ใกล้จะหมดปี 2021 แล้วทุกคน รู้สึกไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ถึงจะ work from home มาทั้งปีแบบอยู่แต่บ้าน90% แต่ปีนี้ก็อ่านหนังสือไปน้อยมาก (ไม่ถึง 20 เล่ม) เพราะมัวแต่ติ่งเรี่ยราดไปหมด…
เล่มนี้น่าจะเป็นเล่มสุดท้ายส่งท้ายปีนี้ ปีหน้าคิดว่าก็คงยัง wfh ต่อไปอย่างแน่นอนเพราะอีโควิดไม่มีที่ท่าว่าจะหายไปและรัฐบาลไม่มีวี่แววว่าจะฉลาดขึ้นเลยสักนิด
สัญญากับตัวเองว่าจะซื้อหนังสือเยอะเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเหมือนเดิม 55555 และจะอ่านหนังสือให้มากขึ้น อัพเพจให้มากขึ้นด้วยค่ะ จะได้ไม่ร้างเนอะ
หากสมองฉันไม่ได้ฟั่นเฟือน รวมเรื่องสั้น 7 เรื่องที่พูดถึงความเศร้า การสูญเสียและความตายแบบมีกลิ่นอาย magical realism จาก Yamashiro Asako ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งนามปากกาของเจ้าพ่อเรื่องสั้น Otsuichi นั่นเองค่ะ
หากใครเป็นแฟนงานเขียนของโอตสึอิจิมานานแล้วลองอ่านเล่มนี้ น่าจะพบว่าตัวเรื่องมี vibe ที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับงานในนามปากกาโอตสึอิจิสมัยก่อนพอสมควร ในแง่ไอเดียพล็อตเรื่องที่แหวกแนวแปลกใหม่และอีลีเม้นแสนบรรเจิดที่โอตสึอิจิหยิบยกมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
จะบอกว่ามีรสชาติคล้ายกับโอตสึจิในยุคก่อน แต่ก็ไม่ได้คล้ายไปเสียหมดทีเดียว งานจาก Yamashiro Asako ก็มีความ magical realism เหมือนกัน แต่จะเต็มไปด้วยอารมณ์และมีความเป็นผู้ใหญ่และลุ่มลึกกว่างานในยุคก่อนที่มักจะเน้นโครงสร้างพล็อตที่แปลกแหวกแนวเป็นหลัก
เล่มนี้ประกอบไปด้วยเรื่องสั้น 7 เรื่อง ที่ทุกเรื่องต่างมีจุดร่วมคือความเจ็บปวด ความสูญเสียและความตาย เรื่องราวของแม่ผู้เคยทำผิดพลาดในอดีต และผลกรรมนั้นตามกลับมาในรูปแบบของลูกในไส้ตนเอง, ครอบครัวที่ภรรยาต้องเผชิญกับ domestic violence จากสามี และท้ายที่สุดสามีก็พรากชีวิตลูกน้อยของเธอไป, เด็กสาวที่ตลอดชีวิตช่างแสนอาภัพและไก่หัวขาดที่ไม่ยอมตาย หรือจะเป็นชีวิตหลังความตายของเด็กหญิงที่ยังอาลัยอาวรณ์กับคนบนโลกอยู่
แม้จะเป็นเรื่องสั้น แต่ทุกเรื่องกลับดำดิ่งและเต็มไปด้วยอารมณ์ที่อ่านจบแล้วให้ความรู้สึกเศร้าโหวงเหวงติดอยู่ในใจส่วนตัว เรื่องหนักๆ ที่เราชอบสุดคือจมน้ำบ่อโศก เรารู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครบทุกอย่าง ทั้งไอเดีย ความ creepy บทสรุปและการสะท้อนสังคม เป็นเรื่องที่พูดถึงความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจคนที่เคยบูลลี่คนอื่นจนชีวิตเขาพังพินาศ บางครั้งคนที่บูลลี่ก็ไม่ควรได้รับการให้อภัย แต่ถ้าเขาพร้อมที่จะแก้ไขและชดเชยความผิดด้วยการอยู่กับความรู้สึกผิดนั้นไปตลอดชีวิต เราก็อาจจะพิจารณาใหม่ได้
กับอีกเรื่องคือเรื่องวิญญาณปริศนาที่ตามติดสองสามีภรรยา เรื่องนี้แม้จะไม่ได้เต็มไปด้วยมวลอารมณ์ความเศร้า แต่สนุกสนาน มีแทรกอารมณ์ขันและ ingredients และไอเดียของเรื่องสร้างสรรค์ชนิดที่ว่า เอ้อ ก็ช่างคิดได้เนอะ จริงๆ
นอกจากจุดเด่นจะเป็นเรื่องของอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี การหยิบยกความรู้รอบตัวต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ ปรากฏการณ์ธรรมชาติของร่างกาย ฮอร์โมน หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์แปลกๆ ที่เราเพิ่งเคยได้ยินมาก่อน ก็ถูกนำมาเสริมเติมแต่งออกมาเป็นเรื่องสั้นได้อย่างลงตัว ทำให้เห็นว่านักเขียนฉลาด อ่านหนังสือเยอะ และมีความรู้มากจริงๆ
แนะนำค่ะ สนุกอ่านเพลินแบบเราใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็อ่านจบ การันตีภาษาแปลที่ลื่นไหลและงดงามจากพี่เบียร์ พรพิรุณ กิจสมเจตน์ เริ้บมากกกกกก งานแปลขึ้นหิ้งไร้ที่ติ
คนที่เป็นแฟนนิยายของโอตสึอิจิไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง อ่านแล้วจะ nostalgic งานเขียนยุคฤดูร้อน ดอกไม้ไฟและร่างไร้วิญญาณของฉันขึ้นมาเลยแหละ ส่วนคนที่ไม่เคยชิมก็มาลองกันสักหน่อย อาจจะตกหลุมรักมวลอารมณ์ความเศร้าที่เยือกเย็นในงานเขียนของโอตสึอิจิไม่รู้ตัวววว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in