สวัสดีค่า
เร็ว ๆ นี้มีโอกาสได้ตามอนิเมะโชเน็นเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ มหาเวทย์ผนึกมาร!! 呪術廻戦 หลังจากไม่ได้ชอบอนิเมะเรื่องไหนมานานมากแล้ว 😅
เป็นโอกาสอันดีที่จะได้มานั่งเบียวไปพร้อม ๆ กับฝึกภาษาญี่ปุ่นด้วย เลยถือโอกาสแปลเพลงนี้ที่เป็นเพลงโปรดเลยแล้วกันค่ะ!
どこまでも続くような青の季節は
四つ並ぶ眼の前を遮るものは何もない
アスファルト 蝉時雨を反射して
きみという沈黙が聞こえなくなる
ฤดูกาลสีน้ำเงินที่ทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด
ด้านหน้าของคนสองคนนั้นไม่มีอะไรมาขวางกั้น
ยางมะตอยสะท้อนเสียงจั๊กจั่นตอนฝนตก
ทำให้ไม่ได้ยินความเงียบที่เรียกว่าเธอ
この日々が色褪せる
僕と違うきみの匂いを知ってしまっても
置き忘れてきた永遠の底に
วันคืนเหล่านั้นก็ได้จางหายไป
ถึงจะรู้ดีว่าเธอไม่เหมืือนฉัน
แต่ว่าในก้นบึ้งของอนันตกาลนั้น
今でも青が棲んでいる
今でも青は澄んでいる
どんな祈りも言葉も
近づけるのに、届かなかった
まるで、静かな恋のような
頬を伝った夏のような色のなか
きみを呪う言葉がずっと喉の奥につかえてる
ตอนนี้ก็ยังมีสีน้ำเงินนั้นอยู่
สีน้ำเงินนั้นก็ยังชัดเจนแจ่มแจ้ง
ไม่ว่าจะคำอธิษฐานใด หรือคำพูดใด
ถึงแม้จะเข้าใกล้ แต่ก็ไม่อาจเอื้อมถึง
ราวกับความรักข้างเดียว
ราวกับสีของฤดูร้อนที่อาบแก้มของเธอ
คำสาปแช่งเธอจึงไม่อาจออกไปจากลำคอของฉันได้
「また会えるよね」って 声にならない声
และไม่อาจพูดคำว่า "เราจะได้เจอกันอีกใช่มั้ย" ออกไปได้
昼下がり、じめつく風の季節は
想い馳せる、まだ何者でもなかった僕らの肖像
何もかも分かち合えたはずだった
あの日から少しずつ
きみと違う僕という呪いが肥っていく
ตกบ่าย ในฤดูที่มีลมชื้นพัดมา
ผมยังจำได้ดี ภาพของพวกเราที่ตอนนั้นยังไม่มีอะไรเลย
เราแบ่งปันทุกอย่างให้แก่กัน
จากวันนั้น
ตัวผมที่เป็นคำสาปก็เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
และค่อย ๆ ห่างจากเธอไป
きみの笑顔の奥の憂いを (憂いを)
見落としたこと、悔やみ尽くして (み尽くして)
ผมเคยมองข้าม
ความเศร้าที่อยู่ใต้รอยยิ้มเธอ
ผมเสียใจจริง ๆ
徒花と咲いて散っていくきみに
さよなら
และลาก่อนนะ
เธอผู้เป็นดอกไม้ที่เบ่งบานและร่วงโรยลงไป
今でも青が棲んでいる
今でも青は澄んでいる
どんな祈りも言葉も
近づけるのに、届かなかった
まるで、静かな恋のような
頬を伝った夏のような色のなか
きみを呪う言葉がずっと喉の奥につかえてる
ตอนนี้ก็ยังมีสีน้ำเงินนั้นอยู่
สีน้ำเงินนั้นก็ยังชัดเจนแจ่มแจ้ง
ไม่ว่าจะคำอธิษฐานใด หรือคำพูดใด
ถึงแม้จะเข้าใกล้ แต่ก็ไม่อาจเอื้อมถึง
ราวกับความรักข้างเดียว
ราวกับสีของฤดูร้อนที่อาบแก้มของเธอ
คำสาปแช่งเธอจึงไม่อาจออกไปจากลำคอของฉันได้
「また会えるよね」って 声にならない声
และไม่อาจพูดคำว่า "เราจะได้เจอกันอีกใช่มั้ย" ออกไปได้
無限に膨張する銀河の星の粒のように
指の隙間を零れた
ทุกอย่างไหลผ่านมือของฉันมา
เหมือนกับดวงดาวที่ขยายตัวออกไปในจักรวาลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
____________________
ไม่แน่ใจว่าจะแปลถูกต้อง 100% รึเปล่านะคะ ถ้าเกิดมีตรงไหนผิดเพี้ยนไป รบกวนทุกท่านเป็นหูเป็นตา ท้วงเราทีนะ 🙂
จริง ๆ เราไม่ได้อยากแค่แปลเพลง แต่อยากมาวิเคราะห์เพลงด้วยค่ะ เริ่มเลยแล้วกัน!
