Title : The story of neighbor
Fandom : Detroit Become Human
Markus x Simon
** Human AU **
------------------------------------------------------
เราแค่ดูหนังยามค่ำด้วยกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
นั่นคือสิ่งที่ไซม่อน เลิฟเวอร์คอยบอกตัวเองเสมอมา
มื้อเที่ยงจบลงอย่างไรไซม่อนก็จำไม่ค่อยได้ เขารู้แค่ว่าในหัวเขานั้นมีแต่เรื่อง(เงิน)ของจอชวนเวียนในหัวตลอดเวลาตั้งแต่ได้รับข้อความจากโคลอี้
หมอนั่นจะกลับมาทำไม ไปอยู่เมืองนอกก็สบายอยู่แล้วจะกลับมาประเทศเหม็นนกพิราบทำไมวะ
โอเค เขาเริ่มจะพาลเพราะอีกคนดันกลับมาในตอนที่เขาไม่มีเงินไปคืนตามที่เคยปากเสียไว้ ก็คงทำได้แต่ภาวนาให้หมอนั่นลืมๆเรื่องนั้นไปซะและทำเป็นเหมือนว่าหนี้ก้อนนั้นระหว่างเรามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
"......น"
ใช่ แค่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
".......ม่อน"
ถ้านายทำเป็นเอ๋อไม่รับรู้เรื่องหนี้จอชต้องไม่ตอแยอยู่แล้ว! หมอนั่นรวยและใจป้ำจะตาย!
"ไซม่อน!!"
"ห๊ะ!!!" เสียงเรียกของมาร์คัสดึงเอาไซม่อนออกจากภวังค์แล้วพบว่าตอนนี้เขาอยู่หน้าห้องตัวเองและกำลังเอาโทรศัพท์ตัวเองไขประตูห้อง
"คุณ... โอเคมั้ย ?" คนเด็กกว่าเอ่ยถามเพราะคนอายุมากกว่าดูเหม่อๆตั้งแต่ในร้านอาหารแล้วไม่นึกว่าจะถึงขนาดเอาโทรศัพท์มาไขประตู
"โอเคสิ โอเค แค่คิดอะไรนิดหน่อย" ไซม่อนรีบตอบคำถามของมาร์คัสแล้วเปลี่ยนจากโทรศัพท์มาเป็นกุญแจห้องของตัวเองแทน
ให้ตายเถอะ นี่มันน่าอายชะมัด
"ถ้าคุณโอเคผมก็สบายใจครับ"
"อา... อื้อ ยังไงก็เจอกันพรุ่งนี้นะมาร์คัส" พูดรวบรัดตัดตอนก่อนจะเข้าห้องตัวเองไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รอฟังเลยว่าคนเด็กกว่ามีอะไรที่อยากจะพูดกับตนรึเปล่า
หลังจากเข้าห้องตัวเองเรียบร้อยแล้วไซม่อนก็รีบดิ่งไปทิ้งร่างลงกับเตียง ในหัวก็ยังคงคิดแต่เรื่องเดิมซ้ำๆว่าควรจะทำยังไงดี และทางเลือกที่ดีที่สุดคือการโทรหาโคลอี้ พอคิดได้แบบนั้นเขาก็จัดการกดเบอร์โทรเพื่อนสาวคนสนิทและกดโทรออกทันที
'กะแล้วว่าต้องโทรมา' ใช้เวลารอไม่นานปลายสายก็รับพร้อมคำพูดที่ฟังดูราวกับคาดการณ์ไว้แล้ว
"ฉลาดจัง เข้าเรื่องนะ จอชกลับมาทำไม"
'เห็นเขาพูดกันว่ากลับมาแต่งงาน'
"เอาจริงดิ มันไปมีแฟนตอนไหน" เอาล่ะ ตอนนี้คิ้วเขาต้องขมวดมุ่นมากแน่ๆ
'ฉันก็ไม่รู้ สงสัยเป็นสาวฝรั่งเศสซักคนแหละมั้ง'
"ทำไมต้องคนฝรั่งเศส"
'โอ้ให้ตายเถอะ ไซม่อน การที่พวกนายเลิกกันไม่ได้หมายความว่าจะไม่รับรู้เรื่องของอีกฝ่ายได้นะ'
"ช่างฉันเถอะน่า ตอบมา เร็ว เปลืองค่าโทร"
'ก็จอชไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสไง แล้วถ้าจะถามว่าทำไมกลับมาแต่งงานที่อเมริกา ฉันก็ตอบได้เลยว่าฉันไม่รู้ และตอนนี้งานฉันเข้า ขอตัวก่อนนะจ๊ะเพื่อน บาย'
และแล้วสายก็ถูกตัดไปโดยที่ไซม่อนยังถือโทรศัพท์คาหูไว้อยู่เลย
"เฮ้อ" ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนปล่อยมือถือตกลงซักที่บนเตียงพร้อมกับร่างบางที่พลิกไปมาด้วย
