เราคิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Kehlani (อ่านว่าเค-ลา-นี) มาบ้าง โดยเฉพาะในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเพลงที่ทำให้เธอรู้จักในวงกว้างมากขึ้นคือเพลง Gangsta ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ Suicide Squad วันนี้เราจะมาแนะนำอัลบั้มใหม่ของเธอ SWEETSEXYSAVAGE
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเธอคร่าว ๆ ก่อนดีกว่า ชื่อจริงของเธอคือ Kehlani Ashley Parrish ชื่อในวงการ Kehlani อายุ 21 ปีเท่านั้นเอง
ส่วนตัวแล้วเรารู้จัก Kehlani ครั้งแรกจากการไป featuring ในเพลง Everything Will Be OK ของ G-Eazy เสียงปลอบประโลมจิตใจมาก ฟังแล้วเชื่อเลยว่าทุกอย่างจะโอเคจริง ๆ หลังจากนั้นเราก็ตามฟังเพลงอื่น ๆ จากอัลบั้มชุดก่อน You Should Be Here เพลงที่เราชอบ ได้แก่ เพลง You Should Be Here, The Letter, Runnin', Unconditional และซิงเกิล Did I
ทีนี้มาถึงอัลบั้มล่าสุดของ SWEETSEXYSAVAGE ดีกว่า เป็นอัลบั้มที่หลายคนเรฟกันมากซึ่งเราก็ไม่ได้อะไรมาก จนกระทั่ง Brendon Urie แห่ง Panic! At The Disco ทวีตไว้ว่า
ในอัลบั้มปกติมี 17 เพลง แต่ถ้าเป็น deluxe จะมีเพลง I wanna Be และ Gansta เพิ่มมาอีกเป็น 19 เพลง เพลงของเธอส่วนใหญ่เป็นแนว R&B/Soul มีกลิ่น Hiphop เจือนิด ๆ ฟังง่าย ฟังสนุกจริง ๆ /อวย
Kehlani เป็น Bisexual ทำให้เพลงของเธอหลากหลายและคนทุกเพศสามารถเชื่อมโยงงานเพลงของเธอกับชีวิตของพวกเขาได้ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า "ไม่นานมานี้ก็คิดไว้เหมือนกันว่าจะไม่ทำเพลงที่เกี่ยวกับผู้หญิงอีก แต่อยากให้รู้ไว้ว่าหลายเพลงของฉันพูดถึงผู้หญิง แต่บางเพลงฉันไม่ได้บอกโต้ง ๆ ว่าเป็นเพศไหน ฉันแค่พูดเฉย ๆ จึงคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องต้องใส่คำพวกนั้นลงไปด้วย"
*กดชื่อเพลงจะลิงก์ไปที่เพลงนั้นใน youtube เลยจ้ะ
**เพลงที่เราทำ (*) คือเพลงที่เราชอบเป็นพิเศษ
1. Intro
ถ้าให้เปรียบอัลบั้มนี้เป็นนิยาย ตัวอินโทรเป็นก็คงจะเป็นเรื่องย่อที่อยู่ด้านหลังปก ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงของ Kehlani แต่จริง ๆ เป็นของโปรดิวเซอร์ Reyna Biddy สรุปสั้น ๆ คือ เธอเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง บางทีเธออ่อนหวาน (sweet) บางทีเธอเย้ายวน (sexy) และบางทีเธอก็ดุร้าย (savage) ขอเพียงแต่อย่ามองเธอแค่ด้านเดียว สมเป็นชื่ออัลบั้ม (อันที่จริงมันลึกซึ้งกว่านี้มาก ๆ ถ้าจะให้เขียนทั้งหมดก็เกรงว่าจะยาวไป)
2. Keep On *
ใครทำตัวไม่ดีกับแฟนแต่แฟนก็ยังอยู่ข้าง ๆ เสมอ เหมาะมากที่จะเอาเพลงนี้ไปขอบคุณเขา เราชอบเสียงปรบมือประกอบจังหวะมาก ๆ ทำให้เพลงดูไม่เครียดเกินไป แถมยังเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้เพลงอื่น ๆ
3. Distraction *
เราชอบเพลงนี้มาก ๆ บีตติดหูตั้งแต่ verse 1 ตัวเพลงพูดถึงความสัมพันธ์แบบต่างฝ่ายต่างมีพื้นที่ของตัวเอง ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังคงต้องการกันและกัน
But don't distract me, let me ask you, baby
เพลงนี้ฟังสบาย ๆ แต่เนื้อเพลงทำร้องไห้ได้เลยเด้อ ประมาณว่าพยายามจะออกไปจากกรอบความคิดแย่ ๆ ที่เขาคอยว่าเธอเสมอ ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง กล่าวคือเธออยากมั่นใจให้มากกว่านี้ มั่นใจที่จะทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเธอคงทำไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วเธออาจทำได้
5. Undercover *
เราชอบความคล้องจองของเพลงนี้ มันรันแบบเป็นเหตุเป็นผลสอดคล้องกันดี
เพลงมาแบบกีต้าชิล ๆ แล้วมาอัพบีตเร็ว ๆ ตรงคอรัสด้วยเนื้อเพลงที่ใช้คำซ้ำ ๆ เพื่อเน้นความหมาย
6. CRZY *
เพลงนี้เกี่ยวกับชีวิตการเป็นนักร้องของเธอนั่นแหละ เราชอบความกระเหี้ยนกระหือรือ ทำอะไรทำเต็มร้อย ไม่มาเล่นขายของไก่กา ส่วนบีตมันก็ลงเป็นคำ ๆ ตามเนื้อร้องดี
7. Personal *
เราชอบเพลงนี้มาก โชว์สกิล rap-singing เนื้อเพลงเด็ดขาดดี เกี่ยวกับคนที่ไม่เห็นค่าเธอก็ปล่อยมันไปซะ
เพลงนี้เป็นแสดงด้าน insecure ของเธออย่างเห็นได้ชัด เพราะรักที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่เธอจะเชื่อใจได้ และเมื่อเจอผู้ชายที่เชื่อใจได้ เธอก็ดันไม่ชิน และหวังว่ามันต้องมีสักวันที่เธอจะชินและรักได้อย่างสนิทใจ
จริง ๆ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเพลงนี้เกี่ยวกับแฟนเก่าที่เคยบอกเธอว่าแม้ในอนาคตเขาจะแต่งงาน (ไม่ได้แต่งกับเธอ) เธอก็ยังเก็บแหวนของเขาไว้ได้เสมอเพราะมันเป็นของเธอแล้ว ตามท่อนที่ว่า My ring is yours (save it, for me) ซึ่งก็เท่ากับว่าเพลงเขียนจากมุมมองของผู้ชาย สรุปก็พูดถึงแฟนเก่านั่นแหละ บุคคลต้องห้ามที่ไม่ควรคิดถึง
10. Advice *
เพลงสำหรับคนที่รักคนผิด ถึงขั้นว่าต้องรับฟังคำแนะนำของตัวเองแล้วถ้าเธอไม่อยากเสแสร้งว่าไอ้บ้านี่เป็นคนดี บีตช้า ๆ แต่กระแทกใจดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in