สิ่งที่เราจะแชร์
1. ทุนรัฐบาลเกาหลีคือ.....
2. สิ่งที่จะได้รับสนับสุนจากทุนรัฐบาลเกาหลี
3. คุณสมบัติผู้สมัคร
4. ช่องทางการสมัครและข้อมูลรายละเอียด
5. สาขาที่เราสมัครและ background
6. ขั้นตอนการเตรียมตัว
7. Timeline
8. การเขียน PS กับ SOP
9. การสัมภาษณ์
1. ทุนรัฐบาลเกาหลี คือทุนที่รัฐบาลเกาหลีมอบให้กับนักเรียนต่างชาติทั่วโลกเพื่อให้นักเรียนต่างชาติได้ไปเรียนต่อในระดับป.ตรี ป.โท. ป.เอก ณ มหาลัยในประเทศเกาหลี เพื่อสร้างความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศเกาหลีกับประเทศต่างๆ สำหรับประเทศไทย รัฐบาลเกาหลีมอบทุนให้นักเรียนไทย เรียนต่อในระดับป.โท-เอก ราวๆ 30-40
2. ทุนนี้สนับสนุน -ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ -ค่าเทอม -ประกันสุขภาพ -ค่าตั้งรกราก
3. คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัคร -ผู้สมัครและพ่อแม่ของผู้สมัครไม่ถือสัญชาติเกาหลี -หากสมัคร ป.โท ก็ต้องมีวุฒิการศึกษาเทียบเท่าระดับป.ตรีหรือสูงขึ้นไป -ระดับ.โท-เอก อายุไม่เกิน 40 ปี -เกรดเฉลี่ย 2.64/4.00 ขึ้นไป
4. ช่องทางการสมัครและข้อมูลรายละเอียด
วิธีการสมัคร มี2 แบบ
1.
ก่อนหน้าปี 2021 มีกฎว่าต้องเลือกสมัครแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น แต่ในกำหนดปี 2021 หากผู้สมัครยื่นผ่านสถานฑูต แล้วไม่ผ่าน ก็สามารถยื่นผ่านมหาลัยได้อีกรอบ ถ้าทันภายในระยะเวลาที่มหาลัยกำหนด ฉะนั้นแล้วต้องอ่านระเบียบการปีนั้นๆให้ดี
ถ้าถามเราว่าสมัครแทรคไหนดี? เราแนะนำว่าให้เตรียมเอกสารไว้สองชุดสำหรับสมัครผ่านสถานฑูต กับสมัครผ่านมหาลัย แล้วพอตอนประกาศระเบียบการออกมา "ถ้า"กฎเป็นเหมือนปี 2021 ให้โอกาสทั้งสองอย่าง ให้ลองยื่นสถาฑูตก่อน สกรีนรอบแรกของสถานฑูตใช้เวลาประมาณ 2อาทิตย์มั้ง (ถ้าจำไม่ผิด) ถ้าไม่ติดรอบแรกสถานฑูต มันยังเหลือเวลาสำหรับสมัครบางมหาลัย ให้เดินหน้าสมัครรอบมหาลัยต่อเลย
รายละเอียดการสมัครทั้ง 2แบบ จะไม่เหมือนกัน สามารถเช็คเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ Study in Korea > Scholarship > GKS Notice https://www.studyinkorea.go.kr/en/main.do
ถ้าจะสมัครป.โท-เอกดูที่ไฟล์ GKS-G (Graduate) โดยมี
**ย้ำเหมือนหลายรีวิวคืออ่านไกด์ไลน์ให้ละเอียด!
5. สาขาที่เราสมัครและbackground
เราสมัครผ่านมหาลัยโดยตรง สมัครคณะ International trade and logistics Chung-Ang University
GPAX 3.5X TOEIC 8XX TOPIK 6 จบเอกภาษาเกาหลี เคยไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลี ไม่มีรางวัลหรืองานวิจัย มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทโลจิสติกส์เกาหลีประมาณปีกว่าๆ
6. ขั้นตอนการเตรียมตัว
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
7. Timeline การสมัครปี 2021
ประกาศรับสมัครทุนป.โท-เอก
ส่งเอกสารถึงมหาลัยได้ถึง 9
ได้รับอีเมล์นัดวันสัมภาษณ์ 14
สัมภาษณ์กับคณะ
ประกาศรอบแรกจากมหาลัย 3
ประกาศผลรอบสองจาก
ส่งผลตรวจสุขภาพ 16
ประกาศรอบสุดท้าย 25
บิน
Personal Statement
Motivations with which you apply for this program เราอธิบายถึงข้อดีของทุนนี้ในหลายๆด้านที่ทำให้เราอยากสมัคร เช่น
Family and Education background เราเขียนประมาณว่า ครอบครัวเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการศึกษาเลยสนับสนุนให้เรียนในสิ่งที่เราถนัดและสนใจ แล้วโยงเข้าเรื่องตัวเอง ว่าเราเลือกเรียนเอกภาษาเกาหลีเพราะอะไร
