สุดท้ายคือทำข้อสอบพาร์ทอ่านไม่ทันไปประมาณ 10-15 ข้อ อยากร้องไห้
4. คะแนนออกมาเป็นยังไงบ้าง
ตอนแรกคือคาดหวังคะแนนไว้ว่าต้องได้ประมาณ 800 ขึ้นไป แต่พอไปเจอไปสอบจริงๆคือคิดว่ายังไงก็ไม่น่าถึงแน่ๆ แอบจิตตกนิดๆแต่ก็ต้องทำใจเพราะตัวเองขี้เกียจเอง ;-; ฮือ เราไปสอบวันศุกร์ต้องรอคะแนนส่งมาประมาณ 2-3 วัน ผลสรุปคือเกินคาด ได้คะแนนรวม 830 พาร์ทฟัง 460 คะแนนและ พาร์ทอ่าน 370 คะแนน เป็นที่พอใจกับเรามากแล้วค่ะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าทำทันคงได้คะแนนมากกว่านี้
5. ขอคำแนะนำในการสอบหน่อย
ส่วนที่มีประโยชน์ที่สุดของเรามาแล้วค่ะ! สิ่งที่อยากจะแนะนำและควรจะทำมากๆคือ ห้ามขี้เกียจฝึกทำข้อสอบ และควรจะใช้กระดาษคำตอบแบบที่สอบจริงในการฝึกด้วย คิดว่าถ้าฝึกให้ชินมือเท่าไรมากยิ่งดีต่อการสอบจริง เพราะการฝนคำตอบมันเมื่อยมือและใช้เวลามากจริงๆ แถม ควรจะท่องศัพท์ให้เยอะๆเข้าไว้ และควรจะรู้รูปแบบของประเภทคำต่างๆ จำพวกคำนาม (noun) คำกริยา (verb) คำคุณศัพท์ (adjective) และคำวิเศษณ์ (adverb) เช่นคำว่า create (v.) คำนามคือ creation คำคุณศัพท์คือ creative และคำวิเศษณ์คือ creatively เราควรจะรู้ว่าอะไรวางตรงไหนของประโยค และควรจะแม่นในส่วนของ part of speech
'อย่าขี้เกียจเลยนะคะ ฝึกทำสักวันละ 2 รอบก็โอเคแล้วค่ะใช้เวลาไม่นานด้วย เพื่อคะแนนที่ดีนะคะ'
ผู้เข้าสอบนัมเบอร์ทู
ตอนเราจะสอบ เราก็อ่านรีวีวชาวบ้านชาวช่องเขามาบ้างแล้วนั่นแหละ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราคิดว่ายังแนะนำเพิ่มเติมได้ และก็อยากระบายความคับข้องใจเราด้วย
1. พื้นฐานภาษาอังกฤษ
ที่จริงแล้วเรามีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาพอสมควรนะ ผ่านข้อสอบฟังพูดอ่านเขียนมาเยอะเพราะเรียนเป็นวิชาโท ถึงจะห่างหายไปกับโควิดและการนอนเปื่อยไปวันๆ หลายเดือนก็เถอะ แต่เราว่าโทอิคก็ยังมีความน่ารำคาญของมันอยู่ดี เลยอยากมาแชร์เผื่อคนที่ใช้อังกฤษในชีวิตประจำวันพอได้แต่ไม่เคยต้องรีดเค้นสมองแบบจำกัดเวลามาก่อน
2. เตรียมตัวยังไงบ้าง
ถ้าสิ่งแรกคุณกำลังคิดคือการไปซื้อคอร์สเรียนแพงๆ เพื่อสอบโทอิค ขอบอกเลยว่าคุณคิด...ผิดค่าา สิ่งแรกที่เราควรเตรียมคือร่างกาย!! จากการอ่านรีวีวเพื่อนๆ และผู้เข้าสอบข้างบนมาเราเลยพอรู้ว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกคนคือเวลา เราใช้เวลาเตรียมตัวประมาณอาทิตย์นึงฝึกสอบแบบจับเวลาตามเวลาในห้องสอบจริง ทำข้อสอบวันละ 1 ชุด วันจริงก็พยายามนอนให้เต็มอิ่ม เพราะเราเป็นพวกง่วงแล้วเทคะแนนง่ายมากกก ไม่อยากสอบแค่ให้จบๆ ไปเพราะมันก็แพงอยู่ ;-;
