ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหาหลัก เราก็ต้องเกริ่นบทนำกันก่อนใช่มั้ยคะ งั้นเรามาเริ่มแนะนำตัวกันก่อนเลยนะคะ สวัสดีค่ะ เราชื่อ ‘อีฟ’ นะคะ เพื่อนๆหลายคนเรียกเราว่าขนมผิงและพี่เกา แต่ชื่อเล่นจริงๆเราคืออีฟค่ะ และทุกคนที่นี่ก็เรียกเราว่าอีฟ พูดมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงสงสัยว่า ‘ทุกคนที่นี่’ คือใคร? ทำไมเราต้องใช้คำว่าที่นี่ ใช่ค่ะ หลังจากนี้จะเป็นการแนะนำตัวเราอย่างย่อ รวมถึงการแนะนำอาชีพที่เราทำอยู่ตอนนี้ด้วย เราแอบใส่ปริศนาให้ทุกคนคิดตามในช่องแนะนำบทความเล็กๆ จากที่อ่าน ทุกคนอาจสงสัยว่ามันคืออะไร เอาล่ะค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว มาทำความรู้จักเราให้มากขึ้นกันเลยนะคะ ;)
แนะนำตัว
จากย่อหน้าแรก เราได้บอกไปแล้วว่าเราชื่อ ‘อีฟ’ เราอายุ 22 ปี ย่าง 23 นะคะ จะ 23 ปีเต็มเดือนตุลาคมนี้ค่ะ เราจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยเกรดเฉลี่ยที่เกือบไม่ผ่านเกณฑ์ ตรงนี้เราไม่แนะนำให้ทุกคนทำตามนะคะ เพียงแต่เราไม่มีแรงจูงใจในการเรียนมากนัก รวมถึงการเรียนรามคำแหง จะต้องไขว่คว้าด้วยตัวเองมากกว่า 80% เกรดเราเลยออกมาไม่ดีนัก ที่พูดถึงการศึกษา เพราะเรื่องนี้จะโยงไปสู่ขั้นตอนก่อนที่เราจะมาทำอาชีพนี้ค่ะ ข้อมูลโดยสังเขปของเราก็ประมาณนี้ค่ะ จากนี้ไปจะเป็นการแนะนำอาชีพของเราแล้วนะคะ ทุกคนพร้อมกันหรือยังเอ่ย? บทความนี้จะพูดเรื่องราวของเราตั้งแต่ก่อนและหลังจากที่มาทำอาชีพนี้ ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยนะคะ :)
ออแพร์
Au Pair
“DIONYK ON THE ROLE”
MY AU PAIR’S LIFE IN USA ??
ออแพร์คืออะไร
ออแพร์ คือโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สำหรับผู้ที่มีอายุ 18-26 ปี โดยเดินทางมาทำการแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยวีซ่า J-1 โดยออแพร์จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับโฮสต์แฟมมิลี่ เป็นเวลา 12-24 เดือน (ขั้นต่ำคือ 12 เดือน) ออแพร์มีหน้าที่ดูแลโฮสต์เด็ก ซึ่งออแพร์จะได้รับค่าตอบแทนเป็นรายสัปดาห์ และได้รับการสนับสนุนค่าเล่าเรียนจากโฮสต์แฟมมิลี่ เรียกได้ว่าออแพร์จะได้ทั้งทำงานและโอกาสในการเล่าเรียนรวมถึงการท่องเที่ยวไปในตัวตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในอเมริกากับโฮสต์แฟมมิลี่เลยค่ะ
เรามาพูดถึงการเริ่มต้นก่อนจะมาเป็นออแพร์ของอีฟก่อนเลยนะคะ เริ่มจากอีฟเรียนจบปริญญาตรีในปี 2018 ช่วงเดือนมิถุนายน แต่ได้จบจริงๆช่วงพฤศจิกายนเลยค่ะ เพราะต้องทำเรื่องจบและรอใบ transcript จากมหาวิทยาลัย ใช้เวลานานขนาดนี้เพราะความผิดพลาดของมหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมที่ได้รับจดหมายจากมหาวิทยาลัยให้ตอบกลับเรื่องตัวตนของเรา แต่ไม่ตอบสักที ทำให้การที่เราจะจบปริญญาตรีแบบ Officially จริงๆ กินเวลาไปถึง 5 เดือนเลยค่ะ ช่วงที่รอใบจบออกก็เคว้งคว้างมาก
ช่วงเคว้งๆนี่แหละค่ะ ได้ไปเจอกับทวิตของพี่คนหนึ่งเข้าว่าเขาเริ่มเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กเพื่อเข้าร่วมโครงการออแพร์ เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้ยินเกี่ยวกับโครงการนี้ ปกติเรารู้จักแค่ Work & Travel อย่างเดียวค่ะ (ถามเพื่อนบ้างแล้วด้วยนะว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่เรายังจับต้องไม่ถึงจริงๆค่ะตอนนั้น) และพอได้ศึกษาข้อมูลคร่าวๆว่ารายละเอียดเป็นยังไง เราก็เริ่มติดต่อบางเอเจนซี่ไปค่ะ เอเจนซี่แรกคือ C* แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์เท่าไหร่ค่ะ (เป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์) ทางเอเจนซี่ถามว่าเราให้คะแนนภาษาอังกฤษตัวเองเท่าไหร่จาก 