5:47 P.M.
อาทิตย์ไกล้ลับขอบฟ้า แสงสีเหลืองค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม ผมยังนั่งทำงานวิชาอาร์ตของT.Steveคนเดียวในห้องเรียน ผมไม่สันทัดการใช้สีน้ำสักเท่าไหร่ชิ้นงานจึงออกมาเหมือนน้ำหกใส่กระดาษมากกว่า
อุณหภูมิในห้อง24องศา ผมนั่งฟังเสียงแอร์พร้อมคิดในหัวว่าจะลงพื้นหลังเฉดสีไหนดี วินาทีนั้นผมสบตากับผู้มาใหม่ในเครื่องแบบนักเรียนไม่เรียบร้อยเดินเข้ามาในห้องพอดี ผมคงจะไม่ประหม่าหากเขามาหยิบของที่ลืมไว้แล้วกลับไปแต่เขากลับเดินมานั่งข้างๆผมแทน หัวใจผมเต้นอย่างรุนแรง มือที่จับพู่กันสั่นไปหมด ในห้องมันเงียบมากจนผมได้ยินเสียงเขาหอบหายใจเล็กน้อย กลัวเหลือเกินว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจดวงนี้ที่มันสั่นระรัว เขาชะโงกหน้ามามองงานเปื่อยๆของผมบนโต๊ะ ผมได้กลิ่นเหงื่อของเขา(และเหม็น ให้ตายเถอะ เขารู้จักผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าสเปรย์ดับกลิ่นหรือเปล่า)
"มา เดี๋ยวเราช่วย"
"ไม่เป็นไร เราไกล้จะเสร็จแล้ว"
"ขืนปล่อยให้นายทำอยู่อีกกระดาษจะเปื่อยเอานะ"
เขาว่าและจ้องตาผมคล้ายจะอ้อนกัน ผมทำอะไรไม่ถูกเพราะคนที่ผมแอบชอบดื้อดึงจะทำเองให้ได้ เก่งนักล่ะไอเรื่องแบบนี้ ผมเผลอมองเขาที่ตั้งใจลงสีน้ำอย่างประณีต มือแกร่งนั่นจับพู่กันแล้วดูนุ่มนวลอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาที่มักเอื่อยเฉื่อยอยู่ตลอดกลับเปล่งประกายเหมือนดวงดาว เส้นผมของเด็กลูกครึ่งสีน้ำตาลเข้มปลิวไหวตามลมแอร์ กระบนใบหน้านั่นมีเสน่ห์เหลือเกิน ผมไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในห้วงภวังค์นี้นานแค่ไหน จะบอกว่าหลงไหลคงไม่ผิดนัก เอาอีกแล้วนะกับคนๆนี้
"เรียบร้อย"
"ขอบใจนะ"
ผมบอกขอบคุณเขาและเริ่มเก็บของบนโต๊ะ ผมกำลังจะลุกเอาน้ำล้างสีไปเททิ้งที่หน้าต่างแต่คนข้างๆดันจับมือไว้เสียก่อน ผมหันไปมองด้วยความไม่เข้าใจ ภายในอกผมสั่นไหวเพียงเพราะเขาจับมือ หน้าผมคงแดง แดงมากแน่ๆ
"มองแบบนี้จะฆ่ากันหรือไง"
เขาค่อยๆยื่นหน้าเข้ามา ระยะห่างระหว่างเราค่อยๆสั้นลงเหลือเพียงลมหายใจกลั้น จมูกเราแนบชิดและริมฝีปากเราแตะกัน ผมนิ่งงัน หลับตาลงรับความรู้สึก เขาค่อยๆจูบอย่างแผ่วเบา เคล้าคลิึงคล้ายจะหยอกล้อ ในอกมันจั๊กจี้ไปหมด เวลาผ่านไปนานแค่ไหนผมไม่รู้ เขาค่อยๆถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง แต่หน้าผากเรายังชนกันอยู่ ไม่มีคำพูดใดนอกจากนี้แต่สิ่งที่ผมรับรู้คือเหมือนเขาเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปและวิ่ง
ออกจากห้องไป เขาทิ้งให้ผมจมกับความรู้สึกนี้
ขี้โกงชะมัด
ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ
หัวใจผมก็แพ้ให้กับคนๆเดิม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in