3. ไปสอบจริงเจออะไรบ้าง
ความเยอะค่า ไปสอบจริงเจอแต่ขั้นตอนอะไรไม่รู้รุงรังไปหมด เราเตรียมใจไปแล้วแหละเพราะผู้เข้าสอบนัมเบอร์วันเล่าให้ฟังแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าการมาเผื่อ 1 ชั่วโมงนี่จะเรียกได้ว่าพอดิบพอดีกับการเตรียมตัวเฉย เข้าห้องตรวจหน้า แจกข้อสอบตรวจหน้า เก็บข้อสอบก็ตรวจหน้าทั้งที่ก็ไม่มีใครอนุญาตให้ออกจากห้องก่อนได้ งงมะ อย่างกับว่าเราจะสลับร่างกลางห้องที่มีคนคุมยืนจ้องอยู่โดยที่ไม่มีใครเห็นได้งั้นแหละ เวลาฝนยืนยันตัวตนนี่ก็น่ารำคาญไปหน่อยอะ เราฝนชื่อตัวเองพลาดด้วยดีที่แก้ทัน ข้อสอบมันน่าจะลดขั้นตอนที่จะก่อ Human Error ได้ง่าย จากการฝึกจับเวลาทำข้อสอบทำให้เรารู้สึกว่าเราฟังทันนะ แต่กลับกลายเป็นว่าไอ้ข้อสอบนี่ดันห้ามติ๊กข้อในกระดาษไว้ก่อนเลย ต้องมองซ้ายสลับขวา เสียเวลาเป็นวิเพื่อโฟกัสและฝนคำตอบ นี่บ่นเป็นเงาแค้นเลยนะ 555555
4. คะแนนออกมาเป็นยังไงบ้าง
ออกมาดีกว่าที่คิดนะ พาร์ทฟังได้ 495 เต็ม คะแนนรวมก็ 955 อาจจะเพราะพาร์ทฟังมันกำหนดเวลาที่เราจะหมกมุ่นต่อข้อไว้ เราเลยไม่ฟุ้งซ่านเท่าพาร์ทอ่านด้วย พาร์ทอ่านนี่เจอแบบให้ประกาศ+เมล+ข้อความรีวีวสินค้ามาตอบคำถาม 3-4 ข้ออะ แล้วเราก็ต้องเสียเวลาเชื่อมโยงไอ้ 3 Text นี้เข้าด้วยกัน เผลอตัดสินใจช้าก็ทำไม่ทันอีก
5. ขอคำแนะนำในการสอบหน่อย
นอกจากเรื่องเตรียมร่างกายทั้งหู สายตา และสติให้พร้อมแล้ว เราก็พอมีเรื่องแนะนำสำหรับคนที่โนไอเดียกับการสอบแบบนี้อีก 2 เรื่องนะ
- พาร์ทเติมคำในประโยคหรือวลี ให้เน้นอ่าน Subject Verb Agreement, Conjunction อื่นใดนอกจากนี้อาจต้องประยุกต์เยอะและไม่เหมาะจะท่อง แต่พวกนี้คือออกแน่และดู Keyword จากบริบทได้ไม่ยาก ทั้งนี้เพราะพาร์ทนี้ควรจะเป็นพาร์ทที่ทุกคนทำด้วยความรวดเร็วที่สุด ได้ก็ฝน ไม่ได้ก็ตัดใจไปทำข้ออื่นไปเลย มูฟออนให้ไวๆค่ะ เพราะพาร์ทอ่านมันต้องใช้เวลาพอสมควร บางข้อหาจุดที่จะตอบไม่เจอ ไหนจะคำตอบแบบที่ต้องเชื่อมโยง Text อีก
- เวลาทำพาร์ทเติมคำหรือประโยคใน Text อ่านแค่ประโยคนั้นหรือประโยคก่อนหน้าค่ะ
อ่าน-ให้-น้อย-ที่-สุด ยังไงมันก็ไม่ได้เน้นการตีความ ความเชื่อมโยงอะไรมากมาย อย่าไปเสียเวลาเลยค่ะ เอาแค่พอตอบได้ก็พอ
'ขอให้ทำข้อสอบได้คะแนนตามที่หวังน้าทุกคนนนนนน'
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in