หากเราพูดถึงครั้งสุดท้าย หากพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย คุณอยากทำอะไร
หลายคนคงมีคำตอบไม่เหมือนกัน
ฉันที่อายุได้เพียงราวสิบขวบ กำลังลังเลว่าจะลงน้ำทะเลดีไหม ฉันชอบว่ายน้ำมาก แต่ก็ยังไม่เคยกระโดดลงไปดำน้ำหรือว่ายน้ำกลางทะเลขนาดนี้ แต่ฉันเห็นหลายคนสวมเสื้อชูชีพและมัน'ไม่เป็นไร'
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ และกระโดดลงไปในน้ำ หัวของฉันนึกถึงภาพที่ฉันว่ายน้ำลอยตัวอยู่กลางทะเลอย่างมีความสุข แต่แล้วมันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
ร่างกายฉันดิ่งลงไปในน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว ใช่.. ฉันจมน้ำ ฉันรู้สึกตัวแล้วว่าตัวฉันไม่ลอย ตอนนั้นฉันยังเป็นแค่เด็ก และไม่รู้ต้องทำยังไง ฉันคิดได้อย่างเดียวคือฉันจะเป็นอะไรไม่ได้ ยังมีอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้ทำ และฉันกลัวความเจ็บปวด ไม่รู้ว่าโลกข้างหน้าเป็นยังไง และที่สำคัญฉันยังอยากอยู่กับครอบครัวที่ฉันรัก แค่ชั่วแว้บเดียว ความคิดหลายอย่างไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว และในตอนนั้นเองที่ทำให้ฉันเลิกที่จะตกใจ ร่างกายฉัน ขาของฉันออกแรงต้านคลื่นทะเล ถีบขาว่ายน้ำส่งตัวเองขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ขอแค่โผล่ไปเหนือผิวน้ำแล้วหาอะไรเกาะก็พอ โชคดีที่ฉันชอบการว่ายน้ำและครอบครัวเห็นว่าสิ่งนี้สำคัญ ฉันจึงได้มีความรู้พื้นฐานบ้าง รวมถึงโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งช่วยเหลือฉันไว้
เมื่อฉันปลอดภัยแล้ว สิ่งเดียวที่ฉันได้เรียนรู้จากอุบัติเหตุครั้งนี้คือ ฉันจะไม่ยอมเสี่ยงแม้ว่าใครจะบอกว่ามันปลอดภัยหรือมีอุปกรณ์ที่ปลอดภัยก็ตาม มันไม่คุ้มที่จะ'เสี่ยง' ถ้าตัวฉันเองไม่มั่นใจ ฉันจะไม่ทำมันเด็ดขาด ฉันจะไม่เชื่อ เดิมทีฉันจะเป็นคนลุยๆ ชอบในการผจญภัยในที่ต่างๆ แต่ด้วยเหตุการณ์นี้ นับตั้งแต่นั้นมา ฉันกลายเป็นคนไม่ชอบความเสี่ยง ยิ่งถ้าจะต้องทำเรื่องใหญ่ๆ ฉันมักจะคิดคำนวน ย้ำแล้วย้ำอีกก่อนจะทำอะไร คำนวนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นถ้าเลือกทำแบบนั้น หรือถ้าเลือกทำแบบนี้ จนในบางครั้งบางคนก็ไม่เข้าใจและคอยตั้งคำถามกับฉันตลอด
จุดเริ่มต้นที่จากเรื่องนี้ ทำให้ฉันตีกรอบขึ้นมาในเรื่องของความปลอดภัยและสิ่งต่างๆที่อาจะจะเป็นปัจจัยเสี่ยงในชีวิตของฉันรวมถึงทุกๆเรื่อง และไม่เชื่อในคำพูดใคร ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่บอกว่ามันจะ'ไม่เป็นไร' เพราะมัน'เป็น'
ฉันคำนวนแม้กระทั่งความรู้สึกคน ความเป็นไปได้ของทางต่างๆที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเจรจา ไม่ว่ากับใครก็ตาม ฉันใช้ชีวิตแบบมั่นใจมาตลอด และถึงแม้มันจะผิดพลาดบ้าง แต่ก็สามารถยอมรับมันได้ นั่นเพราะมันอยู่ในการคาดการณ์ไว้แล้ว จนกระทั่ง....ฉันได้เจอเธอ
Feeling
ตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามาในชีวิตฉัน ฉันก็ไม่สามารถที่จะคำนวนเหตุการณ์ข้างหน้าที่อาจจะเกิดขึ้นได้เลย แรกๆฉันหงุดหงิด เพราะไม่รู้เธอคิดอะไรอยู่ เมื่อเธอเข้ามาในชีวิตฉัน ทุกๆอย่างที่ฉันเรียกว่า'เครื่องคำนวน'มันเหมือนกับได้พังลงเมื่อเจอกับเธอแทบทุกครั้ง
ฉันคาดเดาความรู้สึกเธอไม่ได้ บางครั้งฉันก็ทำอะไรไม่ถูก ที่คาดไม่ถึงคือ ฉันลืมคำนวนความรู้สึกตัวเอง เมื่อรู้ตัวอีกที ฉันก็อยู่ท่ามกลางความรู้สึกที่คนเราเรียกว่า 'รัก' โดยไม่รู้ตัว
คุณไม่มีทางล่วงรู้อนาคตของตัวเองได้ ฉันเองก็เช่นกัน ตัวฉันในตอนเด็กนั้น ไม่มีทางรู้เลยว่าอีกยี่สิบปีต่อมาตัวฉันอาจจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อใครคนหนึ่งได้เดินเข้ามาในชีวิต
จากคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง แต่กลับเดินเข้าหาทั้งที่ไม่รู้เปอร์เซ็นหรือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ สิ่งเรียกว่า 'ความรู้สึก'
นั่นเพราะ'ความรู้สึก'ของคน เป็นสิ่งที่เราไม่อาจจะล่วงรู้ได้เลย เราไม่สามารถที่จะคำนวนมันได้ หรือคาดคะเนได้นั่นได้ เพราะมันอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา รวมถึงความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน
เมื่อคุณตกลงไปในวังวน หรือ ตกหลุมความรู้สึกของตัวเอง สิ่งที่เราเรียกว่า 'ความรู้สึก' มันจะทำให้เรานั้นทั้งสับสนและมีความสุข หรืออาจจะทุกข์ได้ในบางครั้ง หลากหลายรูปแบบต่างกันออกไป มันจะพากันผุดขึ้นมาในใจ เหมือนกับต้นเบาบับที่อยู่บนดาวเจ้าชายน้อย ซึ่งไม่ว่าคุณเองจะขุดหรือถอนมันทิ้งเท่าไหร่ มันก็จะพากันขึ้นเรื่อยๆ และถ้ายิ่งคุณปล่อยปละละเลยมันเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีมันจะพากันขึ้นจนคุณต้องใช้เวลาในการถอนมันออก
ตัวฉันในอนาคตเป็นแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว ฉันปล่อยให้สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นในใจและปล่อยมาหลายปี กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นตัวฉันเองที่ต้องอยู่บนดาวของตัวเองแล้วคอยถอนต้นเบาบับออกไม่ให้มันลุกลาม
เมื่อเราต้องแยกย้ายกันไปคนละที่ ฉันเลือกเก็บความรู้สึกนั้นแล้วออกเดินทางไปที่อื่น เพราะอยากรู้ตัวความรู้สึกของตัวเอง และคิดว่าความรู้สึกที่เกิด อาจจะแค่หวั่นไหวแค่นั้นก็ได้ ฉันออกเดินทางพบปะสิ่งใหม่ๆ พบผู้คนใหม่ๆ เพราะคิดว่าเรายังคงต้องเจออะไรมากมาย เธอเองก็ยังคงเดินในเส้นทางของเธอเช่นกัน
แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อหลายๆอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด หลายปีผ่านไปยิ่งทำให้รู้ว่าเธอยังคงอยู่ในนั้น เธอก็คือเธอ ไม่มีใครที่จะเหมือนกับเธอได้ เพราะเธอมีคนเดียวในโลก นั่นจึงทำให้ฉันเลือกเดินกลับมาอยู่ที่เดิม และทำตามความรู้สึกของตัวเอง เหมือนกับเจ้าชายน้อยที่สุดท้ายก็ต้องกลับดาวของตัวเอง ต่างกันแค่ฉันที่ไม่รู้เลยว่า กุหลาบนั้นจะยังรอฉันอยู่ไหม
ถ้าเป็นคุณ... จะเลือกกลับไปเผชิญความรู้สึกตัวเอง หรือ เลือกที่จะทิ้งมันไว้แบบนั้น ปล่อยให้เป็น'ความทรงจำ'
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in