ーชื่อเพลง 青のすみか
แปลตรงตัวก็คือที่ที่มีสีน้ำเงิน สีฟ้าของเราอยู่ค่ะ
เราตีความว่า 青 หรือสีน้ำเงิน・สีฟ้าเนี่ย เป็นตัวแทนของ "ความเยาว์วัย"
ถ้าพูดคำว่า blue ในภาษาอังกฤษ เราก็จะนึกถึงความเศร้า ความหมองใช่ไหมคะ
แต่พอพูดถึง 青 ในภาษาญี่ปุ่น เรากลับรู้สึกว่ามันหมายถึงความสดใหม่ ความวัยรุ่น วัยเยาว์
เพราะว่าเมื่อก่อนในภาษาญี่ปุ่นมันไม่มีคำว่าสีเขียว 緑 เวลาบรรยายอะไรเขียว ๆ เขาก็จะใช้สีน้ำเงินนี่แหละค่ะ
เช่น แอปเปิ้ลเขียว ก็เป็น 青りんご เป็นต้น
มันเลยให้ความรู้สึกเฟรช รู้สึกสดใหม่
แถมคำว่าวัยเยาว์ในภาษาญี่ปุ่น 青春 ก็เป็นคันจิคำว่าสีน้ำเงิน ผสมกับฤดูใบไม้ผลิด้วย
เราเลยตีความว่าสีฟ้า สีน้ำเงินตรงนี้ แทนคำว่าวัยเยาว์ วัยรุ่นที่ฉันได้อยู่กับเธอ ได้สนุกกับเธอ มีความทรงจำหลาย ๆ อย่างร่วมกันนั่นเอง
====================
どこまでも続くような青の季節は
四つ並ぶ眼の前を遮るものは何もない
アスファルト 蝉時雨を反射して
きみという沈黙が聞こえなくなる
ฤดูกาลสีน้ำเงินที่ทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด
ด้านหน้าของคนสองคนนั้นไม่มีอะไรมาขวางกั้น
ยางมะตอยสะท้อนเสียงจั๊กจั่นตอนฝนตก
ทำให้ไม่ได้ยินความเงียบที่เรียกว่าเธอ
ตีความว่า ผู้แต่งเพลงเปรียบเทียบช่วงเวลาต่าง ๆ เป็นฤดูค่ะ
ฤดูสีน้ำเงินนี้อาจหมายถึง ฤดูใบไม้ผลิ = ช่วงเวลาที่ได้พบเจอ ได้อยู่ด้วยกันกับเธอ
มันทอดยาวไปจนมองไม่เห็นเลยว่าสิ้นสุดตรงไหน ราวกับว่าช่วงเวลาที่แสนมีความสุขนี้มันจะไม่มีวันจบลงเลย
แต่แล้วยางมะตอยก็สะท้อนเสียงจั๊กจั่นร้องพร้อม ๆ กับเสียงฝน
คำว่า 蝉時雨 เป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้บอกฤดูกาลด้วยว่า หน้าร้อนกำลังมาถึงแล้ว
จนทำให้ไม่ได้ยินเลยว่าเธอเงียบไป
คิดว่าผู้แต่งน่าจะอุปมาให้เห็นว่าช่วงเวลาที่มีความสุขกำลังผ่านไป แล้วผมเองก็ไม่ทันได้สังเกตเลย
หน้าร้อนของญี่ปุ่นมีเทศกาลที่เรียกว่า โอบ้ง お盆 อยู่ค่ะ
คล้าย ๆ เชงเม้งไหมนะ ไม่แน่ใจ แต่เป็นเทศกาลที่เขาจะกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมบรรพบุรุษที่จากไป
เราเลยคิดว่าหน้าร้อน เป็นฤดูที่พูดถึงการลาจาก การตายด้วยค่ะ
เรียกได้ว่าถ้าคิดเล่น ๆ ก็คือ foreshadow เรื่องราวในอนิเมะไปอีก
เพิ่มเติมคือถ้าจำไม่ผิด สมัยเรียนมันจะมีกลอนไฮกุที่เปรียบเทียบชีวิตคนกับจั๊กจั่น
จั๊กจั่นเนี่ย ชีวิตสั้นค่ะ เกิดมาแล้วก็ดับไปเหมือนมนุษย์ เราเลยรู้สึกว่ามันมี nuance ของการเสียไป การจากลาอยู่ด้วย
====================
この日々が色褪せる
僕と違うきみの匂いを知ってしまっても
置き忘れてきた永遠の底に