นี่โลกมันหมุนเร็วจนแฟนเก่าจะแต่งงานแล้วหรอเนี่ย
เฮ้อ ไซม่อน
นายนี่ยังอยู่ที่เดิมตลอดเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูปลุกไซม่อนที่เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ให้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พอหันหน้าไปทางหน้าต่างก็พบว่ามืดซะแล้ว ก่อนจะเดินไปเปิดประตูโดยไม่ดูตาแมวอีกครั้ง
เหมือนเดจาวู
เจ้าเด็กมาร์คัสมายืนหน้าห้องเขาอีกแล้ว แต่รอบนี้ต่างไปคือในมือหมอนั่นมีถุงร้านเช่าวิดิโอแถวๆนี้กับป็อบคอร์นและไอศกรีมหนึ่งควอท
"ดูหนังกันมั้ยครับ" อีกคนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ
"เอาสิ" เด็กมันเตรียมตัวมาขนาดนี้จะปฎิเสธได้ไง
ไซม่อนเบี่ยงทางให้มาร์คัสเดินเข้ามาในห้องก่อนจัดการปิดและล็อคประตูห้องให้เรียบร้อย ส่วนมาร์คัสก็เดินไปวางของทุกอย่างลงบนโต๊ะเล็กที่ตั้งระหว่างโซฟากับโทรทัศน์
"ไหน หนังเรื่องอะไร" เขาถามพร้อมกับเดินไปหยิบช้อนมาหนึ่งคันเพื่อให้อีกคนได้ทานไอติมเพราะตัวเขาสนใจป็อบคอร์นมากกว่า แล้วมาทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟา ปล่อยให้มาร์คัสหยิบแผ่นหนังเรื่องหนึ่งขึ้นมาโชว์
"Pretty Woman ? เลือกหนังได้น่าร้กเหมือนกันนี่" หลังจากเห็นหนังที่จะดูกันในคืนนี้ก็อดจะแซวไม่ได้
"สนุกนะครับ" แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจและจัดการเปิดหนังให้เรียบร้อยก่อนจะลุกไปปิดไฟในห้องแล้วกลับมานั่งบนโซฟาข้างๆไซม่อน
ตลอดระยะเวลาที่หนังฉาย ทั้งคู่ต่างโฟกัสที่จอโทรทัศน์มีบางครั้งที่ผลัดกันกินเจ้าป็อบคอร์นที่มาร์คัสพกมาแต่อยู่ในมือไซม่อนซะส่วนใหญ่ จนกระทั่งหนังขึ้นเอนเครดิต
"คุณว่าชีวิตคนเราจะเป็นแบบวิเวียนได้มั้ย" มาร์คัสเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาก่อนหลังจากที่เราทั้งคู่ต่างเงียบเพื่อตั้งใจดูหนังมานาน
"ก็ยากนะ ทุกคนไม่ได้มีรอยยิ้มพันล้านแบบจูเลีย โรเบิร์ต" เขาตอบตามความคิดไปในขณะที่ตายังจ้องจอโทรทัศน์
"หรอ... แต่ผมว่ารอยยิ้มคุณสวยกว่ายิ้มพันล้านนั่นอีกนะ"
คำพูดของอีกคนทำให้ไซม่อนต้องไปหันมองและนั่นทำให้ทั้งสองคนสบตากันและกันในความมืดพอดี เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง ไม่รู้ว่าแรงดึงดูดของโลก บรรยากาศเป็นใจหรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เราสองคนขยับใกล้ขึ้นทีละนิดๆ
จนริมฝีปากของเราสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา
คุกกี้แอนด์ครีม
ไซม่อนคิดว่าเขารู้รสชาติไอศกรีมแล้วล่ะ
เราแค่ดูหนังยามค่ำด้วยกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
นั่นคือสิ่งที่ไซม่อน เลิฟเวอร์ต้องคอยย้ำตัวเองเสมอมา
TBC
Bonus
Markus : นอร์ธ
North : บอกเลยนะว่าถ้าเป็นเรื่องไร้สาระฉันจะอัดนาย
Markus : ฉันจูบเขาไปแล้วว่ะ
North : Holy Shit!!!
รหัสแดง!!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in