เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Miracle [os] | pecktomCotton Candy 702
Miracle
  •                   #?????????????????

    ??????? : Peck × Tom

    ?????? : Cotton Candy 702


                             _____________

    01/06/17

    แสงแดดอ่อนยามบ่ายส่องผ่านกระจกใส
    ตกกระทบบนเบาะที่นั่งด้านหลังของรถยนต์คันหรู​สีดำ

    กระเป๋าเป้นักเรียนและถุงใส่อุปกรณ์​
    ถูกวางอยู่​ตรงกลาง​ ถัดมาเป็นกล่องใส่ขนมและขวดน้ำผลไม้ที่จัดเตรียมไว้สำหรับคนที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนโดยเฉพาะ

    ทว่าเจ้าของกระเป๋า​ กลับไม่ได้ใส่ใจสิ่งของภายในรถแต่อย่างใด​ สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างของรถคันใหญ่​อย่างไร้จุดหมาย​ พลางเคาะนิ้วตามจังหวะของเพลงโปรดที่ได้ยินผ่านหูฟังทั้งสองข้าง

    ใช้เวลาไม่นาน​ 
    ยานพาหนะสีดำเดินทางมาถึงจุดหมาย​ 
    ประตูรั้วอัตโนมัติ​เปิดออก​ 
    เผยให้เห็นภาพของสวนดอกไม้ที่ห้อมล้อมน้ำพุสีขาว​ และบ้านสองชั้นหลังใหญ่ที่คุ้นเคย

    ร่างของเด็กชายในยูนิฟอร์ม​โรงเรียนนานาชาติ​ ก้าวลงจากรถพร้อมถือกระเป๋านักเรียนไว้ข้างตัว​และเดินเข้าไปในตัวบ้าน

    "คุณทอม​กลับมาไวนะคะวันนี้​ 
    ของเยอะแยะเลย​ มาค่ะ​ ให้ป้าช่วยถือดีกว่า" 

    หญิงสาววัยกลางคนเดินเข้ามาต้อนรับ​ 
    ด้วยร้อยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนเช่นทุกวัน

    "อ๋อ​ ไม่เป็นไร​ฮะ​ วันนี้ของไม่หนักมาก​ 
    ทอมถือเองได้ครับป้า" 

    เขาเอ่ยตอบ​ คลี่ยิ้มบางแทนคำขอบคุณ​ 
    ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของบ้าน

    "คุณ​ทอมคะ"

    "ครับ?"

    เขาหยุดยืน​และหันกลับมามองที่ต้นเสียง

    "คือเมื่อเช้า​ คุณ​พ่อกับคุณ​แม่ฝากป้าบอกคุณ​ทอม​ว่าท่านมีประชุมด่วนที่ญี่ปุ่น​ อาจจะไม่อยู่​บ้าน​สองสามวันนะคะ..."

    ทันทีที่พูดจบ
    ความรู้สึกเดิมๆเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววความผืดหวังอย่างปิดไว้ไม่มิด

    "ครับ..ขอบคุณ​ที่บอกครับ" 

    เด็กชายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
    ก่อนจะหันหลังกลับและเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง

    ก็เป็นแบบนี้ทุกปี​ หวังอะไรไปก็เท่านั้น

    เสียงปิดประตูดังขึ้น​ 

    ความเงียบเข้าปกคลุมบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง

    .

    .

    22:16

    คอมพิวเตอร์​ที่ใช้ทำงานเมื่อสักครู่​ถูกพับปิดลง​ ปากกาและสีไม้ถูกเก็บใส่กระเป๋า​ดินสอและวางไว้บนกองสมุดและหนังสือเรียน

    ร่างในชุดนอนแขนยาวสีเข้มล้มตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า​ มือเรียวคว้า​มือถือที่ชาร์จ​ไว้ข้างเตียง​ เขากดเข้าแอพที่คุ้นคุยและ
    เปิดอ่านข้อความ​ จากใครบางคนที่ไม่ได้อยู่กับเขาในตอนนี้​ 

    'ทอมนอนรึยังลูก​'​

    'พ่อแม่ขอโทษ​ที่ไม่ได้อยู่ฉลองวันเกิดปีนี้กับทอมนะ​​ ทางนี้มีงานด่วน​จริงๆ​'​

    'ไว้เจอกันที่บ้าน​นะ​ แม่ซื้อของขวัญจากญี่ปุ่นไว้ให้ทอมด้วย​' 