5 เราตอบไป 3 คือเราอ่านออก เขียนได้ พูดได้บ้าง แต่ไม่เก่ง คือมัน average มากจริงๆ แต่พี่เขาก็บอกว่าเราต้องมีภาษาที่แม่นกว่านี้ ยังไงถ้าพร้อมแล้วให้ติดต่อมาอีกที แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้ว่าจะเข้าโครงการเลยนะคะ แค่หาข้อมูลเพิ่มเติม ทีนี้เราก็ไปเจออีกเอเจนซี่ที่จะมีสัมมนาที่ขอนแก่นพอดี (เราอยู่กาฬสินธุ์ค่ะ) เลยคิดว่ามันน่าจะโอเคเพราะถ้าสงสัยอะไรก็จะได้ถาม เลยไปฟังสัมมนาของเอเจนซี่นี้ (A*C) ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมเลยนะ แต่เอาไปเอามาได้เข้าร่วมกับเอเจนซี่นี้แบบงงๆค่ะ เราไปฟังสัมมนาวันที่ 4 พฤศจิกายน ได้ส่งเอกสารสมัครกับพี่เอเจนซี่วันที่ 9 ธันวาคม จ่ายเงินค่าดำเนินการเขาเรียบร้อย เอาล่ะ ที่นี่ก็จะเป็นขั้นตอนของการเริ่มต้นทำเอกสารและเก็บชั่วโมงอย่างจริงจังของเราแล้วค่ะ
ขั้นตอนก่อนจะมาเป็นออแพร์
บอกก่อนเลยว่าถ้าใครสนใจจะมาเป็นออแพร์ ให้เริ่มเก็บชั่วโมงก่อนจะมาสมัครกับเอเจนซี่ดีกว่าค่ะ เพราะเราเริ่มสมัครก่อนแล้วค่อยมาเก็บชั่วโมง มันเลยค่อนข้างช้านิดหน่อย และเราคิดไว้อยู่แล้วค่ะว่าเราจะไปช่วงไหน (ถ้าคนรีบๆควรเก็บชั่วโมงก่อนตามที่บอกเลยค่ะ) เราเลยใช้เวลาทำเอกสารต่างๆและเก็บชั่วโมงอย่างเชื่องช้า แต่เราโอเคมากๆเลยนะ มีเวลาให้ทำอะไรหลายๆอย่างก่อนจะมาที่อเมริกาดีค่ะ เรามาลิสต์คุณสมบัติที่ทางเอเจนซี่ Require ก่อนเลยนะคะ
- อายุ 18-26 ปี (ไม่เกิน 27 ปี ก่อนเดินทางถึงอเมริกา)
- จบปริญญาตรี (เอเจนซี่ในไทยส่วนใหญ่รับป.ตรีค่ะ)
- มีใบขับขี่รถยนต์
- มีชั่วโมงเลี้ยงเด็กมากกว่า 200 ชั่วโมง
- ไม่มีประวัติทางอาชญากรรม
นี่คือ 5 ข้อหลักที่ทางเอเจนซี่ที่เราเข้าร่วมต้องการนะคะ จริงๆคือข้อสำคัญก่อนจะสมัครกับทางเอเจนซี่คือข้อ 1 และ 2 ค่ะ ข้ออื่นๆเราสามารถทำได้หลังจากที่สมัครเข้าร่วมโครงการกับเอเจนซี่ เพราะตอนนี้มันเป็นแค่ขั้นแรกของการทำเอกสารเท่านั้นค่ะ
หลังจากที่เราสมัครเข้าร่วมโครงการกับทางเอเจนซี่ไปแล้ว เราก็เริ่มหาโรงเรียนเพื่อเก็บชั่วโมงค่ะ โชคดีที่ตอนนั้น nursery เล็กๆแถวบ้าน มีคุณครูเพิ่งลาออกพอดี เราเลยได้ไปทำอาสาสมัครเก็บชั่วโมง 200 ชั่วโมง แบบไม่ได้เงินตอบแทน อยู่ 2 เดือนเต็มค่ะ (บางวันเราเก็บแค่ 3-4 ชั่วโมงเองนะคะ ไม่ได้ทำเต็มวัน เลยเก็บช้ากว่าใครเพื่อนค่า) ใครอยากอ่านประสบการณ์การเก็บชั่วโมงของเราแบบเรียลๆ และมีคำหยาบบ้าง click เข้าไปแล้วกดอ่านเพิ่มเติมได้ที่แฮชแท็กนะคะ มีหลายอย่างเกิดขึ้นเยอะมากกับชีวิตช่วงนั้น แต่ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา เราถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่งที่เราต้องพบเจอค่ะ ถ้าใครได้อ่านแล้วเจออะไรคล้ายๆเรา จะบอกคุณว่า “สู้ๆนะคะ นึกถึงหน้าเด็กๆไว้จะมีความสุขมากๆเลยค่ะ เราเองก็ผ่านมาได้เพราะเด็กๆค่ะ”
จากที่เราได้พูดถึงในข้างต้น เป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้นนะคะ ยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ ขั้นตอนกว่าจะมาเป็นออแพร์นี่มันเยอะจริงๆ เราเลยตั้งใจว่าจะสับซอยออกเป็นหัวข้อๆ เราอาจจะเป็นนักเขียนที่ไม่ได้เก่งมาก แต่ตั้งใจสร้างบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ท่านใดก็ตามที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ได้มาศึกษารายละเอียดในอนาคต ในอีพีหน้าเราจะมาพูดถึงรายละเอียดโครงการให้ลึกขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการของเราด้วยค่ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านจนถึงย่อหน้าสุดท้ายนี้ด้วยค่ะ ไว้เจอกันอีพีหน้าค่า :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in