เดือนแห่งความรักแบบนี้ เลยทำให้นึกถึงหนังที่ยังเป็นหนึ่งในใจของเราคือ "Carol" (2015) หลายคนคงเคยได้รู้จักเรื่อง Carol ฉบับภาพยนตร์ ซึ่งสร้างมาจากหนังสือชื่อ "The Price of Salts " โดย Patricia Highsmith นักเขียนชาวอเมริกัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจการเขียนเรื่องนี้จากชีวิตจริงของเธอ
.
หนังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของผู้หญิงสองคนที่บังเอิญเจอกันที่แผนกของเล่นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศของเทศกาลคริสมาสต์ แต่หลังจากการพบครั้งนั้นก็เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล
.
Therese เด็กสาววัยรุ่นที่กำลังค้นหาเส้นทางชีวิตให้กับตัวเอง กับ Carol สาววัยกลางคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาครอบครัว จนนำไปสู่การหย่า ทั้งสองได้พบกันและเกิดเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่ดูจะเป็นไปไม่ได้
Carol สะท้อนภาพสังคมอเมริกันช่วงต้น 1950's องค์ประกอบของหนังดึงดูดความสนใจเราได้มาก วัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในหนังทั้งเรื่องการแต่งกาย เพลง มู้ดแอนท์โทนของหนังดึงเราให้ย้อนกลับไปในช่วงยุคนั้นได้อย่างดี รวมทั้งสิ่งที่เห็นได้ชัดว่า สังคมอมเริกันที่ยังไม่ยอมรับความเป็นเกย์และเลสเบี้ยนเลย ยังเป็นแค่กลุ่มเล็ก ๆ และชาวอเมริกันยังคิดว่าเรื่องความรักของเพศเดียวกันยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น
.
ถ้าเราตอบตกลงกับทุกสิ่ง แล้วเมื่อไหรกันที่จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
Therese เป็นตัวละครที่ทำให้เห็นในเรื่องการตัดสินใจในสิ่งที่ต้องเลือก มีฉากหนึ่งในภาพยนตร์ที่เราทึ้งคำพูดของ Therese ว่า
'And I should have said "No" to you but I never say "No".
And it's selfish because... because I just take everything and I don't know anything. And I don't know what I want.
How could I when all I ever do is say "Yes" to everything?" '
ประมาณว่า ฉันควรที่จะปฏิเสธคุณไป แต่ฉันก็ไม่ปฏิเสธ มันก็เห็นแก่ตัวมากเพราะฉันรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณให้มา โดยที่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยฉันไม่รู้แม้กระทั่งว่าฉันต้องการอะไร ฉันจะรู้ได้อย่างไรในเมื่อฉันตอบตกลงกับทุกอย่าง ประโยคนี้ทำให้เรารู้สึกว่าถึงแม้ว่าเราจะรับทุกสิ่งทุกอย่างจากคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หรือความรู้สึก แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ (ฮือ) ทั้งหนังสือและหนังจบแบบปลายเปิด ให้ผู้อ่านและผู้ชมไปตีความตอบจบกันเอง
อีกประเด็นหนึ่งใน Carol คือการเห็นสังคมชายเป็นใหญ่ จากทั้งฝั่งสามีของ Carol เองและ แฟนหนุ่มของTherese ที่ทำตัวเป็นเจ้าของและคอยจัดการ พูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยไม่ได้ถามฝ่ายผู้หญิง ตัวละครทัั้งสองแสดงความอึดอัดและน้ำท่วมปากให้ได้เห็น อย่างเช่น Carol สะท้อนภาพความเป็นหญิงที่อยู่ในขนบ ด้วยการเป็นแม่บ้านอยู่บ้าน คอยดูแลลูก จัดแจงนู้นนี่ในบ้าน ส่วนผู้ชายออกไปทำงาน ออกงานสังคมตั่งต่าง ส่วน Therese ก็น้ำท่วมปากไม่ยอมพูดในสิ่งที่ตนเองต้องการ จากการที่ฝ่ายชายจัดแจงชีวิตของเธอ ทั้งสองจึงอยู่ในสภาวะเดียวกับคือ อึดอัดที่ต้องอยู่แบบนั้น จึงไม่แปลกหากทั้งคนสองคนได้ที่แชร์และต่างคนเข้าใจกันและกัน จนกระทั่งสานสัมพันธ์กลายเป็นความรัก เพราะในเมื่อเรารักใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน
Carol (2015)
Director: Todd Haynes
Actor: Cate Blanchett, Rooney Mara, Sarah Paulson
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in