วันคืนเหล่านั้นก็ได้จางหายไป
ถึงจะรู้ดีว่าเธอไม่เหมืือนฉัน
แต่ว่าในก้นบึ้งของอนันตกาลนั้น
今でも青が棲んでいる
今でも青は澄んでいる
どんな祈りも言葉も
近づけるのに、届かなかった
まるで、静かな恋のような
頬を伝った夏のような色のなか
きみを呪う言葉がずっと喉の奥につかえてる
ตอนนี้ก็ยังมีสีน้ำเงินนั้นอยู่
สีน้ำเงินนั้นก็ยังชัดเจนแจ่มแจ้ง
ไม่ว่าจะคำอธิษฐานใด หรือคำพูดใด
ถึงแม้จะเข้าใกล้ แต่ก็ไม่อาจเอื้อมถึง
ราวกับความรักข้างเดียว
ราวกับสีของฤดูร้อนที่อาบแก้มของเธอ
คำสาปแช่งเธอจึงไม่อาจออกไปจากลำคอของฉันได้
「また会えるよね」って 声にならない声
และไม่อาจพูดคำว่า "เราจะได้เจอกันอีกใช่มั้ย" ออกไปได้
ตรงนี้ค่อนข้างตรงตัวค่ะ แต่จะมีจุดนึงที่เราละคำว่า "กลิ่น" ไป
ตามที่ค้นมา คำว่ากลิ่นตรงนี้ เขาน่าจะหมายถึงกลิ่นอาย ก็คือตัวตนของอีกฝ่ายที่ไม่เหมือนผู้เล่านั่นเอง
แต่ว่าถึงจะต่างกัน ลึก ๆ แล้วความเยาว์วัย ความรู้สึกที่สนุกด้วยกันนั้นก็ยังอยู่ และมันก็ชัดเจน มันก็จริง
แต่ต่อให้ทำอย่างไรก็ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิม
และไม่สามารถทำอะไรได้เลย
====================
昼下がり、じめつく風の季節は
想い馳せる、まだ何者でもなかった僕らの肖像
何もかも分かち合えたはずだった
あの日から少しずつ
きみと違う僕という呪いが肥っていく
ตกบ่าย ในฤดูที่มีลมชื้นพัดมา
ผมยังจำได้ดี ภาพของพวกเราที่ตอนนั้นยังไม่มีอะไรเลย
เราแบ่งปันทุกอย่างให้แก่กัน
จากวันนั้น
ตัวผมที่เป็นคำสาปก็เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และค่อย ๆ ห่างจากเธอไป
เหมือนผู้เล่าพยายามพูดถึงว่าก่อนมาเป็นฤดูใบไม้ผลิ ที่มีฝน มีลมชื้น
เราทั้งคู่ยังไม่มีอะไรเลย เป็นคนธรรมดา
แต่เราก็มีกัน แบ่งปันทุกอย่างให้กัน
แต่อารมณ์เหมือนสุดท้ายก็แยกย้ายกันไปเติบโต 5555555555
====================
無限に膨張する銀河の星の粒のように
指の隙間を零れた
ทุกอย่างไหลผ่านมือของฉันมา
เหมือนกับดวงดาวที่ขยายตัวออกไปในจักรวาลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ตรงนี้ไม่ค่อยแน่ใจนะคะ แต่เราตีความว่าเพราะว่าทุกอย่างมันเป็นอดีตไปแล้ว
ทำอะไรก็ไม่ได้ เหมือนเราเอื้อมมือจะคว้าดวงดาวบนฟ้า
แต่มันก็กลับขยายตัวออกไป สิ่งที่ได้มาก็มีเพียงทิวทัศน์ในช่องว่างระหว่างนิ้วเท่านั้นเอง
เหมืิอนความทรงจำที่หลั่งไหลมา แต่เราไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้วนั่นเอง
____________________
จบแล้วค่ะ ตรงนี้ก็เป็นแค่การตีความจากเราคนเดียว ถ้ามีตรงไหนที่อยากเสริมอยากเพิ่มก็คอมเม้นมาได้เลยนะคะ ยินดีอ่านมาก ๆ ค่ะ
ขอบคุณค่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in