เส้นทางไป St.Martins
เวลาที่คนเราทำงานอยู่ในองค์กร องค์กรหนึ่งมาครบ 10 ปี แล้วหลายคนก็อาจจะคิดถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การได้เลื่อนตำแหน่ง การเรียนต่อป.โทให้จบ การเริ่มสร้างครอบครัว แต่งงาน มีลูก มีเงินเก็บ มีบ้านออกท่องเที่ยวรอบโลก อะไรก็ว่าไป แต่สำหรับเราคือเราไม่มีอะไรเลยจริงๆ เราไม่มีทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดตำแหน่งหน้าที่การเงินก็เหมือนเดิมไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไร เรียน ป.โท ก็ไม่จบ ไม่มีแฟนไม่มีลูก ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ เงินเก็บก็แทบจะไม่มี บางครั้งชีวิตก็ติดลบ
เรานั่งถามตัวเองหลายครั้งว่าจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตดีจนแล้วจนเล่าก็หาคำตอบไม่เจอ ซึ่งจริงๆแล้วคำถามเหล่านี้เป็นคำถามใหญ่ที่บางคนก็ต้องถามมาทั้งชีวิต บางคนทำงานจนใกล้เกษียณแล้วก็ยังไม่เจอคำตอบ คนที่พบคำตอบว่าตนเองต้องการจะเดินไปทางไหนต่อ รักอะไร ชอบอะไร และอยากทำอะไรนั้นโชคดีมากๆ เหมือนกับว่าคุณมีของมีค่าราคาหลายล้านอยู่ในตัวการรู้จักตัวเองนั้นมีคุณค่ากว่าเงินมากมายเพราะถ้ารู้จักตนเองแล้วมันจะหาเงินด้วยวิถีทางที่มีความสุขได้เองและไม่รู้สึกลำบากใจเลยสักนิดที่จะต้องก้มหน้าทำงานหาเลี้ยงชีพต่อไปด้วยการทำในสิ่งที่รัก
ปี 2013 เราบอกตัวเองว่านอกจากงานประจำที่ทำแล้ว เราอยากเป็นครีเอทีฟและเติมเต็มความฝันในวัยเด็กที่อยากเรียนโฆษณา เพราะดูละครเรื่องช่างมันฉันไม่แคร์ที่นำแสดงโดยสินจัย หงษ์ไทย และ สามารถ พยัคฆ์อรุณแล้วฉันก็ว่านางเอกของเรื่องนี้เท่ดี ทำงานอะไรน่ะ ถือสตอรี่บอร์ดเข้าที่ประชุมพูดฉอดๆก็มีคนฟัง ดูมีตังค์ และมั่นใจพิลึกแต่สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่ได้เรียนนิเทศเพราะตอน ม.ปลาย เป็นช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่แตกพอดีฉันคิดว่าวงการโฆษณาถ้าไม่เจ็งจริงก็คงอยู่ไม่รอดเรียนอะไรที่ดูแบบสามารถอิงแอบกับระบบราชการได้ดีกว่าหรือจะไปสายเอกชนก็ยังได้นี่ฉันมีแนวคิดที่ play safe มาตั้งแต่เป็นเด็กๆวัยรุ่นเลย
ความอยากสร้างสรรค์อยู่ลึกๆมันยังคงเรียกร้อง ฉันก็เลยสถาปนาตัวเองเป็นครีเอทีฟกับการทำงาน paper art ซึ่งนั่นก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแต่มันยาวมาก เดี๋ยวจะเล่าในโอกาสต่อไป ทีนี้พออยากเป็นครีเอทีฟปุ๊ปแต่ไม่ได้ล่ำเรียนมาทางนี้ก็เลยพยายามหลายอย่างว่าคนที่เก่งๆทางด้านนี้เขาไปเรียนที่ไหน ศึกษาด้วยตัวเองอย่างไร ไปทำอะไรมาถึงเก่ง เริ่มเสริชไปเรื่อยๆมีคอร์สอะไรให้เรียนบ้าง มี Workshop อะไรที่น่าสนใจให้ไปลองทำบ้างวันหนึ่งเราก็เสิร์ชไปเจอ ชื่อสถาบันแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Central Saint Martins สังกัด University of the Arts London มีสอน Short course พวกงานกระดาษด้วย พวกงาน Creative design ต่างๆ
เฮ้ย ! นี่ฉันต้องรวยขนาดไหนเนี่ย
ต้องทำไงถึงได้ไป
อย่าว่าแต่ไปลอนดอนเอาแค่ไปเรียนออกแบบกับอาจารย์ที่เพาะช่างแถวปากคลองตลาด ยังไม่ได้เรียนเลย เพราะอาจารย์เขาปิดสถาบันกวดวิชาของตัวเองไปซะก่อน(ปิดหนีเรารึเปล่าวะ !) ก็เป็นอันชวดไปสำหรับแนวเพาะช่างต่อมาฉันเคยไป workshop ที่สถาบันแห่งหนึ่ง คอร์สเกี่ยวกับการคิดโฆษณานี่แหละ คนสอนเป็นครีเอทีฟโฆษณา ที่ออกตัวแรงว่าค่าตัวแกแพงมากจริงๆ ความคิดแกแต่ละอย่างเป็นเงินเป็นทอง ไม่พอแถมยังมีธุรกิจเท่ๆ เก๋ๆเป็นร้านอาหารฮิปๆที่เชียงใหม่ของตัวเองอีก(นี่นั่งเรียนหรือมาศึกษาชีวประวัติครู) นั่งเรียนไป ก็โดนด่าไปคิดงานอะไรก็ไม่ค่อยออก รู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าเต่าตุ่นเหมือนออกจากรูคือเป็นคนรูที่ขุดรูอยู่ยังไม่รู้จักอารยธรรมต่างๆของสังคมเมืองนี่คือกูโง่ขนาดนี้จะไปเรียนSaint Martins สถาบันที่คนดังๆที่ Jimmy Choo, Alexander McQueen, Paul Smith ถ้าเป็นคนไทยก็มีคุณโอ๊ต มณเฑียร มีคุณแพรี่ พาย คือ มันใช่เหรอวะ ? แต่ชีวิตไม่สิ้นมันก็ต้องดิ้นต่อไป ฉันก็เลยแผ้วถางทางหนทางไป St. Martins ตั้งแต่นั้นแต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะกลายเป็นความจริงได้มากน้อยแค่ไหนอาจจะแผ้วถางทางไปลอนดอนแล้วไปออกเส้นปากคลองตลาดก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องพยายามต่อไป
e�x�
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in