    ' happy birthday ล่วงหน้านะลูก​ ♡ "

    เสียงถอนหายใจดังขึ้น​ท่ามกลางความเงียบภายในห้องนอน​

    หน้าจอสว่างดับลง​
    มือถือถูกวางไว้ข้างตัวตามเดิม​ 

    ทอมลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ตู้กระจกใส​ 
    ลูกแก้วหิมะ​ ที่เขาเคยได้เป็น​ของขวัญ​วันเกิด​ ยังคงวางอยู่ตรงนั้น

    ประตู​กระจกใสถูกเปิดออก​ 
    มือขาวค่อยๆหยิบของสะสมออกมาดูอย่างเบามือ

    ทันทีที่ขวดส​โนว์​โกลบถูกเขย่า​ เกล็ดหิมะก็เริ่มกระจายตัวและตกลงมาลงมาปกคลุมบ้านไม้และป่าสนที่อยู่​ภายใน

    นัยน์ตา​สีเฮเซลจับจ้องสิ่งที่อยู่ภายใน
    โลกใบเล็กชั่วครู่​ 

    ทุกครั้งที่รู้สึกเหงา​หรือไม่สบายใจ
    ทอมมักจะหยิบส​โนว์​โกลบลูกนี้​ออกมาเล่น

    ของเล่นชิ้นนี้​ เป็น​เหมือนตัวแทนของความทรงจำในวัยเด็กที่เขาคิดถึง และทุกครั้งที่มองเข้าไปข้างใน​ลูกแก้ว​ เขาจะรู้สึกอุ่นใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

    หลังจากนั้นไม่นาน
    แสงไฟดวงสุดท้ายของบ้านมืดดับลง

    ร่างเล็กสอดตัวเข้าไปใต้ความอบอุ่นของผ้านวมและทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง

    จากมุมนี้​ เขาสามารถมองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ​

    แม้คืนนี้ท้องฟ้าจะโปร่งใส
    แต่กลับไร้แสงสว่างของกลุ่มดาวน้อยใหญ่

    ทิ้งให้ดวงจันทร์​สีนวล​ ล่อง​ลอยในความมืดมิด
    อยู่เพียงลำพัง

    คงไม่ต่างจากตัวเขาในตอนนี้

    ตลอด​ 16​ ปีที่ผ่านมา​ เขาโชคดีที่เติบโตมาในครอบครัวที่เพรียบพร้อม​ และมีชีวิตที่สุขสบายในบ้านหลังนี้

    พ่อกับแม่ของเขามีบริษัทเป็นของตัวเอง​ 
    มีธุรกิ​จใหญ่โตที่กำลังไปได้สวย​ และนับวันยิ่งมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

    จนบางที​ เขาเองก็เกือบลืมไป​แล้ว​ว่าการได้นั่งกินข้าวพร้อมกันทุกคนมันมีความสุขมากขนาดไหน​ ​ 

    ทอมเข้าใจทุกเหตุผลเป็นอย่างดี​ 
    และไม่เคยเรียกร้อง​อะไร

    ขอเพียงแค่อย่างน้อย​ ให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันมนวันเกิดของเขาก็พอ

    และเป็นปีที่เท่าไหร่ไม่รู้​ ที่เขาเผลอหลับไปพร้อมกับความรู้สึ​กอ้างว้างภายในใจ

    .

    .

    ความหนาวเหน็บ​และเสียงทุ้มของใครบางคน​ ​ปลุกเด็กชายให้ตื่นจากห้วงนิทรา

    "นี่นาย...ตื่นแล้วสินะ"

    ดวงตาคู่สวยกระพริบถี่ๆ​ สองสามครั้ง เพื่อปรับภาพให้ชัดขึ้น​ สัมผัสของไหมพรมที่ไม่คุ้นชินใต้ฝ่ามือทั้งสองข้าง​ ทำให้เขาเริ่มได้สติ​ 

    เตียงนอน? ผ้าปูเตียงเขาไม่ใช่แบบนี้นี่

    คนที่มาใหม่ยันตัวขึ้น และกวาดสายตาสำรวจไปทั่วห้องด้วยความสับสน

    เตียงนอน​ ตู้เสื้อผ้า​ ชั้นวางของ​ หรือแม้แต่ผนังห้อง​ล้วนทำมาจากไม้สีน้ำตาลทั้งสิ้น
    ไม่มีสิ่งไหนเหมือนห้องนอนของเขาเลยสักนิด