Significant experiences you have had; risks you have taken and achievements youhave made, persons or events that have had a significant influence on you เจอหัวข้อนี้ก็แอบเครียดเพราะสมัยเรียนไม่ค่อยทำกิจกรรมแบบจริงจังหรือเข้าร่วมประกวดอะไรเลย ถ้าย้อนเวลากลับไปคงบอกตัวเองให้ไปทำกิจกรรมเยอะๆ ใครยังเรียนอยู่เข้ากิจกรรมเยอะๆนะ หัวข้อนี้เราเลยเน้นที่งานปัจจุบัน เล่าถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากงาน การได้รับประเมินเกรดที่ดีนั้น เรามองว่ามันคือความสำเร็จเล็กๆ ที่จุดประกายให้เราอยากพัฒนาขึ้นไปอีก เราอยากเรียนต่อ เพราะอยากรู้หลายๆแขนงของสายงานโลจิสติกส์
-Extracurricular activities such as club activities, community serviceactivities or work experiences -If applicable, describe awards you have received, publications you have made, orskills you have acquired) เราจับสองหัวข้อนี้มาเขียนรวมกันเลย เน้นเล่าถึงตอนไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลีเพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเราเคยใช้ชีวิตในสังคมของเขา การไปเรียนที่นั่นจะไม่เป็นอุปสรรคในการปรับตัว เขียนถึงทักษะต่างๆที่ได้พัฒนาขึ้นตอนอยู่ที่เกาหลี เช่น ทักษะภาษาเกาหลีดีขึ้น การได้พบเพื่อนหลายชาติทำให้เราเคารพความหลากหลาย ทำให้เราปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่ทำงานกับคนต่างชาติได้ง่าย มีความรับผิดชอบมากขึ้น จัดการเวลาดีขึ้น (และนี่คือการแอบเนียนบอกข้อดีของตัวเราไปด้วยเลย) พอเราได้เรียนรู้ทั้งภาษาและวัฒนธรรมเราก็เอากลับมาแบ่งปันให้กับคนไทยที่สนใจเกาหลีด้วย (พยายามให้เขาเห็นว่าการไปครั้งนั้นเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่นนะ)
เราเชื่อว่าทุกคนมีประสบการณ์ที่ต่างกัน มีข้อดีข้อด้อยต่างกันออกไป พยายามหาจุดแข็งตัวเองให้เจอ เลือกมาเขียนด้วยคำที่
เราเขียนเต็ม
Study plans to improve foreign languages(Korean, English, etc) required for taking adegree course BEFORE and AFTER you come to Korea. หัวข้อนี้เราเขียนประมาณครึ่งหน้า ตอบไปเลยให้ตรงคำถาม ว่าเราจะฝึกอย่างไร เราบอกเลยว่าตั้งใจจะสมัครทุนนี้ ดังนั้นเราจึงอยากให้อาจารย์เห็นว่าเราพร้อมเข้าเรียน เลยเราทบทวนภาษาเกาหลีและไปสอบเพื่อให้ระดับสูงสุด ถึงจะพอรู้ภาษาเกาหลีมาบ้าง แต่ก่อนไปเกาหลีเราจะพยายามอ่านเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้รู้ศัพท์เฉพาะ หากเป็นไปได้อยากลงเรียนวิชาเกี่ยวกับภาษาเกาหลีหรืออังกฤษเพิ่ม หมั่นฝึกฝนผ่านทางออนไลน์ด้วยตัวเอง เอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนเกาหลี คนต่างชาติ เช่น เข้าร่วมสัมนา วิจัย เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม (ในไกดไลน์ของมหาลัยเขามีเขียนว่าเขามีจัดกิจกรรมนี้ให้นักเรียนต่างชาติฟรี)
Goal of study and detail study plan
หัวข้อนี้เราว่าสำคัญมากๆ เขียนไปเกือบ 1
-
Future plan in Korea or another country after study in Korea
หัวข้อนี้ใช้พื้นที่ประมาณ 3/4 ของหน้า เขียนถึงความตั้งใจจริงๆของเราไปเลยว่า ประโยชน์ที่เรียนมาเนี่ย เราจะเอาใช้ทำอะไร ต้องเป็นอะไรที่ดูเป็นไปได้ ต้องมีแผนการ มีเป้าหมาย อาจจะแบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะยาว ควักออกมาเลย 1 2 3 4 ว่าไป ให้เพื่อนๆคิดไว้ว่าทุนนี้เป็นเงินภาษีของคนเกาหลี ดังนั้นเขียนถึงแพลนที่จะทำแล้วมันเกิดประโยชน์ต่อทั้งไทยและเกาหลีหรือคนหมู่มากน่าจะเป็นแนวทางที่ดี
เราคิดว่าการเขียนเรียงความพวกนี้ไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว ไม่มีรูปแบบที่เพอร์เฟ็คที่สุด และทุกคนมีประสบการณ์ที่ต่างกัน ไม่ขอการันตีว่าเขียนแบบนี้แล้วจะได้แน่นอน แต่เราอยากแชร์เพื่อเป็นไอเดีย เพราะตอนเราทำเราก็หาอ่านของคนอื่นและมาประยุกต์ใช้กับเรื่องราวของตัวเองเหมือนกัน หวังลึกๆว่าจะมีประโยชน์กับผู้สมัครในปีต่อๆไปไม่มากก็น้อย
ขอให้ความพยายามของทุกคนประสบความสำเร็จ HARD WORK ALWAYS PAYS OFF!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in