เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storylady_buanoi
Under the Tuscan Sun
  • บ่ายวันนี้เราจะเดินทางไปยังเมืองฟลอเรนซ์ แคว้นทัสคานี ที่มีเมืองเลียนแบบในบ้านเราเป็นว่าเล่น  ใช่ค่ะฉันพูดถึง เขาใหญ่ 
    การเดินทางครั้งนี้เราเลือกใช้รถไฟความเร็วสูง โดยสามารถเลือกว่าจะนั่งรถไฟ Frecciarossa ของ Trenitalia ซึ่งเป็นของรัฐบาล หรือ Italo รถไฟเอกชนของบริษัทแบรนด์อิตาลีที่มีชื่อเสียงระดับโลกสองบริษัทอย่างเฟอร์รารี่และ Tod’s (มองตาก็รู้แล้วว่าต้องเลือก Italo)


    ด้วยความเร็ว 300 km/hr ทำให้เราใช้เวลาจากโรมไปยังฟลอเรนซ์ภายในเวลา 1.5 ชม ระหว่างทางเมื่อเราเข้าสู่แคว้นทัสถานี เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่เหมือนในหนัง ในสไตล์ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ และต้นไม้แบบยอดแหลมๆ (เธอนึกภาพตามสิ) แบบที่ไม่เคยเห็นที่อื่น มันคือต้นอะไรนะ แบบรูปข้างล่างนี้น่ะ (รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเองนะคะ จะให้เห็นภาพว่ามันเป็นแบบนี้)


    ทัสคานี นี่มัน ทัสคานี จริงๆ

    อาจจะด้วยความที่ฉันอาจจะทำบุญมาน้อยแหละ แต้มบุญหมดไว ดูวิวได้สองสามนาที เอะอะรถไฟก็เข้าอุโมงค์ เอะอะเข้าอุโมงค์ อัลไล ! นอนก็ด้ะ 


    ถึงฟลอเรนซ์แล้ว คนเยอะทีเดียว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเอเชีย ใครๆก็อยากมาสัมผัสต้นกำเนิดของศิลปะยุคเรอเนสซองค์ เดินไป โรงแรมกันเถอะ ที่นี่เล็กกว่าโรม ไม่ว่าไปไหน เดินไปก็ได้จ้ะ เมื่อเก็บของเสร็จแล้วเราก็เดินไปโบสถ์ Santa Maria del Fiore อันเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เสียหน่อย 

    เอาล่ะพอเป็นพิธีเนอะ ไปหามื้อเที่ยงทานกัน
    Fiaschetteria - Trattotia Mario 
    ร้านนี้เปิดเฉพาะมื้อเที่ยง ขายเนื้อเป็นหลัก โดยเนื้อหนึ่งชิ้น ลำพังฉันคือแบ่งกินได้สามวันอะ พาสต้าเป็น menu of the day มีอย่างเดียวไม่ต้องเลือกจ้ะ เมนูแปะไว้บนฝาผนังเป็นภาษาอิตาเลี่ยน ไม่มีเมนูให้มาดูที่โต๊ะนะเธอ สั่งๆไปเถอะ ตามโต๊ะข้างๆก็ได้ (อย่าพูดว่าโต๊ะข้างๆดีกว่า โต๊ะเดียวกันนี่ล่ะ ศอกจะติดกันอยู่แล้ว แน่นมาก แชร์โต๊ะเท่านั้น

    ฉันว่าเนื้อมัน rare ไปนิด เยอะไปหน่อย พาสต้าดีมากวันที่ฉันไปเป็นแบบ seafood ซึ่งไม่รู้ว่ามันคือเนื้ออะไรหรอกนะ แต่อร่อยล่ะกัน ฉันชอบนะ 


    เมื่อทานมื้อเที่ยงเสร็จ เรามาเดินดูรอบเมือง ดูความรุ่งเรืองของเมืองที่ส่วนใหญ่มาจากตระกูล Medici ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อศิลปะยุคเรอเนสซองค์ ตระกูลนี้ทำธุรกิจเกือบทุกด้าน เกษตรกรรม การค้า การธนาคาร ครอบคลุมเป็นวงจร จนส่งผลถึงการเมืองการปกครองโดยที่ไม่ต้องออกหน้ารับตำแหน่งทางการเมืองด้วยตนเอง ตระกูลนี้อุปถัมภ์ ปัญญาชน ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ ชื่อดังมากมาย อย่าง ไมเคิลแองเจลโล่ ลีโอนาร์โด ดาวินชี และกาลิเลโอ (เป็นอาจารย์สอนหนังสือให้กับลูกหลานของตระกูลด้วย เก๋จังเธอ) ทำให้วิทยาการสมัยใหม่เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Medici ยังสร้างโบสถ์ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ อาคารบ้านเรือนให้กับ Florence มากมาย ทำให้ Florence เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งในยุโรป และตระกูลนี้ในยุครุ่งเรืองก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปด้วย 

    เราข้ามสะพาน Ponte Santa Trinita ที่เชื่อมสองฝั่งของแม่น้ำอาร์โน เพราะต้องการถ่ายรูปสะพาน Ponte Vacchio ซึ่งเป็นมุมมหาชน ได้มาราวๆสามพันรูปแล้วเราก็ไปยังอีกฝั่งที่นักท่องเที่ยวน้อย เราว่าฝั่งนี้น่าสนใจนะ นักท่องเที่ยวน้อย มีคนท้องถิ่นอยู่เยอะกว่า น่าเสียดายที่ไม่ได้มีเวลาเดินจนทั่ว 

    มื้อค่ำเราไปหาอะไรทานที่ Mercato Centrale ก็เป็นเหมือนศูนย์อาหารคล้ายๆกับที่โรม แต่รอบนี้เราคงเลือกร้านพลาดไปสักหน่อย มันไม่อร่อยเท่าไหร่ เลยซื้อซูชิมาแทน (ไม่คูลเลยใช่ม่ะ มาทานซูชิที่นี่ได้ไง) คู่กับ Aperol orange สักแก้ว 

    เอาเถอะ ปลอบใจตัวเองว่า พรุ่งนี้เราจะไปทานพาสต้า Bolognese ที่อร่อยที่สุดในโลกที่ Bologna กันแล้วววว ..... แหน่ะ ! เธอรู้ได้ไง ว่าฉันกำลัง tie in เข้าบทต่อไป  
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in