    ทอมกวาดสายตามาทางหน้าต่างและอุทานเสียงดัง​ เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่ยืนกอดอกพิงขอบหน้าต่างอยู่ก่อนแล้ว

    "คุณ...คุณ​เป็นใคร!? ละ..แล้วที่นี่คือที่ไหน" 

    "นี่​ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก​นะ ไม่ต้องทำท่ากลัวขนาดนั้นก็ได้" 

    "คุณ​เป็นใคร?​ ตอบผมมาก่อน" 

    "เฮ้อ​ ฉันชื่อปีเตอร์​ หรือจะเรียกว่าพีทก็ได้​
    ส่วนที่นายถามว่าที่นี่คือที่ไหน​ ลองยืนตรงนี้แล้วมองออกไปข้างนอกสิ​ " 

    แม้จะ​เป็น​ครั้งแรกที่ได้พบกัน
    แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงความจริงใจ
    ผ่านสายตา​และรอยยิ้มของคนตรงหน้า

    ร่างเล็ก​ในชุดนอนค่อยๆก้าวลงจากเตียงและเดินตรงไปยังหน้าต่างบานที่อีกฝ่ายยืนอยู่

    วิวด้านนอกทำให้ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง
    ด้วยความประหลาดใจ​ 

    "นี่มัน​ หิมะ! ที่นี่มีหิมะตกด้วยเหรอ" 

    แม้วิวนอกหน้าต่างของบ้านหลังนี้จะถูกปกคลุม​ด้วยหมอกบางจากความหนาวเย็น​ 
    แต่ก็ยังสามารถ​มองเห็นบ้านไม้ที่ประดับประดาด้วยกระดาษสีและดวงไฟสีเหลือง​ส้ม ปลูกเรียงรายไปตามถนนที่กลายเป็น​สีขาวจากหิมะ

    ห่างออกไปจากเขตบ้านเรือน จะเป็น​ป่าสนสีเขียวชอุ่ม​ที่ปลูกเรียงรายกันเป็​นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา​ 

    ทิวทัศน์​ที่หาดูได้ยากและสวยงามราวกับฉากในเทพนิยายทำให้เด็ก​ชายตกอยู่​ภวังค์​ไปชั่วขณะ​ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลักษณะบ้านเรือน​ที่นี่
    ดูคุ้นตาเหมือนว่าเขาเค​ยเห็น​ที่ไหนมาก่อน

    "มองแค่ข้างนอก​ คงไม่สวยเท่าได้มาเห็น
    ​ข้างใน​ กับตาตัวเอง​ ใช่ไหมล่ะ?" 

    "คุณ​หมายความว่าอะไร? มอง​ข้างนอกกับ
    ข้างใน— เดี๋ยว​นะ​ อย่าบอกนะว่าผมหลุดเข้ามาอยู่ใน..ส​โนว์​โกลบลูกนั้น"

    "ใช่แล้วล่ะ​ ตอนนี้นายอยู่ข้างในส​โนว์​โกลบ" 

    "ถ้าอย่างนั้น คุณพาผมกลับไปได้ไหมครับ?"

    "จากที่เคยได้ยิน​มา มีแค่วิธีเดียวที่จะออกจากที่นี่ได้​ คือต้องรอจนพระอาทิตย์​ขึ้น​ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันรู้นะ"
     
    "หมายควา​มว่า​ ผมต้องนั่งรอเฉยๆจนเช้า? "

    เด็กชายหันกลับมามองชายหนุ่ม​ที่ยืนอยู่ใกล้กัน มีคำถามมากมายที่เขาอยากถาม​ 
    แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยอะไรออกไป​ สายตาที่มองกลับมาก็ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากคนตรงหน้าได้เลย

    คนตรงหน้าสวมเสื้อแขนยาวสีอ่อน​ และเพิ่มความอบอุ่นด้วยเสื้อคลุมหนัง​ กางเกงสีน้ำตาลเข้ม​ และรองเท้าบูทหนังเก่าๆ​ ดูคล้ายชุดพื้นเมืองที่เขาเค​ยเห็น​ในหนัง​ 

