สวัสดีค่า ห่างหายไปนานเลยสำหรับบล็อกเกี่ยวกับทุน Erasmus Mundus ของเรา เรื่องของเรื่องคือหลังจากได้รับทุนชีวิตก็วุ่นวายมากๆ ตั้งแต่ก่อนไป เรียน และจบเทอม แต่ช่วงนี้ปิดเทอมแล้ว เราก็จะมาเล่าต่อแล้วกันเนอะ จะแบ่งเป็น 3 ช่วงตามที่บอกไว้ข้างบนแล้วกันเนอะ
Pre-departure
ภาพจากกลุ่ม Erasmus+ Network in Thailand
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องทำหลังได้รับทุน คือยืนยันว่าเราจะรับทุนจริงๆ ซึ่งบางทีก็ให้ส่งเมลล์กลับ หรือบางทีทุนก็จะให้เว็บไซต์จัดการทะเบียนของเรา เราก็ไปเลือกรับทุนจากตรงนั้นได้ ขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ ส่วนที่น่าหนักใจจริงๆ คือการทำวีซ่ามากกว่า555 อันนี้แล้วแต่ประเทศที่ตัวเองจะไปเลยนะคะ บางประเทศใช้เอกสารต่างๆ ไม่เหมือนกัน แต่เอกสารหลักๆ ที่เราต้องได้จากทุนและยื่นให้สถานฑูตคือ 1) ใบตอบหรับจากโครงการที่เราได้ 2) ใบยืนยันว่าเราได้ทุนนี้จริงๆ ขั้นตอนอื่นๆ ก็ศึกษาเองจากข้อมูลของประเทศนั้นๆ ได้เลย
การทำวีซ่า เราแนะนำให้ทำตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ ควรเริ่มทำก่อนเปิดภาคเรียนของที่นู่นประมาณ 3 เดือน ซึ่งยุโรปส่วนมากจะเปิดเทอมเดือนกันยายน ตัวเราเองเริ่มทำราวๆ กลางมิถุนายน มาได้จริงๆ 2 วันก่อนจะบิน ตอนนั้นต้องเลื่อนไฟลท์วุ่นวายมาก แง ดังนั้นวางแผนให้ดีๆๆ
ระหว่างนี้ก็จะมีความฟุ้งซ่าน อยากหาคนคุยที่ประสบพบเจอเรื่องราวเดียวกัน สำหรับประเทศไทยก็จะมีงานปฐมนิเทศสำหรับผู้ที่ได้รับทุนราวๆ เกือนกรกฎาคม งานนี้เราก็จะได้พบกับคนอื่นๆ ที่ได้รับทุนเหมือนกัน ถ้าโชคดีเราก็จะได้เจอกับคนที่ได้โปรแกรมเดียวกัน ในงานนอกจากมีผู้ได้รับทุนแล้ว ยังมีคนจากสถานฑูตจากประเทศต่างๆในยุโรปมาด้วย ใครที่กำลังจัดการกับวีซ่าก็สามารถเข้าไปคุยกับเขาได้ กิจกรรมในงานก็จะมีแชร์ประสบการณ์นักเรียนทุนคนก่อนๆ ให้คำปรึกษาเรื่องสำคัญๆ เช่นเรื่องเงิน555 เป็นงานที่ถ้าไปได้ก็อยากให้ไปค่ะ แค่อาหารจากประเทศต่างๆที่เขาจัดเตรียมให้ก็คุ้มแล้วว
นอกจากกลุ่มเพื่อนทุนคนไทย ช่วงนี้กลุ่มเพื่อนในโปรแรกมเดียวกันอาจจะเริ่มติดต่อกันแล้ว เราก็ลองเช็คอีเมลล์ หรือเฟซบุ๊คดูว่ามีกลุ่มอะไรรึเปล่า จะได้รู้สึกไม่เหงาก่อนเดินทาง เผลอๆ อาจจะได้เพื่อนและรูมเมทก่อนเดินทางเลยด้วยซ้ำ :)
Departure and post-departure
มาถึงแล้ว อันดับแรกคือดีใจด้วยยยยย555 สูดอากาศใหม่ๆ ให้เต็มปอด จะได้พร้อมลุยก้าวต่อไป
สองสิ่งที่ต้องจัดการตั้งแต่เนิ่นๆ คือ เรื่องเรียน และ วีซ่า เรื่องแรกคือบางโปรแกรมจะมีวิชาเลือกในเทอมแรก เราก็ต้องศึกษาตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าจะเลือกคอร์สไหน กำหนดเวลาเรียนต่างๆ ให้สอดคล้องกับเวลาที่เราจะอยู่ที่นั่น สำหรับเรา บอกเลยว่าเรียนชิวมากกก5555 เทอมแรกเป็นเหมือนการปูพื้นฐานมากกว่า ไม่เครียดเลย
ส่วนเรื่องที่สอง การทำวีซ่าของเราเป็นแบบ Type D มีอายุ 120 วัน = 4 เดือน ดังนั้นถ้าเราจะย้ายประเทศ เราต้องขอวีซ่าของประเทศใหม่ ขั้นตอนก็จะเหมือนกับตอนที่ขอจากประเทศไทยนั่นแหละ
แต่สำหรับเรา รู้ตัวช้า ทำวีซ่าประเทศที่ 2 ไม่ทัน สิ่งที่เราต้องทำคือไปติดต่อทำบัตร Resident Permit Card ซึ่ง(น่าจะ)เป็นการ์ดที่ทำให้เรากลายเป็นคนยุโรปกลายๆ เราเองก็ไม่แน่ใจในข้อมูลส่วนนี้ แต่เมื่อมีการ์ดนี้ เราจะสามารถเดินทางไปประเทศในแถบยุโรป (ยกเว้นไอร์แลนด์และอังกฤษ) ได้ และอาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ ได้ไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า พอดีกับเทอมสองที่มีเวลาเรียนแค่ 2 เดือน จึงสะดวกกับชาว non-european อย่างเรา555 แต่ถ้าจะทำก็ต้องนัดหมายไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี บางประเทศมีให้นัดหมายออนไลน์ก็ยิ่งสะดวกไปอีก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in