เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
CIGARILLOSyeahjmt
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Christmas Day
  • “To the world you may be one person, but to one person you may be the world.”







              ในค่ำคืนอันเหน็บหนาวแบบนี้แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะนอนห่มผ้าอยู่ในห้องหรือไม่ก็ร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอยู่กับครอบครัวที่บ้าน


                แต่ไม่ใช่กับผู้ชายผิวแทนวัย 28 ปีอย่างคิมจงอินที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อไหมพรมคอเต่าสีอ่อนทับด้วยเสื้อโค้ทสีเข้มเหมือนกับกางเกงยีนส์ที่สวมใส่


                ผมเดินไปเรื่อยๆ ตามทางเดินซึ่งประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสี  บนถนนของกรุงโซลในยามฟ้ามืดมีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่ออกมาเดินช็อปตามถนนทั้งที่อากาศเย็นจนแทบจะติดลบ  บางคนเดินเป็นคู่บางคนเดินกับเพื่อน และบางก็เดินคนเดียวเหมือนกับผม


                ตอนแรกผมคิดว่าคริสต์มาสปีนี้คงจะเป็นปีที่ผมคงจะมีความสุขที่สุดในโลก 


              แต่มันก็เป็นได้แค่ความคิด


    แผนที่กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์คนรักถึงที่ทำงานและคุกเข่าขอเธอแต่งงานเสียตรงนั้น  เอาให้พนักงานในบริเวณนั้นอิจฉาตาร้อน  แต่มันก็พังลงไม่เป็นท่า  เพราะผมดันมาเจอเธอกำลังจูบกับผู้ชายอีกคน


    ผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของผมเอง  โลกมันกลมจัง


    ตอนที่เธอเห็นผมเธอดูตกใจมาก  เธอพยายามอธิบายให้ฟังขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่  ซึ่งผมก็ได้ยืนฟัง  อ่า... ไม่สิ  ตอนนั้นผมกำลังช็อคมากกว่าจึงได้แต่ยืนฟังเธอเฉยๆ 


    เธอบอกว่า เธอกำลังท้องลูกกับเพื่อนของผมได้ 2 เดือนแล้ว ผมเหมือนโดนเอาน้ำเย็นมาสาดใส่หน้าเลย เธอบอกว่าเมื่อ 2 เดือนก่อนมีงานเลี้ยงของบริษัท  ซึ่งวันนั้นผมจำได้ว่าเธอไม่ได้กลับคอนโด  และผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร  เธอเล่าว่าเธอดื่มหนักเกินไปจนไม่ได้สติ แต่ตอนนั้นเพื่อนผมไปเจอจึงอาสาพามาส่ง  แต่ก็มาพลาดกันเอง  และมารู้ทีหลังว่าเพื่อนผมแอบชอบคนรักของผมมานานแล้ว และยินดีที่จะรับผิดชอบ  และเธอเองก็คงจะชอบเพื่อนผมเหมือนกัน  แล้วคนอย่างผมจะทำอะไรได้นอกจากฝืนยิ้มกับโชคชะตาของตัวเองที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้


    ตลกดีใช่ไหมล่ะ


    พ่นลมหายใจหนักออกมาให้กับความคิดที่ดูจะทำร้ายจิตใจตัวเองไปเรื่อยๆ  ถ้าหากยังนึกถึงมันอยู่แบบนี้  ควันสีขาวนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอากาศวันนี้หนาวเหน็บเพียงใด 


    ขายาวก้าวไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางจนกระทั่งอกแกร่งปะทะกับใครบางคนที่วิ่งมาอย่างไม่ดูทาง


    “อ๊ะ!”