    ใบหน้าเรียวได้รูป​ รับกับสันจมูกโด่งได้เป็นอย่างดี​ เรือนผมสีควันบุหรี่​ ช่วยขับให้นัยน์ตา​สีรัตติกาล​ดูโดดเด่นขึ้น​ ประกอบริมฝีปากทรงกระจับ​ ยิ่งทำให้ชายแปลกหน้าคนนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัว​

    สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนข้างหน้า​ดูผิดแปลกไปจากคนทั่วไป​ คือผิวหนังที่มีลวดลายสีน้ำตาลอ่อน​ แบบเดียวกับตุ๊กตาไม้ที่เขาเคยเห็นในตู้กระจก

    "ฉันอยู่ในส​โนว์​โกลบ​ ไม่ได้เป็นมนุษ​ย์เหมือนนายหรอกนะ​ ทอม

    คนอายุน้อยกว่าพึ่งรู้สึกตัวว่ามองนานเกินไป​ จึงเดินกลับมานั่งที่เตียง​ แต่สายตายังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง

    "คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง"

    ร่างสูงคลี่ยิ้ม​ ก่อนจะก้าวไปหยุดยืน​ตรงหน้าคนตัวเล็กกว่า

    "เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจหรอก แต่ตอนนี้เรารีบไปกันเถอะ​ ใกล้เที่ยงคืนแล้วนะ

    "เที่ยงคืน​?" 

    "ก็ไป​ฉลองวันเกิด​นายด้วยกันไง

    ทอมละสายตาจากหน้าต่าง​ 
    และมองตามคนที่เดินไปที่ประตูห้อง​ 

    "คุณ​จะพาผมไปที่ไหน" 

    "อยากรู้ก็ตามฉันมาสิ"

    .


    การออกมาเดินเล่นในคืนที่หิมะโปรยปราย
    ทอมเคยฝันว่าอยากลองทำสักครั้งในชีวิต

    ลมหนาวที่สัมผัสใบหน้าใต้กรอบแว่น
    เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้
    คือเรื่องที่จริง​ และไม่ใช่เพียงความฝัน

    แม้ท้องฟ้าในคืนนี้จะไร้แสงดาว
    แต่แสงของหลอดไฟดวงเล็กตามบ้านเรือน
    ก็สว่างเพียงพอที่จะนำทางพวกเขาไปตามถนนสายเล็กโดยไม่หลงทาง

    "นายหนาวหรือเปล่า?" 

    ความเงียบที่น่าอึดอัดถูกทำลายด้วยคำถามของคนที่เดินอยู่ข้างกัน

    ทอมส่ายหน้าแทนคำตอบ​ 
    แต่มือทั้งสองข้างยังซุกในกระเป๋าของแจ๊กเก็ตที่เขาสวมทับชุดนอน

    ปีเตอร์เหลือบมองอีกฝ่าย​และหัวเราะออกมา
    ก่อนที่เสื้อคลุมหนังจะถูกยื่นให้คนข้างๆ

    "ถ้ากลับไปไม่สบาย​ ​นายจะโดนแม่ดุเอานะ" 

    "..ขอบคุณ​ครับ" 

    คำขอบคุณ​ถูกเอ่ยอย่างแผ่วเบา

    นั่นคือบทสนทนาสุดท้ายก่อนที่ความเงียบ
    จะปกคลุมบรรยาศรอบตัวไปตลอดทาง

    ไม่นานนัก​ ภาพของหอนาฬิกาสีทองสวยงาม
    ก็ปรากฏ​สู่สายตาของคนทั้งสอง

    "ถึงแล้ว ไทม์แสควร์​กลางเมือง"

    บรรยากาศ​รอบตัวดูครึกครื้น​ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด​ เสียงหัวเราะและพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
    เหมือนผู้คนมากมายจะเดินทางมาที่นี่ในค่ำคืนนี้

    "วันนี้เป็นวันพิเศษเหรอครับ? ทำไมคนมารวมตัวกันเยอะจัง" 

    "อืม​ พรุ่งนี้เป็นวันก่อตั้งเมือง​ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญที่สุดของทุกปีเลยแหละ" 

    เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาร่วมงานเฉลิมฉลอง
    ในตอนกลางคืนแบบนี้​ 

    เด็กชายกวาดสายตามองรอบตัว
    บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข
    ของครอบครัวและผองเพื่อนที่ได้มารวมตัวกันในคืนพิเศษ

