เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My USA DiaryJust plus
Chapter 7 : January
  • Chapter 7 : January


    New Year Eve party


    เอลลี่ชวนฉันไปงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่ที่บ้านของเพื่อนเธอ นี่เป็นงานปาร์ตี้จริงๆจังๆครั้งแรกที่ฉันได้ลองที่อเมริกาเลย ฉันกังวลกับงานปาร์ตี้มากเพราะฉันเป็นพวกขี้อายจัดๆ แต่พอไปถึงงานและลองคุยกับคนอื่นๆแล้วกลับรู้สึกว่ามันไม่น่ากลัวขนาดนั้น คนในงานก็เป็นรุ่นพี่นักเรียนชั้นเรียนเดียวกับเอลลี่ที่คุ้นตาที่โรงเรียนทั้งนั้น และด้วยความที่เอลลี่เป็นคนชวนฉันมาเธอจึงพยายามดูแลฉันดีหน่อย เรามีร้องเพลงกัน กินขนมหวาน เล่นกับน้องหมาของเพื่อนเอลลี่ และในที่สุดตอนเที่ยงคืนเราดูเขานับเคาท์ดาวน์ที่ไทม์สแควร์ผ่านทีวีและดื่มแชมเปญกัน ฉันไม่ค่อยดื่มแชมเปญมาก่อนแล้วก็ไปเข้าใจว่าควรดื่มให้หมดในอึดเดียว เลยแทบสำลัก มันรสขมๆและทำให้แสบท้องแต่ดื่มแค่แก้วเดียวเลยไม่เป็นอะไร หลังจากนั้นโฮสต์มัมก็มารับเอลลี่และฉันกลับบ้าน ตอนแรกฉันกลัวโดนดุเพราะมันมีกฏของนักเรียนแลกเปลี่ยนไม่ให้ดื่มแอลกอฮอล์(ฉันมารู้ทีหลังว่าจริงๆเพื่อนคนอื่นผิดกฏกันไปตั้งนานแล้ว) โฮสต์มัมรู้หรอกว่าฉันดื่มไปแต่เพราะในงานปาร์ตี้มีผู้ใหญ่และเอลลี่ดูอยู่เลยบอกว่าไม่เป็นไรหรอก


    At Laura’s House


    วันหนึ่งหลังเรียนเสร็จฉันไปเที่ยวบ้านลอร่า ฉันมาเที่ยวบ้านเธอบ่อยขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาและฉันรู้สึกสบายใจกับการมาเที่ยวบ้านเธอมากขึ้น ฉันพึ่งส่งข้อความไปขอโฮสต์มัมไปเที่ยวบ้านเพื่อนตอนคาบคอรัสวันนี้เอง เราไปนั่งคุยกันที่ห้องนอนเธอ ร้องเพลงฟังเพลง นั่งระบายสีเล่น จำได้ว่าทำตัวเป็นเด็กน่ารักมากตอนนั้น เสร็จแล้วฉันก็ชวนลอร่าคุยเกี่ยวกับละครเพลงที่โรงเรียนจะจัดขึ้นเร็วๆนี้ฉันอยากจะไปลองออดิชั่นดูเพราะนอกจากคอรัสกับเชียร์แล้วฉันไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรกับโรงเรียนเท่าไหร่เลย ตอนแรกลอร่าลังเลมากเพราะเธอก็ขี้อาย แต่พอฉันตื้อมากๆมาหลายวันสุดท้ายเธอก็ตกลงลองดู ฉันตื่นเต้นมากเพราะนี่หมายถึงมันจะเป็นการออดิชั่นแสดงละครเพลงครั้งแรกของทั้งลอร่าและฉัน


    Audition for the musical


    หลังจากแอบซ้อมร้องเพลงในห้องนอนมาสองสัปดาห์เวลาออดิชั่นละครเพลงก็มาถึง เพลงที่ฉันเลือกมาออดิชั่นคือเพลง When she loved me ของ Toy Story และบทพูด Monologue ของเบลล์จาก Beauty and the Beast เพราะละครเพลงที่ใช้แสดงในปีนี้ก็คือเรื่องนี่นี่แหละ เอลลี่และเพื่อนๆของเธอหลายคนก็มาออดิชั่นด้วย เธอดูมั่นใจมาก เอลลี่เคยแสดงในงานโรงเรียนหลายครั้งมาก่อนและครอบครัวโฮสต์ของฉันก็มีชื่อเสียงด้านดนตรีพอสมควรด้วย เธอตั้งเป้าหมายว่าอยากแสดงเป็นนางเอก(เบลล์)ในครั้งนี้ 

