Day 13 : Lullaby (ผมกลัวความมืด) | #novelber
Author : Sean
Pairing : Colin Firth x Hugh Grant
Rating : No Rate
( #Nowlistening : Angela - The Lumineers )
ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง และอ่านหนังสือเรียนที่เพิ่งขนขึ้นมาจากห้องสมุด
จริงๆแล้วผมเพิ่งวางสายจากเขาไป– ผมไม่ได้กลับบ้านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วเพราะต้องเตรียมตัวสอบ
คอลินเรียนอยู่โรงเรียนไฮสกูลในตัวเมือง ส่วนผมเรียนอยู่โรงเรียนประจำที่ไกลออกมาจากตัวเมืองประมาณสิบสองไมล์
“ผมคิดถึงคุณ” คอลินสะอึกสะอื้น เสียงร้องไห้ของเขาดังแทรกผ่านเข้ามาทางหูของโทรศัพท์
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมสอบเสร็จก็กลับบ้านแล้ว” ผมบอกเขาไป ไม่รู้จะพูดปลอบใจคุณยังไงดี
“ผมอยากเจอคุณ ผมไปหาคุณได้ไหม” เขาถาม
“บ้าเหรอ ผมอยู่โรงเรียนประจำนะ เขาห้ามคนนอกเข้า” นี่ถ้ายื่นมือเข้าไปในโทรศัพท์ได้ ผมคงตบหัวเรียกสติเขาสักป้าบ
“แค่สองชั่วโมงก็ยังดี...” เสียงของคอลินดูอ่อนๆลง
“ไม่ต้องเลย..ที่นี่มันอยู่ในป่าในเขา อันตราย”
“ฮืม..” เขาตอบมาแค่นั้นแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ
“อดทนรอผมนะ..อีกไม่กี่วันเอง” ผมพูดปลอบ “เดี๋ยวผมต้องไปอ่านหนังสือแล้ว แค่นี้ก่อนนะ”
ผมทำได้เพียงแค่บอกเขาว่า ‘อดทนไว้นะ’ เท่านั้น..เท่านั้นจริงๆ
แต่ตอนนี้กลับเป็นผมเองที่เอาแต่คิดเรื่องของเขา..ไม่มีสมาธิจะอ่านหนังสือ– ผมปล่อยมือลงข้างลำตัว หนังสือเล่มหนาหล่นทับหน้าของผม
ปกติแล้วถ้าผมวางสายไปแบบนั้น เขาจะต้องโทรกลับมาอีกครั้งเพื่อทวงคำว่า ‘ราตรีสวัสดิ์’ แต่เขากลับเงียบ..หรือจะแอบไปร้องไห้กับหมอนจนหลับไปแล้ว
ช่างเถอะ..หลับไปก็ดีแล้ว
ผมลุกขึ้นและวางหนังสือลงบนโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ติดกับประตู ถึงยังไงวันนี้ผมก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่ดี สู้นอนเอาพลังงานไปสอบพรุ่งนี้ดีกว่า
ผมกลับมาที่เตียงและนั่งลง มองดูรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง รูปของคอลินกับผม
ผมหยิบมันขึ้นมา ในรูปนั้นเขาไม่ได้มองไปที่กล้องแต่กลับมองมาที่ผม ในขณะที่ผมกำลังยิ้มให้กับกล้องอยู่
“ราตรีสวัสดิ์..คอลิน” ผมใช้นิ้วโป้งลูบที่รูปภาพของชายรูปร่างสูงโปร่งอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
ผมวางรูปนั้นไว้ที่เดิม และสอดเท้าเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนาที่อยู่ปลายเตียง ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงหน้าอกของตัวเอง แต่ผมไม่ได้ปิดโคมไฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เพราะผมกลัวความมืด