    หลังจากยืนรอเพียงไม่กี่อึดใจ
    สายตาทุกคู่ก็เริ่มจับจ้องไปยังหอนาฬิกา

    เข็มยาวและเข็มสั้นสีทองเคลื่อนที่มาบรรจบกันในที่สุด​ เรียกเสียงโห่ร้องจากผู้คนได้เป็นอย่างดี​ 

    และนั่นบ่งบอกให้รู้ว่าเวลาแห่งการเฉลิมฉลองได้มาถึงเเล้ว

    "สุขสันต์วันเกิด​นะ​ ทอม" 

    "ขอบคุณมากครับ​ คุณปีเตอร​์" 

    "นายอยากไปเที่ยวในเมืองต่อไหม?" 

    และคราวนี้คำตอบถูกเอ่ยออกไปโดยไม่ลังเล

    "เอาสิฮะ​" 

    ตั้งแต่เมื่ิอไหร่ไม่รู้​ ที่ทอมเริ่มคิดว่า​บางที
    คืนวันเกิดของเขาอาจจะไม่ได้น่าเบื่อเสมอไป

    .


    รู้ตัวอีกที​ คุณปีเตอร​์ก็พาเขาก็มาเดินอยู่ท่ามกลางร้านรวงและบรรยากาศสนุกสนานของชาวเมือง​ บนถนนกลางเมือง​ ที่บัดนี้ได้กลายเป็น​ถนนคนเดินและตลาดนัดในคืนวันเฉลิมฉลอง​ 

    "โห​ ร้านนั้นขนมน่ากิน​อ่ะ ไปดูกันๆ" 

    เมื่อเห็นร้านที่สนใจอยู่ข้างหน้า​
    คนตัวเล็กไม่รอช้า​ และก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างลืมตัว​ แต่มือขวาถูกใครบางคนรั้งไว้เสียก่อน

    "ที่นี่คนเยอะ​ จับไว้แบบนี้​ จะไม่หลงทางกัน" 

    ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยือก​และหิมะที่ยังคงโปรยปรายลงมาตลอดทั้งคืน
    น่าแปลก​ 
    ที่สัมผัสจากฝ่ามือของหุ่นไม้​นั้นคลายความหนาว​ และมอบความอบอุ่น​ในแบบที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน


    ผู้คนมักพูดกันว่า​ เวลาแห่งความสุข​มักจะผ่านไปเร็วโดยที่เราไม่รู้ตัว

    ทอมไม่เคยเข้าใจความหมายของประโยคนั้น
    จนกระทั่งเขาได้ใช้เวลาในคืนวันเกิดอยู่ที่นี่

    พวกเขาเดินซื้อของและซึบซับบรรยากาศ​ของเทศกาลแห่งความสุขอย่างไม่รีบร้อน

    ทอมมีความสุข​ 
    เวลาได้ลองชิมอาหารหรือขนมแปลกตาที่วางขายตลอดทาง

    เวลาคนตัวสูงมักชี้ให้เขาดูงานแกะสลักหรือของเล่นแปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

    หรือในตอนที่นักเต้นรำจับมือเขาไปกลางวง ทำให้ได้เห็นคุณปีเตอร์หัวเราะ​เพราะท่าทางเก้ๆกังๆของเขา
     
    โลกใบเล็กในลูกแก้วได้กลายเป็นโลกใบใหม่ของเขาไปเสียแล้ว

    ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะอยู่ในความทรงจำของเขาตลอดไป

    ระหว่างเดินกลับบ้าน บนถนนสีขาวเส้นเดิม
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ความเงียบอันน่าอึดอัดที่เคยมีได้สลายหายไป
    มีเพียงเสียงพูดคุย และเสียงหัวเราะของคนสองคนที่ดังขึ้นตลอดทาง

    มือทั้งสองยังคงกุมกันไว้เหมือนเดิม แม้จะไร้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา
    ท่ามกลางหิมะดูเหมือนจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
    ความอบอุ่นที่ส่งถึงกัน ไม่เพียงแต่คลายความหนาวให้กับทอม
    แตยังละลายกำแพงน้ำแข็งที่อยู่ภายในใจของเขา