    ส่วนฉันกับลอร่าน่ะหรอ เราแค่หวังออดิชั่นให้ผ่านก็ดีพอแล้ว ระหว่างรอลอร่าแทบร้องไห้เพราะความกังวลแต่สุดท้ายเธอก็ทำใจได้และสีหน้าก็ดูโอเคอยู่ตอนเธอเดินออกจากห้องออดิชั่น เมื่อเป็นตาของฉัน ฉันเองก็ตื่นเต้นมาก ฉันที่ออดิชั่นฉันเป็นครูผู้สอนการแสดงผู้หญิงหน้าตาใจดีที่เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแสนขี้อายเธอจึงพยายามยิ้มให้กำลังใจฉันมากๆ สุดท้ายฉันก็แสดงไปตามที่ซ้อมมา เสียงสั่นหน่อยๆเพราะความตื่นเต้นแต่สุดท้ายฉันพยายามดีสุดแล้ว 

    ไม่กี่วันต่อมาผลประกาศหน้าห้องประชุมบอกว่าทั้งฉันและลอร่าผ่านการออดิชั่นได้แสดงในบทตัวประกอบ เราสองคนดีใจมากที่จะได้แสดงด้วยกัน ถึงได้แค่ตัวประกอบก็ดีมากแล้ว เอลลี่ก็ได้บทตัวประกอบเหมือนกัน เธอดูหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ก็ยังตกลงจะแสดงต่อ นอกจากนั้นเพื่อนบางคนจากคาบคอรัสก็ผ่านการออดิชั่นด้วย


    Musical Rehearsals


    หลังจากประกาศผลเราก็นัดซ้อมแสดงกันบ่อยแทบทุกวันหลังเลิกเรียน ช่วงแรกๆเราทำกิจกรรม Ice breaking ที่ทำให้รู้จักกันมากขึ้นก่อน เป็นเวลาที่ทำให้ฉันสนิทกับเพื่อนจากคอรัสและคนอื่นๆที่แสดง เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันในปีนี้มาสนิทกันตอนซ้อมละครเพลงนี่แหละ คงเป็นเพราะพวกเราใช้เวลาร่วมกันเยอะมาก

    ตอนแรกฉันกังวลว่าการแสดงละครเพลงจะทำให้ฉันเครียดเกินไปเพราะสมัยก่อนเคยแสดงละครที่โรงเรียนมัธยมต้นบวกกับต้องเตรียมสอบแล้วเหนื่อยมาก แต่ครั้งนี้ฉันได้บท Aristrocrat คุณหญิงตัวประกอบดีๆที่มีบทไม่มากถ้าไม่รวมกับพาร์ทที่ต้องร้องรวมกับชาวบ้านแล้ว ฉันก็ค่อนข้างชิวกับการซ้อมแต่ละครั้ง ฉันกับตัวประกอบคนอื่นๆใช้เวลาส่วนมากในห้องเรียนคอรัสเพื่อซ้อมร้องและพยายามจำบทไปเรื่อยๆ ฉันว่ามันก็สนุกดี และฉันชอบมากๆเวลาที่เสียงเพลงที่ฟังดูแปลกเวลาร้องคนเดียวกลายเป็นเพลงที่แสดงถึงอารมณ์ที่ทรงพลังเมื่อทุกพาร์ทมาร้องพร้อมกัน นอกจากนั้นฉันยังได้เห็นฝีมือการแสดงของเพื่อนๆคนอื่นๆ พวกเขาดูกล้าแสดงออกกันมากๆ มันเป็นกำลังพลักดันให้ฉันลองดูบ้าง หลังจากซ้อมพาร์ทร้องไปหลายสัปดาห์แล้วในที่สุดผู้กำกับ(ครูผู้หญิงใจดีคนที่ออดิชั่นฉันนั่นแหละ) ก็มาสอนการเดินและบทบาทท่าทีบนเวที เราต้องคอยจำว่าต้องเดินจากจุดไหนไปจุดไหนและทำท่าทางอะไรไปด้วย ฉันไม่รู้มาก่อนว่าการแสดงแค่เเป๊ปเดียวมีรายละเอียดยิบย่อยขนาดนี้

