ห้องกระจกขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสนามบาสเก็ตบอลนั้น คือห้องซ้อมของนักกีฬาบริดจ์
จองแจฮยอนเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัย และเขาก็ไม่เคยใคร่รู้เกี่ยวกับกีฬาไพ่ดังกล่าวมาก่อนเลยในชีวิต
จวบจนวันหนึ่งที่เขาเห็นชายร่างผอมโปร่งในชุดนักศึกษา ผูกเนคไทสุภาพเรียบร้อยกำลังปลดม่านสีน้ำเงินเข้มแล้วดึงมันปิดไปรอบ ๆ ห้องซ้อมฝั่งตรงข้ามสนามซ้อมของเขา
วินาทีที่ชายคนนั้นหายไปจากสายตาของเขาด้วยม่านสีเข้ม เป็นวินาทีเดียวกันกับที่เขานึกสงสัยขึ้นมา ว่ากีฬาบริดจ์นั้นเล่นอย่างไร และภายในห้องนั้นจะมีอะไรเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง
ก่อนที่เสียงหนัก ๆ ของลูกบาสที่ตกกระทบกับพื้นและเสียดสีของรองเท้ากีฬาจากสนามบาสเก็ตบอลจะเรียกความสนใจของเขาให้กลับไป
มันเล่นยาก
ต้องใช้สมอง
เล่นแล้วปวดหัว
เล่นบาสนี่แหละ ดีกว่าเยอะทั้งหมดนั้นคือคำจำกัดความที่รุ่นพี่ในทีมบาสมหาวิทยาลัยมอบให้กับกีฬาบริดจ์ ยามที่เขาเอ่ยถามขึ้นหลังจบการซักซ้อมในช่วงค่ำ
"สนใจบริดจ์เหรอแจฮยอน?"
รุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับเขา หลังจากที่ทุกคนเก็บข้าวของจนเสร็จเรียบร้อยแล้วพากันเดินออกจากสนาม
"ก็นิดหน่อยอะพี่" เขาตอบ "ผมแค่สงสัยเฉย ๆ เอง"
"ถ้าอยากลองเล่นดูก็บอกได้นะ พี่มีเพื่อนคนหนึ่งเล่นบริดจ์อยู่ เดี๋ยวให้มันสอนให้ เล่นไม่ยากหรอก"
"เอ่อ..."
จองแจฮยอนตั้งท่าจะปฏิเสธ อันที่จริงเขาก็แค่อยากรู้ ไม่ได้หมายความว่าอยากเดบิวต์เข้าวงการนั้น แต่ดูเหมือนว่าคู่สนทนาจะไม่ทราบเรื่องนี้
"นั่นไง มันมาพอดี สงสัยบริดจ์ก็เพิ่งจะเลิกซ้อมเหมือนกัน" อีกฝ่ายเอ่ยก่อนจะยกมือขึ้นโบกไปมาให้กับใครบางคนที่กำลังเดินออกจากห้องซ้อมของกีฬาบริดจ์ "โดยอง! มานี่แปปนึงดิ"
"อะไร?"
และร่างผอมโปร่งที่เป็นเจ้าของชื่อโดยองที่กำลังเดินตรงมาหาตามเสียงเรียกนั้น ก็ทำให้จองแจฮยอนกลืนคำปฏิเสธกลับลงท้องของตนไปจนหมดสิ้น
คิมโดยอง คือชื่อเต็ม ๆ ของชายตรงหน้า คนที่ทำให้เขาได้แต่ยืนบื้อใบ้และฟังคำที่รุ่นพี่นักบาสฝากฝังตัวเขาไว้กับชมรมบริดจ์ที่อีกฝ่ายดูแลอยู่
"แต่นายเป็นนักกีฬาบาสนี่" ดวงตากลมโตนั้นหันมาจับจ้องเขา "แล้วจะเอาเวลาจากไหนมาฝึกบริดจ์ล่ะ กว่านายจะซ้อมบาสเสร็จห้องบริดจ์ก็ไม่มีใครเหลืออยู่แล้ว"
"น่า..." รุ่นพี่นักบาสรีบเอ่ยเมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าจะปฏิเสธ "นายก็รั้งปีหนึ่งเอาไว้สักคนสองคน เท่านี้ก็สอนได้แล้ว ฉันเองก็ห่างหายจากบริดจ์ไปนาน กลับมาเล่นดูบ้างก็น่าจะดี"
"เหอะ ๆ" คิมโดยองส่งเสียงหัวเราะต่ำในลำคอ "ฉันจะเอาอะไรไปรั้งไว้ได้กัน ถ้ารุ่นน้องของนายสนใจก็ให้เข้ามาสังเกตการณ์ในห้องซ้อมก่อน ถ้ายังสนใจอยู่แล้วจะลองเล่นดูฉันก็ไม่ว่า แต่ฉันไม่ขยายเวลาเปิดปิดห้องซ้อมให้แน่ ๆ"
และเพราะอย่างนั้น ห้องซ้อมของนักกีฬาบริดจ์ในเย็นวันถัดมาจึงมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง
จองแจฮยอนเดินตามหลังรุ่นพี่โดยองไม่ห่าง เพราะนอกจากคนตรงหน้านี้แล้วเขาก็ไม่รู้จักใครอีกเลย
ชายร่างสูงในชุดบาสเก็ตบอลดูโดดเด่นขึ้นถนัดตาเมื่อมาอยู่ท่ามกลางเหล่าหญิงชายในชุดนักศึกษา
ที่นั่งด้านข้างของคิมโดยองเวลาซ้อมบริดจ์ที่ปกติจะว่างเปล่า วันนี้กลับมีผู้ชายอีกคนนั่งฟังคำอธิบายของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายนั้นแทบไม่ได้มองไพ่ที่อยู่บนโต๊ะเลยสักนิด
ดวงตาของอีกฝ่ายจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเขา และไม่เคยหลบสายตาหนีเลยสักครั้งยามที่เขาหันไปถามว่าเข้าใจหรือไม่
และทั้งหมดนั้นก็ทำให้จองแจฮยอนนึกรู้ตัวขึ้นมาในทันใด ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้สนใจกีฬาบริดจ์หรอก แต่สิ่งที่เขาสนใจจริง ๆ น่ะคือ
คนที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างหาก
[end.]
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in