เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryWannachai Guy Phetkaeo
บันทึกของกาย
  • โชคชะตาก่อนฝึกงาน
    วันนี้วันที่1ธันวาคม2560  ผมนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  ชั้นปีทีั่4  สาขาวารสารศาสตร์ 
    ใกล้ถึงวันฝึกงานเข้ามาแล้วสำหรับผม  8 มกราคมก็ฝึกงานแล้ว ผมยังไม่มีที่ฝึกงานเลย  ซ้ำร้ายส่งresume ไปที่ไหนก็ไม่ได้รับการตอบรับสักเท่าไหร่  ตอนเรียนผมไม่ค่อยมีกิจกรรมใดๆในมหาลัยเลยเรียกว่าแทบไม่คุยกับใคร  ในห้องผมยังไม่คุยเลย  เจอกันวันล่ะ3ชั่วโมงตลอด4ปีจะเอาความสนิทมาจากไหนที่สำคัญพวกเราไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมด้วยกัน  มีบ้างบางครั้งแต่ไม่บ่อยนัก  วันนี้รุ่นพี่ที่จบไปแล้วมาให้คำแนะนำเตรียมตัวก่อนไปฝึกงานซึ่งผมรู้จักดี  การบรรยายให้นักศึกษารุ่นสุดท้ายของวารสารศาสตร์จบลงไปได้ด้วยดี  เหมือนพี่คุยกับน้อง  แล้วอาจารย์ก็ถามว่าใครยังไม่มีที่ฝึกงานบ้าง  นักศึกษาในห้องไม่มีใครยกมือยกเว้นผม  รู้สึกตัวเองห่วยขึ้นมาทันที  เจ็บปวดและท้อแท้  อันที่จริงผมติดต่อไว้สองเดือนแล้วนะ  ครั้งแรกที่บางกอกโพสต์เดือนตุลาคมติดต่อเรียบร้อย  ทำหนังสือเรียบร้อย  แต่อาจารย์ไม่เซ็นให้บอกไม่ให้ไปให้ไปหาที่ๆเหมาะกว่านี้  โอเค  ผมไม่พูดอะไร  รู้ไหมวันนั้นผมรู้สึกอย่างไร  เพื่อนผมคนหนึ่งที่ไปที่นั่นเหมือนกันเธอเองก็อยากให้ผมไปเพราะเธอกับผมทำงานร่วมกันได้  เธอเชียร์อยู่  วันนั้นหลังการเรียนจบลงผมจับไหล่เธอเบาๆแล้วพูดว่า  ทราย  เราไม่ได้ไปที่บางกอกโพสต์แล้วนะ  ข่มน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาแล้วเดินหายไปไหนผู้คน  ผมเสียใจและผิดหวัง  แต่ผมก็ยังหาที่อื่นไปเรื่อยๆจนไปเจอกับที่ ไทยทริบูน  บริษัท  เว็บข่าวๆเล็กๆรับเขียนบทความ  ผมไปยื่นที่นั่น  สำนักงานคือห้องๆหนึ่งบนบ้านชั้นสอง  ผมอยากฝึกงานที่นี่เหมือนกันเพราะมีคนรู้จักอยู่  การฝากตัวครั้งแรกไม่มีปัญหา  กินระยะเวลาติดต่อไปถึงเดือนพฤษจิกายน  ผมนำใบตอบรับไปให้สำนักงานเซ็น  สิ่งที่ผมได้รับวันนั้นคือลายเซ็นรับรองฝึกงานพร้อมข่าวร้ายและคำพูดชักจูงต่างๆนา  พี่ว่าเราไปที่อื่นเถอะที่นี่ไม่เหมาะสำหรับฝึกงานหรอกเพราะมองไม่เห็นภาพขององค์กรเราค่อยมารับงานไปทำก็ได้  พี่ว่า1เดือนน้องหาที่ฝึกงานที่อื่นได้อยู่แล้ว  อีกอย่างสำนักงานอยู่ในช่วงเปลี่ยนนายทุนอาจเกิดปัญหากระทบกับการฝึกงานของเราได้  พี่ว่าที่อื่นดีกว่าที่นี่เยอะ  แต่ผมก็ดื้อรันและชวนพูดคุยอยู่พักใหญ่กว่าจะได้ลายเซ็นมา  วันนั้นท้องฟ้าช่างรู้ใจผมจริงๆสีครึ้มเหมือนฝนจะตกและตกลงมาจริงๆตอนผมเดินทางกลับที่พัก  ผมขึ้นรถเมย์มาลงหน้าซอยที่ผมพักอาศัยอยู่วันนั้นฝนตกหนัก  ในมือมีจดหมายฝึกงานที่เซ็นรับไว้เรียบร้อยแนบอยู่ในหนังสือ  คนหนังสือพิมพ์ที่อ่านจบแล้ว  ผมหยิบหนังสือสอดในเสื้อวิ่งหลบฝนหน้าร้านขาย ชา และขอถุงพลาสติกหนึ่งใบเพื่อใส่หนังสือที่มีจดหมายอยู่ในนั้น  ห่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีน้ำรั่วแล้ววิ่งเหมือนคนบ้าจากหน้าซอยเข้าไปท้ายซอย  ฝนเปียกทั่วตัวเดินเข้าเซเว่นพนักงานยังตกใจว่าไปทำอะไรมา  คงไม่มีใครคิดว่าวันธรรมดาๆจะมีคนบ้าคนหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนมาซื้อโค้กซีโร่1กระป๋อง  การวิ่งฝ่าสายฝนวันนั้นมันช่างคลายอารมณ์ที่ตึงเครียดได้ดีจริงๆผมหัวเราไปด้วยและวิ่งไปด้วยนึกแล้วสนุกดีพิลึก  
    หลังคำถามว่าใครไม่มีที่ฝึกงานเดี๋ยวรอคุยกับอาจารย์  ผมรอ  สิ่งที่ได้รับคืออาจารย์จะส่งผมไปฝึกงานหนังสือพิมพ์แนวหน้า  โต๊ะการเมือง  ซึ่งผมไม่ชอบการเมืองเลยแม้สักนิดเดียว  ผมบิดแล้วบอกไปว่าผมยังไม่ได้เขียนใบฝึกงานขอเป็นวันอื่นได้ไหม  เพราะถ้าเขียนวันนี้โดนส่งตัวไปที่นั่นแน่ๆผมอยากจะยื้อเวลาแม้สักสองสามวัน  อย่างน้อยเหลือเวลาอีก1เดือนให้ได้พิสูจน์ตัวเองว่าจะไม่มีที่ฝึกงานสำหรับเราจริงๆหรือ ที่ๆเราสามารถไปได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจที่ๆเราสามารถมีความสุขหรือแค่สมัครใจที่จะฝึกงานที่นั่นจริงๆไม่ว่างานจะยากจะหนักแต่ถ้าอยากทำคือต้องทำที่ๆเหนื่อยแล้วคุ้มค่า  ที่ไหนสักที่  ผมอยากไปที่นั่นจริงๆ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in