เมื่อเข้าไปในร้าน สิ่งที่สะดุดตาสะดุดใจที่สุดคือต้นซากุระนี่แหละ ถึงจะเป็นของปลอม แต่เมื่อรวมกับการตกแต่งร้านแล้ว ก็ให้อารมณ์ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน และด้วยความที่เป็นร้านทำใหม่ ทำให้ได้กลิ่นไม้โชยมาอ่อนๆ  พอจะหลับตาจินตนาการได้ว่าเรามานั่งกินอาหารอยู่ที่ญี่ปุ่นนะ ฮ่าๆ

ว่ากันถึงอาหารของที่นี่ดีกว่า ซิกเนเจอร์ของ KOFUKU คือทงคัตสึตามที่เห็นจากเมนูอาหารของทางร้าน นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวแกงกะหรี่ ดมบุริหน้าแซลมอน หรือซูชิเป็นคำๆ ก็มี อย่างที่บอกไปว่า โดนดึงดูดเข้ามาเพราะแกงกะหรี่ล้วนๆ ก็เลยขอลองชิมแกงกะหรี่เจ้านี้สักหน่อยว่าจะเด็ดไหม แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ไม่อยากเสียเที่ยว เลยลองสั่งข้าวหน้าแซลมอนสไปซี่มาชิมด้วย และต่อจากนี้คือเมนูจากร้าน KOFUKU ที่เราฝากท้องในวันนั้น 

อ๊ะๆ ก่อนไปยลโฉมอาหาร ลืมไปเลยว่ามีอีกอย่างหนึ่งที่ชอบมากคือขวดน้ำของร้าน หลังจากสั่งอาหารเสร็จ พนักงานก็นำน้ำมาเสิร์ฟให้ ขวดน้ำที่นี่เป็นเอกลักษณ์น่ารักมาก รูปทรงคล้ายกระบอกน้ำที่เราใช้ไปฟิตเนส ไม่หลุดจากธีมร้าน แต่น่าเสียดายที่ปริมาณน้ำน้อยไปหน่อย ปกติขวดน้ำขนาดที่เราซื้อดื่มจากในเซเว่นจะเติมได้ประมาณสองแก้วกว่าๆ แต่วันนั้นไปกับเพื่อนสองคน ถ้าเติมแก้วหนึ่งเต็ม น้ำอีกแก้วก็จะเลยครึ่งมานิดเดียวเท่านั้น ขวดแบบนี้น่าจะเอื้อแก่การใช้ซ้ำ เลยสงสัยอยู่พอสมควรว่ามันจะไม่สะอาดหรือเปล่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าทางร้านเปลี่ยนขวดเรื่อยๆ และทำความสะอาดดีก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

เริ่มจากเมนูแกงกะหรี่ทั้งสองจานก่อนเลยดีกว่า น้ำแกงของที่นี่รสชาติกลางๆ ไม่เผ็ดหรือเค็มจนเกินไป ถ้าใครที่เป็นคอแกงกะหรี่รสจัดอาจไม่ชอบเท่าไรนัก สำหรับเราเองที่ชอบแกงกะหรี่รสจัดของร้านดังอีกร้านเหมือนกัน ขอบอกว่าแกงกะหรี่ KOFUKU ถือว่าผ่าน รสชาติแกงกะหรี่ของข้าวไข่คนชาบูแกงกะหรี่เนื้อจะออกเค็มและข้นกว่าของอีกจานอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก และที่ชอบมากในจานนี้ก็คือไข่คน ไข่คนของที่นี่มีรสชาติในตัวเอง กินกับข้าวอย่างเดียวก็อร่อย กินกับแกงกะหรี่และผักดองก็ยิ่งฟิน ถัดมาที่ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดที่ผู้ร่วมทางเป็นคนสั่ง แต่เราได้ลองชิมหมูชิ้นนึงเต็มๆ ทงคัตสึที่นี่นุ่มดี แต่ แต่ แต่ น่าจะเป็นเพราะว่าหมูชิ้นบางมาก และแป้งหนามาก (เสียใจ) ยังยอมให้อภัยเพราะแอบชิมน้ำจิ้มทงคัตสึแล้ว อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเมื่อเทียบกับราคาที่ไม่แรงมากนัก

อีกเมนูหนึ่งที่สั่งมาลองทานกับเพื่อน แต่เราคนเดียวก็จัดการไป 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว คือ ข้าวแซลมอนเผาสไปซี่  ตอนแรกคิดว่าจะสั่งข้าวแซลมอนเผาชีสมาลอง แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นคอเผ็ดที่ดันชอบอาหารญี่ปุ่น ก็เลยเอาเมนูนี้มาลองชิมก่อน เห็นถ้วยเล็กๆ แบบนี้ ข้างใต้อัดแน่นไปด้วยข้าวญี่ปุ่นแบบเดียวกับที่ใช้ทำซูชิ ถ้าวันดีคืนดีอยากทานแซลมอน แต่ไม่อยากเสียเงินกับบุฟเฟ่ต์แซลมอนละก็ เมนูนี้ตอบโจทย์อย่างมาก เนื้อแซลมอนกริลล์กำลังพอดี คนที่ไม่ชอบกินแซลมอนดิบพอทานได้ ซอสสไปซี่ก็อร่อยมาก มีรสเปรี้ยวนิดๆ บวกกับกลิ่นน้ำมันงากำลังพอดี ถือว่าเป็นตัวชูของจานนี้เลยก็ว่าได้

ภาพรวมของร้าน KOFUKU ในด้านอาหารเราให้ 7.5/10 ฝากท้องได้ กินแล้วแฮปปี้ แอบ +1 ให้ข้าวไข่คนชาบูแกงกะหรี่เนื้อเป็นพิเศษเพราะติดใจมาก ต้องกลับไปโดนอีกแน่นอน อย่างหนึ่งที่อยากให้รักษาคุณภาพต่อไปคือด้านการบริการ ไม่รู้ว่าเพราะสาขานี้เพิ่งเปิดใหม่หรือเปล่า แต่พนักงานตั้งใจทำงาน ตั้งแต่การเรียกลูกค้าหน้าร้านตามแบบฉบับร้านอาหารญี่ปุ่นและความใส่ใจลูกค้า ไม่เหวี่ยงเมื่อลูกค้าเรียก ที่สำคัญคือไม่เก็บค่าเซอร์วิส (ไม่แน่ใจว่าเฉพาะบางสาขาหรือเปล่า) 

ถ้าใครอยากทานอาหารญี่ปุ่นราคาไม่แรงในบรรยากาศอบอุ่นใต้ต้นซากุระ KOFUKU เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ลองทานแล้ว ถือว่าผ่านเลยทีเดียว

ปล. แล้วจะมาอัพเดตสาขาอีกทีนะจ๊ะ ในเพจของทางร้านเองก็ยังไม่ได้อัพเดตสาขาฟิวเจอร์ปาร์ค