    หลังจากที่ใช้เวลาด้วยกันมาตลอดทั้งคืน
    ทอมได้เห็นอีกหลายมุมและได้เรียนรู้เกี่ยวกับคนๆนี้มากขึ้น
    เขาชอบความรู้สึก เวลาที่มีคนคอยรับฟังเรื่องต่างๆของเขา
    ปีเตอร์เอง ก็มีความสุขที่ได้ยิ้มและหัวเราะไปพร้อมกับใครสักคนและได้กลสยเป็นความสบายใจของกันแลักัน โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว


    แสงสีนวลจากโคมไฟภายในห้องสี่เหลี่ยม
    สะท้อนให้เห็นเงาของคนสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงมองออกไปนอกหน้าต่างบานเดิม

    ขอบฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้มอ่อนๆ
    ความสว่างของแสงตะวัน
    กำลังเข้ามาแทนที่ความมืดมิดในยามราตรี

    "คืนนี้สนุกมากเลย​ ขอบคุณ​สำหรับทุกอย่างเลยนะครับ" 

    "ขอบคุณ​เหมือนกันนะ" 

    "เรื่องอะไรเหรอฮะ?" 

    "ก็อยู่คนเดียวมาตั้งนาน​ พอมีนายมาอยู่เป็นเพื่อน​ มันก็ไม่เหงาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"

    คนตัวเล็กยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบนั้น

    เขาควรดีใจที่จะได้กลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริง​ แต่เหมือนมีบางอย่างที่ค้างคาอยู่ภายในใจ

    "คุณ​ปีเตอร์​"

    "มีอะไรเหรอ?"

    "วันเกิดปีหน้า..เราจะได้เจอกันอีกไหมฮะ"

    คนที่นั่งอยู่ข้างกัน​ หันหน้ามาหาเขา
    แสงสว่างกระทบนัยน์ตาสีเข้มเป็นประกาย
    ราวกับต้องการจะสื่อแทนถ้อยคำที่สำคัญให้เขารับรู้

    "​นายเชื่อในปาฏิหาริย์​รึเปล่า​ ทอม" 

    คนถูกถามนิ่งคิดไปชั่วครู่​ ก่อนจะเอ่ยตอบ

    "ไม่รู้สิคุณ แต่ที่เราสองคนได้มาเจอกันที่นี่​ พอจะเรียกว่าปาฏิหาริย์​ได้ไหมนะ

    "ถ้าอย่างนั้น​ 
    ฉันจะรอวันที่ปาฏิหาริย์​เกิดขึ้นอีกครั้งนะ" 

    "ทอมก็จะรอวันนั้นเหมือนกันฮะ" 


    .

    .

    01/06/20, NYC

    23:39

    ท้องฟ้ายามเย็นที่เคยเป็นสีชมพูอมส้ม
    ในตอนนี้​ ถูกปกคลุม​ด้วยกลุ่มดาวที่เรียงตัวอยู่ท่ามกลางความมืดของคืนหนึ่งในฤดูร้อน

    อากาศในวันนี้เย็นสบายกว่าทุกวันที่ผ่านมา
    สายลมอ่อนพัดผ่านช่องหน้าต่างบานเล็ก

    เสียงหัวเราะของคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างดังขึ้น
    นิ้วเรียวที่โผล่พ้นแขนเสื้อไหมพรมกำลังเลื่อนบนหน้าจอสว่าง​ไปเรื่อยๆ

    เป็นเวลาเกือบสามเดือน​ 
    หลังจากที่​ทอมตัดสินใจมาเรียนต่อ
    และเช่าห้องพักอยู่ที่อพาร์ทเมนท์​แห่งนี้

    ใบหน้าใต้กรอบแว่นอมยิ้มอีกครั้ง
    เมื่อเห็นรูปของเขาและพ่อแม่ที่ถ่ายด้วยกัน
    ในร้านอาหารแห่งหนึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว

    วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมาก
    เพราะเป็นไม่กี่ครั้งที่ครอบครัวของเขาจะได้อยู่ฉลองวันเกิดด้วยกัน​

    ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง
    เข็มนาฬิกากำลังเคลื่อนที่มาบรรจบกัน​
    วันเกิดของเขากำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

    ร่างเล็กเดินไปวางมือถือไว้บนโต๊ะทำงาน
    ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง​  ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่​ ลูกแก้วหิมะ​ ที่เขาตั้งใจวางไว้ข้างเตียงนอนตั้งแต่วันแรก