    จงอินคว้าเอวอีกคนมาไว้ในอ้อมกอดจนแทบจะจมเข้าไปในเขา  เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะหงายหลังไปมือมันก็ไปอยู่ที่เอวอีกฝ่ายเสียแล้ว


    ร่างกายสั่นเทาของคนในอ้อมกอดนั้นทำให้จงอินรู้สึกตัวว่าเองกำลังทำอะไรอยู่ จึงต้องผละออกมาดูว่าอีกคนเป็นอะไรมากหรือเปล่า


              “ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”  ถามออกไปอย่างเป็นห่วง แม้จะอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย  แต่ร่างกายของเขาดูบอบบางมาก  ผิวขาวๆนั่นก็ด้วย


              จงอินชะงักกลับภาพตรงหน้าเมื่อคนตัวขาวเงยหน้าขึ้นมา  บนใบหน้าขาวเต็มไปด้วยหยาดน้ำสีใส  หากดูดีๆแล้วมันไม่เหมาะกับเจ้าตัวเลยสักนิด  จมูกโด่งรั้นที่มันควรจะเป็นสีขาวเหมือนกับผิวกายตอนนี้กับกลายเป็นสีแดงจนคนมองอดจะสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้คนตัวขาวร้องไห้ถึงขนาดนี้


                “เอ่อ-”


              “ผมไม่เป็นไร ขอโทษนะครับ”


              สิ้นเสียงร่างบางก็วิ่งไปจากตรงนั้น  ทิ้งให้จงอินยืนงงอยู่ตรงนั้น  ก่อนดวงตาคมจะหันไปสบกับบางอย่างที่หล่นอย่างที่อยู่บนพื้นถนน  พอก้มลงไปหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันคือกระเป๋าสตางค์


                จงอินคิดว่ามันคงจะเป็นของคนที่พึ่งวิ่งจากเขาไปเมื่อสักครู่นี้



                “จะไปตามหาเจอที่ไหนล่ะเนี่ย”









                “อยู่ไหนเนี่ย”


              ร่างบางบ่นออกมาหลังจากเดินหาได้สักพักแล้วแต่ก็ยังไม่เจอ  จำได้ว่าตัวเองถือโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์เอาไว้  ตอนที่วิ่งออกมาจากเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเจอในวันที่ทุกคนมีความสุข


              ผมโดนบอกเลิก   โอเซฮุนโดนบอกเลิก


                มันหลอกหลอนผมตลอดหลังจากที่ผมโดนบอกเลิก   ผมเอาแต่ร้องไห้ และไม่ได้ดูทางที่ขาของตัวเองกำลังวิ่งไปจนกระทั่งร่างกายของผมไปปะทะกับอกแกร่งของใครบางคน


                อ้อมกอดของผู้ชายคนนั้นอบอุ่นมาในตอนที่เขาคว้าเอวของผมไปกอดเอาไว้เพื่อไม่ให้ผมหงายหลังล้มลงไป  เขาเอ่ยถามผมอย่างเป็นห่วง  ผมก็ได้แต่ตอบว่าไม่เป็นไรแล้วก็รีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระเป๋าหล่นไปตรงไหนและตอนไหน



                “หานี่อยู่หรือเปล่าครับ”


              เสียงทุ้มขึ้นจมูกทำให้กายของเซฮุนสะดุ้ง  การมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงหรือบางทีเซฮุนอาจจะเหม่อลอยจนไม่ได้สังเกตเสียงนั้นเองก็ได้


                เซฮุนหันไปทางต้นเสียง  สายตาจดจ้องอยู่กับใบหน้าของผู้ชายที่เขาพึ่งวิ่งชนไปเมื่อไม่นานมานี้


                เขามีรูปร่างที่สูงพอๆกับผม  แต่กับดูแข็งแรงกว่าผมอยู่มาก ดูจะมีอายุกว่าผมด้วย   ใบหน้าคมของเขาดูดีเหมือนกับนายแบบบนปกนิตยสารชื่อดัง  จมูกทู่ดูเป็นเอกลักษณ์ ปากหนาที่กำลังยกยิ้มทำให้ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย


                “เอ่อ...ขอบคุณครับ”


              ยื่นมือไปรับกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลแก่จากมือหนา 


                “ให้ผมเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนคุณได้หรือเปล่า”


              “เอาสิครับ”






              “เอ่อ  คุณ...”


