คิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยอ่าน New York 1st Time นะ เราก็อ่านเล่มนั้นของพี่เบ๊นเป็นเล่มแรกเหมือนกัน แต่ตอนนั้นอ่านหลัง Bon En France ของพี่บองเต่า ความรู้สึกเลยคิดว่าพี่เบ๊นติดตลกหยาบคายไปหน่อย แต่เล่มนี้ไม่มีตัวเทียบละ อ่านก่อนเลย 55555
เข้าเรื่อง ๆ จริง ๆ เล่มนี้มันออกมานานแล้ว เราเห็นตั้งแต่งานหนังสือแต่ไม่ได้ซื้อเพราะกะสั่งในเว็บ (มันถูกกว่า) แล้วก็ไม่ได้สั่งสักที จนเมื่อวันก่อนจะไปสระผมแล้วแบตมือถือจะหมด เลยจะหาหนังสืออ่านฆ่าเวลา ก็เลยแวะร้านหนังสือหยิบเล่มนี้มา 555555 (มีอยู่สองเล่มทั้งแผง...)
หนังสือเล่มนี้ซื้อด้วยเหตุผล 1) เพราะเราอ่านนิวยอร์กฯ มาแล้ว เลยอยากลองอ่านงานอื่นพี่เขาดู 2) เราชอบแซลม่อนเฮ้าส์...
ค่ะ นั่นแหละ 5555 ถึงหน้าคำนำ ตัวบรรณาธิการเองจะงง ๆ ว่าหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับชีวิตของผู้กำกับมันจะออกมาเป็นยังไง แต่มันสนุกค่ะ เพราะนี่อ่านจบแล้ว 55555
หนังสือก็จะเล่าชีวิตการทำหนังของพี่เบ๊น ตั้งแต่ช่วงไปเรียนโทที่เมกา ตอนทำงานที่แซลม่อน หรืออย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำหนัง (หรืออาจจะไม่เกี่ยวแต่อยากเล่า) นอกจากวิธีการเล่าที่สนุกแล้ว เราพบว่า ความน่าสนใจของการทำภาพยนตร์หรือเขียนบทคือ วิธีคิด
การมองเรื่องธรรมดาให้ไม่ธรรมดา การสร้างวิธีการเล่าเรื่องแบบใหม่ ๆ หรือคิดอะไรที่แปลกออกไป คิดในมุมกลับงี้ พี่เบ๊นยกตัวอย่างงานหลายอย่างที่พี่เขาถ่าย ซึ่งดูได้ใน Youtube และเราชอบภาพยนตร์โฆษณาที่เป็น viral ของแซลม่อนเฮ้าส์มาก เช่น รถเมล์สาย 8 งี้ คือมันมีความคอนทราสต์บางอย่าง เราชอบความจิกกัด ชอบวิธีคิดวิธีนำเสนอ ซึ่งพอรังสรรค์ออกมาแล้วผู้รับกรรมต่อไปก็คือโปรดิวเซอร์ 555
พอเราอ่านจบเลยแบบ เออ มันมีวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้อยู่นี่หว่า ทำไมเราต้องเล่าอะไรแบบที่คนอื่นเขาเล่า ทำไมเราไม่คิดะไรที่มันต่างออกไป เหมือนโฆษณาเพียวริคุของแซลม่อนที่ "ทำไมวัยรุ่นต้องออกไปทำอะไรต่อมิอะไรข้างนอก" นั่งอยู่ในห้องเล่นคอมนี่ไม่ใช่วัยรุ่นเหรอ สารภาพว่าตอนดูครั้งแรกก็แอบน้ำตาซึมอะ 5555 เออ มีคนเข้าใจเราด้วยงี้ /ปาดน้ำตา
ตลอดการอ่านเราได้อะไรเยอะมาก แต่ไม่ได้จดไว้เลย (เวรกรรม คราวหน้าจะลองแบบจินยองละ คิดอะไรได้ตอนอ่านจะจดไว้ TT) แต่หลัก ๆ ก็ประมาณนี้แหละมั้ง รอบนี้เขียนไม่เป็นระบบระเบียบอะไรเลย 5555555
ว่าแต่ ทำไมกว่าจะอ่านจบสักเล่มมันถึงได้ทิ้งช่วงห่างกันขนาดนี้...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in