    ค่ำคืนวันนั้นผ่านพ้นไป​ 
    ทันทีที่ตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง
    ทุกอย่างรอบตัวยังคงเหมือนเดิม​ 
    ราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

    เข็มเวลายังคงทำหน้าที่ของมัน
    และทอม​เอง​ ก็ใช้ชีวิตต่อไปเหมือนทุกวัน

    เวลาสามปีผ่านพ้นไป
    มีหลายสิ่งในชีวิตของเขาที่เปลี่ยนแปลงไป
    เขาเติบโตขึ้น​ มีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น

    หากแต่ภาพเรื่ิองราวที่แสนพิเศษ​ในคืนนั้น
    ยังคงโลดเเล่นอยู่ในห้วงความทรงจำของเขา
    เสมอมา​ และไม่เคยเลือนหายไป

    ทุกครั้งที่มองเข้าไปข้างในสโนว์โกลบ
    บทสนทนาในวันนั้นมักจะดังขึ้นในหัวใจ
    ของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า​ 

    "ฉันจะรอวันที่ปาฏิหาริย์​เกิดขึ้นอีกครั้งนะ"

    "ทอมก็จะรอวันนั้นเหมือนกัน" 

    ความสุขที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
    และคำสัญญาในวันนั้น​ 

    เขารู้ดีว่า​มันอาจจะเป็นแค่ความฝัน
    ที่ไม่มีวันเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริง

    แต่ไม่รู้ว่าทำไม​ ความรู้สึกที่อยู่ภายในใจ
    กลับบอกให้เขามีความหวังว่าสักวันปาฏิหาริย์​นั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

    วันนี้ก็คงเป็นปีที่สาม
    ที่เขาทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างในคืนก่อนวันเกิด
    และปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับฟ้ายามราตรี 
     
    แม้จะต้องผิดหวังมาหลายครั้ง
    แต่เขาก็ยังเฝ้ารอ​ วันที่จะได้กลับไปเยี่ยมโลกใบนั้นอีกสักครั้ง

    เฝ้ารอ​ วันที่เขาจะได้ฉลองวันเกิดพร้อมกับทุกคนท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย

    และเฝ้ารอ​ วันที่เขาได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคนที่คิดถึงตลอดมา

    ปีนี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วสินะ

    เจ้าของห้องถอดหายใจเบาๆ​ และเอื้อมมือไปปิดสวิตช์​โคมไฟเพื่อเตรียมเข้านอน

    " นายนอนดึกแบบนี้ทุกคืนเลยรึเปล่าเนี่ย " 

    เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังท่ามกลางความมืด​ 
    ทำให้เจ้าของชื่อหันไปมองอีกฝากหนึ่งของห้องด้วยความตกใจ

    ท่ามกลางความเงียบสงัดและแสงโคมไฟ
    นัยน์ตาสีเดียวกับท้องฟ้ากลางคืนกำลังมองมาที่ทอมเช่นกัน

    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
    รอยยิ้มที่อบอุ่นนั่นไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

    "คุณ..คุณปีเตอร์​"

    "ได้เจอกันสักทีนะ​ ทอม​" 

    ความรู้สึกและคำถามมากมายเกิดขึ้น
    ภายในใจของทอม​ และก่อนที่จะได้เอ่ยถามอะไรออกไป​ คนตรงหน้าก็พูดขึ้นมา

    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
    แต่​ว่าคืนนี้...นายคงต้องเป็นคนพาเที่ยวนิวยอร์กแล้วล่ะ"

    .

    .


                            { The End } 

                         _________________


    Writer's Notes :

    ขอบคุณทุกคน​ที่กดเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ
    หวังว่าจะเป็นเรื่องสั้นๆที่ทำให้คุณยิ้มได้​ :)​

    ดีใจมากๆที่ได้เป็น​ส่วนหนึ่งของครอบครัว​นี้​ 
    ที่นี่คือเซฟโซน​ รอยยิ้ม และจุดเริ่มต้นในการเเต่งฟิคของเรา​ ♡

    ขอบคุณ​ทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด3ปี​ 
    ทุกคนคือกำลังใจและความสุขของเรานะ​คะ
    ดรั๊กมากมาย​ ??

    สามารถ​คอมเมนท์​ติชมได้เต็มที่เลยนะคร้อบ

    มา​คุยกันได้ที่ @CottonCandy702​

    #CottonCandyLibrary

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in