              “จงอินครับ  คิมจงอิน”


                “ผมเซฮุนครับ โอเซฮุน”


              “คุณมาเดินคนเดียวเหรอครับ”  เอ่ยถามอย่างสงสัย  เพราะช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆเขาก็อยู่กับเพื่อน ครอบครัว  หรือไม่ก็แฟน


    “อ่า...  จะว่ายังไงดีล่ะ  ตอนแรกก็กะว่าจะมากับคนรักกลับเจอภาพที่มันทำให้เจ็บหัวใจ จะว่าไงดีล่ะ เรียกว่า อกหักมั้งครับ ”  นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็เจ็บที่หัวใจขึ้นมาทันที “แล้วคุณล่ะ  มาคนเดียวเหมือนกันเหรอครับ”


    “เปล่าหรอกครับ  ผม... พึ่งโดนบอกเลิกมา”  พอนึกถึงเรื่องนี้ขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งจนต้องรีบกระพริบตาไล่หยาดน้ำใสเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา


              “อ่า  ขอโทษครับ”








              หลังจากเดินคุยกันมาเรื่อยๆ  เราก็เลือกที่จะทานอาหารจากร้านเนื้อย่างซึ่งตั้งอยู่บนถนนแทน


                ตอนกินอาหารไปก็คุยกันไปจนเราต่างรู้เรื่องของกันและกันเยอะอยู่พอสมควร   อย่างเช่นหน้าที่การงาน หรือแม้แต่สิ่งที่ชอบทำ


                น่าแปลก  ทั้งที่เราพึ่งจะเจอกันได้ไม่กี่ชั่วโมง  แต่เราสามารถคุยกันได้อยากกับเคยรู้จักกันมาก่อน  สิ่งที่เขารู้เพิ่มอีกหนึ่งอย่างคือ จงอินอายุมากกว่าเขาตั้ง 3 ปี  อย่างที่เขาคาดไว้ว่าอีกฝ่ายต้องอายุมากกว่าเขา

             


              “สี่ทุ่มแล้ว เซฮุนจะกลับเลยหรือเปล่า”


              จู่ๆ  ก็รู้สึกไม่อยากจะจากกันสักเท่าไร  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร  ทั้งที่เจอกันไม่แค่ไม่กี่ชั่วโมง  แต่เซฮุนแค่รู้สึกว่าเขาอยากจะอยู่ใกล้ๆผู้ชายคนนี้


                “เอ่อ...”


                “ถ้ายังไม่อยากกลับไปเดินเล่นกันก่อนไหม  เดี๋ยวพี่ไปส่ง”


              “ครับ!”  เซฮุนตอบไปแบบไม่ต้องคิด  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายเอ่ยชวนหรือทำตาที่หัวใจเรียกร้องกันแน่  แต่จะอันไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ  เพราะยังไงก็อยู่กับจงอินทั้งนั้น











    แม้จะใส่เสื้อกันหนาวหลายชั้นแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายหนาวจากอากาศตอนดึกของเกาหลีในช่วงนี้ได้


    มือบางถูกันไปมาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย  จงอินเห็นดังนั้นจึงถือวิสาสะคว้าข้อมือขาวมากุมเอาไว้เพื่อมอบความอบอุ่นให้


    เซฮุนทั้งตกใจและก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ  มือของจงอินอุ่นมาก  จนเขาแทบไม่อยากปล่อยไปเลย  จงอินเพียงแค่ยิ้มและหันไปมองแล้วเริ่มก้าวเดินต่อไปอย่างไม่เร่งรีบ


    “น่าแปลกเนอะ”


    “ครับ?”


    “ที่พระเจ้าเลือกให้เราสองคนต้องอกหักวันนี้”


    “นั่นสินะครับ”


    ร่างบางระบายยิ้ม  มองมือของเราที่กอบกุมกันไว้  แม้ตอนแรกจะเสียใจ  แต่พอมีผู้ชายข้างๆเข้ามา เขาก็ลืมมันไปเสียแล้ว


    แต่พี่ก็ดีใจนะ-”


    เสียงหัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระโดดออกมาเมื่ออีกฝ่ายหยุดยืนนิ่งๆ  แล้วใช้มืออีกข้างของตัวเองมากุมมืออีกข้างของเขาไว้  และเราก็ประสานมือกัน


    ที่พระเจ้าเลือกให้เราได้มาเจอกันในวันนี้

             

              ริมฝากหนาประทับลงไปบนปากบางสีพีช เพื่อบอกให้รู้ว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ






              เป็นแฟนกับพี่นะเซฮุน

             




    #JMTfics

    @yeahJMT





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in