ปกติแล้วคอลินมักจะอ่านบทความหรือไม่ก็ร้องเพลงให้ผมฟังก่อนนอน เพื่อกล่อมให้ผมหลับ เขาทำอย่างนี้เป็นประจำ แต่วันนี้จะเป็นอีกวันที่ผมต้องข่มตานอนหลับด้วยตัวเอง
ผมจ้องมองเพดานสีขาวท่ามกลางความมืดของดวงไฟที่ส่องไปไม่ถึง มองผ่านไปยังม่านของหน้าต่างที่ขยับเล็กน้อยตามสายลมที่พัดผ่าน ลมพัดโกรกเบาๆผ่านทางช่องว่างของหน้าต่างที่ถูกแง้มไว้
วันนี้อากาศดี แต่กลับเหงากว่าคืนไหนๆ
แต่ในขณะที่ผมกำลังสะลืมสะลือ ผมได้ยินเหมือนมีบางอย่างกำลังเคาะหน้าต่างห้องผมเบาๆ หรือผมอาจจะแค่หูฝาดไป
เสียงนั่นดังขึ้นมาอีกครั้ง ดังขึ้นกว่าเดิม..ผมพยายามทำเป็นไม่สนใจและข่มตานอนหลับต่อ
เสียงบิดกลอนประตูดังขึ้นเบาๆ– ผมไม่ได้ล็อคประตูไว้ เพราะต้องการให้ลมได้พัดเข้ามาบ้าง
ผมลุกขึ้น มือกำผ้าห่มแน่น
“ฮิวจ์..” เสียงเรียกนั้นดังมาทางเฉลียง ลมข้างนอกพัดเข้ามาในห้องจนม่านปลิวไสว ผมเห็นเงาตะคุ่มๆของใครบางคนยืนอยู่ด้านหลังของม่าน
“ใครน่ะ” ผมหันขวับไปทางต้นเสียงทันที
“ผมเอง..” คอลินเดินออกมาจากด้านหลังของม่าน
“คุณเข้ามาได้ยังไง?!” ผมถอยกรูดแทบจะติดหัวเตียง
“ผมปีนกำแพงเข้ามา” เขาตอบผม แสงสว่างของโคมไฟทำให้ผมรู้ว่าใบหน้าของเขานองไปด้วยน้ำตา
“มานี่มา..” แทนที่ผมจะดุเขาแต่ผมกลับเรียกเขาเข้ามาแทน..ผมกลัวทำเขาร้องไห้หนักกว่าเดิม
คอลินพุ่งตัวเองเข้ามากอดผมแน่น และผมทำได้แค่โอบกอดเขาไว้
“พ่อกับแม่รู้ไหมว่ามา..” ผมเอ่ยถาม- ตัวเขาสั่นสะท้านจากแรงสะอื้น “เลิกร้องได้แล้ว..ผมอยู่นี่แล้วไง” ผมดึงเขาออกจากอ้อมกอดแล้วใช้ปลายแขนเสื้อคลุมตัวยาวเช็ดน้ำตาให้กับเขา
“ผมบอกพ่อว่ามาจะมานอนบ้านเพื่อน” ถึงแม้แสงไฟจะมีแค่ริบหรี่แต่ผมกลับเห็นนัยน์ตาที่เต็มรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาของเด็กขี้แย– ผมลูบแก้มของเขาเบาๆ “ผมขออยู่กับคุณสักพักได้ไหม”
“ได้สิ..” ผมไม่กล้าไม่แต่จะปฏิเสธเขาด้วยซ้ำ “แต่พรุ่งนี้เช้าต้องรีบกลับนะรู้หรือเปล่า”
“ฮืม..” เขาพยักหน้าแล้วสวมกอดผมอีกครั้ง
คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ผมไม่ได้ฟังเสียงเขาอ่านบทความหรือร้องเพลงให้ฟัง
แต่กลายเป็นว่าผมนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาแทน
และคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่ผมปิดไฟนอน..ผมไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกแล้ว ผมมีเขาอยู่ตรงนี้แล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in