    การซ้อมละครเพลงหลังเลิกเรียนยังคงดำเนินไปสามเดือนแต่ช่วงเวลานั้นกลับคุ้มค่าและสอนอะไรฉันมากกว่าบางเวลาที่เรียนในห้องเสียอีก พอมาอยู่ไทยฉันก็คิดถึงการแสดงพวกนั้นมาก คงไม่มีโอกาสได้ลองอะไรอย่างนั้นอีกแล้ว


    Philly


    เป็นการไปเที่ยวกับนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกครั้งแต่ครั้งนี้เรามาลองของกันที่ฟิลาเดลเฟีย เมืองที่เพื่อนฉันเล่าว่าเหมือนนิวยอร์กแต่สกปรกและอันตรายกว่า ฉันว่ามันโอเคอยู่นะยกเว้นบางช่วง เรื่องน่ากลัวแรกคือฉันกับเพื่อนๆเดินๆตามถนนอยู่แล้วมีคนน่าตาดูเมาๆมาชวนซื้อกัญชา ฉันช็อคมากรีบเดินหนีไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนเลย อีกตอนคือฉันเกือบเดินเข้าร้านของเล่นผู้ใหญ่โดยไม่รู้ว่ามันคือร้านอย่างนั้น ดีที่เพื่อนรีบลากฉันออกมาก่อน ตอนนั้นฉันน่าจะเด๋อเกินกว่าจะเดินเล่นคนเดียวในฟิลลี่ได้

    แต่ทุกประสบการณ์ก็มีเรื่องดีๆด้วยเสมอ ฉันกับเพื่อนๆเวาะไปตลาด Reading Terminal Market แถวนั้นซึ่งมีอาหารหลายอย่างมาก ฉันได้ลอง Woopie Pie ครั้งแรก และอาหารอร่อยๆอีกหลายอย่าง พวกเราเดินเที่ยวกับจนมืด ถนนที่นี่คึกคักต่างจากเมืองของโฮสต์ที่ฉันไปอยู่และมันเต็มไปด้วยตึกสวยๆและร้านอาหารน่าสนใจ สุดท้ายพวกเราไปนั่งกินพิซซ่าชิ้นใหญ่ด้วยกันที่ร้านดังอย่าง Lorenzo and Sons Pizza ก่อนกลับ อร่อยมากเลย


    The Greatest Show


    วันหลังจากไปเที่ยวฟิลลี่ไมค์ก้ากับฉันนัดกันไปเดินเล่นแถวเมืองใกล้ๆบ้านโฮสต์ของเธอ พวกเราเริ่มสนิทกันมาก และวันที่เราไปเที่ยวด้วยกันนี้ก็พิเศษสำหรับฉันมาก เราเริ่มต้นด้วยการไปเดินห้างด้วยกัน ต่อด้วยเดินเล่นสวยสาธารณะแถวนั้น เรานั่งดูเป็ดว่ายน้ำช้าๆในแอ่งน้ำ และถ่ายรูปเล่นกับรางรถไฟร้างสุดท้ายเราไปดูหนังเรื่อง The Greatest Showman ด้วยกัน มันไม่ใช่ละครเพลงเรื่องแรกที่ฉันได้ดู ครอบครัวโฮสต์ฉันชอบดนตรีซะขนาดนั้นยังไงฉันก็ได้ฟังแทบทุกวันจากห้องเอลลี่บ้าง ตอนนั่งรถกับโฮสต์บ้าง แต่ตอนไปดูภาพยนตร์ละครเพลงเรื่องนี้ฉันกลับรู้สึกประทับใจมันมากจนแอบหันหน้าไปน้ำตาซึมอีกทาง บทเพลงที่ฉันชอบที่สุดในเรื่องคือ A Million Dreams เพลงที่เล่าถึงความฝันของบาร์นั้มตอนเด็กที่จะสร้างโลกที่สวยงามในอนาคต หลายๆอย่างในอเมริกาสอนฉันอย่างนี้ ว่าไม่ว่าสถานการณ์เป็นยังไงถ้าเรามีความฝันที่ชัดเจนพอและพยายามให้มาก สุดท้ายเราจะได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในที่สุดอย่างแน่นอน มันคงเป็นความเชื่อที่ทำให้ฉันพยายามลองทุกอย่างอย่างเต็มที่จนถึงตอนนี้


    “I close my eyes and I can see ฉันหลับตาและมองเห็น

    The world that's waiting up for me โลกที่รอคอยฉันอยู่”

    - A Million Dreams













Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in