เป็นอีกหนึ่งเพลงที่แค่ได้ยิน
Intro ก็ต้องโยกหัวตาม
เพราะเสียงกลองที่อัดแน่นนั้น เหมือนเรื่องราวมากมายที่อยู่ในหัว
ยิ่งช่วงกลางๆเพลงนะ
โอ๊ยยย อยากจะเต้นเลื้อยให้มันสะใจเลยค่ะแถมคนร้องก็ดันร้องแต่ละท่อนแบบเต็มปากเต็มคำ ออกแนวตะโกนเบาๆ
เวลาร้องตาม นี่ต้องขมวดคิ้ว แล้วอ้าปากกว้างๆให้มันชัดถ้อยชัดคำ
มันจะพีคมากเลย เหมือนได้ระบาย ได้ปลดปล่อยออกมา
ใครที่อยากฝึกแยก/ออกเสียงภาษาอังกฤษ แนะนำเพลงนี้เลยค่ะ
เพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนมีเราอีกคน คอยให้กำลังใจเราอยู่ข้างๆ
ในวันที่ชีวิต มีแต่เรื่องหนักๆที่เราแบกรับอยู่ ถาโถมเข้ามา
ติดอยู่กับความคิด หรือช่วงเวลาที่เรารู้สึกเฟล และเฟลคนอื่นด้วย
So a day when you've lost yourself completely!!!!
Could be a night when your life ends!!!!!
ตะโกนมาเลยค่ะ แบบไม่ทันตั้งตัว - -"
แต่เป็นท่อนที่ความหมายดีค่ะ ชอบ
เพราะหากวันใดที่ทุกอย่างแท็คทีมกันเหยียบคันเร่งเข้าหาเรา
จนทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป
ละเลย . . . เป้าหมายของตัวเองจนหมด
ก็ถือว่าเรา . . ไร้ซึ่งการมีชีวิตอยู่ . . ไร้ซึ่งตัวตน . . .
Such a heart that will lead you to deceiving . . .
ซึ่งภาวะจิตใจแบบนี้นี่แหละค่ะ จะทำให้เราถูกหลอกเอาได้ง่ายๆ
สองมือของเรา ที่กำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเอาไว้ เริ่มสั่นและอ่อนแรง
มันควรมีไว้เพื่อกุมมือใครสักคนมากกว่า และจับมือเขาไว้แน่นๆ ไม่ใช่เหรอ?
ไม่ใช่ . . มีไว้แบกรับความเจ็บปวด ความหวังต่างๆมากมาย . .
หากวันไหน เราพบว่า ความเข้มแข็ง เป็นเพียงทางเลือกเดียวในชีวิต
จงใช้มัน เพื่อก้าวเดินต่อไป เหมือนที่ตัวเราเองก็เชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้
ถึงเราจะไม่เหลือความหวังอะไรให้หวัง . . ถึงเราจะทำผิดพลาดลงไปแล้ว
แต่เสียงข้างใน จะยังคงบอกให้เราก้าวต่อไป . . . เราก็ควรก้าวเดินต่อ
แม้ไม่รู้ว่าต้องก้าวไปไหน ก็เดินต่อไปมันนั่นแหละ !!!
โดยส่วนตัว จะเชื่ออยู่เสมอ ว่าต่อให้คนทั้งโลกไม่ได้ยืนข้างเรา
แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะอยู่ข้างเราเสมอ นั่นคือ ตัวของเราเอง
บางครั้ง กำลังใจสำคัญ ที่ขับเคลื่อนตัวเรา ไม่ได้มาจากคนใกล้ตัวเลย
แต่เป็นตัวเราเองนี่แหละ ที่ผลักดันให้เราก้าวผ่านอุปสรรคในจิตใจ
และก่อเกิดเป็นความกล้าในการเปลี่ยนแปลงอุปสรรคภายนอก
Image Cr. Alfalfastudio.com
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in