โต๊ะ....มันจะเป็นเรื่องเล่าได้อย่างไร
.
.
แต่ใช่ ของทุกสิ่งนั้นมันมีเรื่องเล่า
เรื่องเล่าที่เล่าออกมา เพราะภาพกาลเวลาถูกหมุนกลับโดยเวลายังคงเดินหน้าต่อไป และฉันมองเห็นมันเมื่อฉันก้มลงหยิบของที่หล่นลง
.
.
เด็กหญิงอายุประมาณ 4-5 ขวบ ในความทรงจำอันเลือนราง เติบโตมาอยู่ภายใต้โต๊ะไม้แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีไว้ทำขนม
ใต้โต๊ะนั้นมีกฎอยู่เพียงข้อเดียว คือห้ามกระแทกเท้าหรือตัวกับขาโต๊ะเป็นอันขาด
เพียงทำตามกฎข้อนั้นได้ ใต้โต๊ะไม้จะกลายเป็นบ้านหลังใหญ่ สนามเด็กเล่น หรือแม้แต่พระราชวังของเด็กหญิงได้ตามสบาย
.
.
แต่หากทำผิดกฎ ฝ่าฝืน หรือพลาดพลั้ง โต๊ะไม้จะลงโทษเด็กหญิง ให้กลายสภาพไปเป็นหุ่นที่มีชีวิต โดยการนั่งนิ่งๆห้ามขยับไปไหน ทำได้เพียงนั่งและใช้สายตาจ้องมองดูถนนที่นานๆทีจะมีรถแล่นผ่านมาสักคัน หรือไม่ก็ทำได้แค่เพียงมองผ่านกระจกเฝ้าดูโต๊ะทำขนมด้วยสายตาที่อ่อนแรง
.
.
เรื่องเล่าของเด็กหญิง 5 ขวบคนนั้น ยังไม่จบลงหรอก มันยาวนานกว่านั้น
ใต้โต๊ะนั้นเด็กหญิงใช้มันนอนรอแม่ของเธอ เพราะเธอดื้อรั้นไม่ยอมนอนกับพ่อเพราะเธอติดแม่ เที่ยงคืนก็แล้ว ตี2ก็แล้ว เด็กหญิงก็ยังนอนหลับดื่มนมอยู่ใต้โต๊ะไม้รอให้แม่ของเธอทำขนมเสร็จ แล้วพากันเข้านอน
.
.
ชั่วเวลาที่ก้มลงหยิบของที่หล่น ฉันมองเห็นฉันที่ตอนนั้น คือเด็กหญิง 5 ขวบ แต่ในเวลานี้
ฉันยืนเคียงข้างมันแล้วทำขนมกับแม่อย่างสนุกสนาน แถมฉันยังกระแทกโดนขาโต๊ะโดยไม่กลายสภาพเป็นหุ่น แต่ที่สำคัญคือฉันไม่อยากกระแทกโดนมันรุนแรง เพราะมันคือบ้าน ปราสาท พระราชวัง และสนามเด็กเล่น ที่อยู่กับฉันมาตลอด จนถึงวันนี้
.
.
วันที่โต๊ะไม้เก่าๆ ที่ดูไม่สำคัญในเวลานั้น
กลายร่างเป็นไทม์แมชชีน คอยเล่าเรื่องราวในอดีต ให้ฉันในวันนี้ได้ย้อนดูเรื่องราวที่ผ่านมาในวันก่อน
.
.
คิดไปคิดมาฉันรักโต๊ะตัวนี้จัง
แต่...เรื่องเล่าของโต๊ะยังไม่จบนะ เพียงแต่ไทม์แมชชีน ต้องใช้หัวใจและอดีตที่สวยงาม ค่อยๆร้อยเรียงตัวอักษรและถ่ายทอดออกมาจากจิตใจ
-พัทธ์ธีรา-
ฉันจะกลับไปนั่งเขียนเรื่องราวของเราที่ใต้โต๊ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in