Kim Taehyun/Jeon Jungkook
เขาว่ากันว่าสมองของอาจารย์สอนศิลปะเหมือนกับมิติลี้ลับ...ยากจะเข้าถึง เข้าใจ
ไม่มีใครที่เข้าไปแล้วกลับออกมาเล่า เพราะคนที่เข้าถึงแก่นนั้นแล้ว จะมีอาการแบบเดียวกัน เพิ่มบุคคลที่ไม่อาจเข้าใจได้มาอีกหนึ่งคน
ดังนั้นจอนจองกุกจึงไม่ประหลาดใจ เมื่ออาจารย์ผู้สอนวิชาวาดรูปคนเหมือนจะสั่งการบ้านเรียกเสียงถอนหายใจจากนักเรียนทั้งห้อง
‘ให้วาดรูปคนในจินตนาการ โดยห้ามเหมือนคนที่มีอยู่จริง’
เขาเริ่มคิดแล้วว่า...ที่เลือกสอบเข้าโรงเรียนศิลปะเพื่อวุฒิการศึกษามัธยมนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดกันแน่
ท้องฟ้าฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเย็นนั้นหม่นมัว แต่งแต้มด้วยสีส้มของใบไม้ใกล้ร่วงหล่นจากกิ่ง ดูหมองเศร้าเข้ากับสภาพจิตใจของจองกุกและเพื่อนร่วมชั้นที่เดินแบกกระดานวาดรูปออกจากประตูโรงเรียน
แม้จะไม่มีพลังอ่านใจได้แบบในการ์ตูน แต่เด็กหนุ่มก็พอรู้ว่าในความคิดของเพื่อนๆคงไม่พ้นการบ้านที่ฟังง่ายแต่ทำยากของคาบสุดท้าย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับอาจารย์ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้
จองกุกเดินเข้าร้านกาแฟตรงหน้าสวนสาธารณะระหว่างทางกลับหอพัก สั่งนมกล้วยปั่นมานั่งดูด หลับตาลิ้มรสคุ้นเคย พักผ่อนให้สมองปลอดโปร่ง สักพักหยิบสมุดวาดเขียนปกแข็งเล่มเหมาะมือออกมาขีดเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย ลองร่างภาพโจทย์การบ้านที่เพิ่งได้รับ
ใบหน้าในจินตนาการสำหรับจองกุกนั้น สิ่งแรกที่เข้ามาเมื่อนึกถึงคือภาพวาดของเทวดาในโบสถ์ต่างๆ พวกเขาล้วนงดงาม สมกับที่ถ่ายทอดออกมาจากภาพฝันของจิตรกรผู้รังสรรค์
เด็กหนุ่มกระชับดินสอไม้ในมือ ลงมือร่างภาพเป็นเค้าโครงใบหน้าหนึ่งที่งดงามที่สุดในความคิดของเขาเน้นแนวสันกรามให้ชัดขับความคมสันของเครื่องหน้า นำสายมาบรรจบยังปลายคางมน จากนั้นขยับขึ้นไปยังเส้นผมเล็กละเอียดซึ่งจะพลิ้วไหวตามแรงลม เลื่อนลงมากำหนดแนวคิ้วเรียวเข้มได้รูปสวย ดวงตาเรียวคม จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหยักเต็ม
ได้ภาพร่างสมบูรณ์แล้ว...จองกุกลงแสงเงาต่อทันทีด้วยความเพลิดเพลิน จนกระทั่งภาพบนหน้ากระดาษเหลือเพียงดวงตาที่ยังเว้นเป็นช่องขาวไว้
ใส่ดวงตาแบบไหนให้ผู้ชายในจินตนาการคนนี้ดี หนุ่มน้อยนิ่งคิด จรดปลายดินสอเติมเต็มช่องว่างครั้นตัดสินใจได้
ผลงานของจองกุกได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากทั้งอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้น เขานึกขอบคุณผู้ที่เป็นต้นแบบของชายหนุ่มรูปงามในภาพวาด
ทว่า...คนๆนั้นไม่มีอยู่จริง หากจะมีจริง ก็เพียงแค่ในจินตนาการของเขา
เด็กหนุ่มเดินกอดสมุดวาดเขียนท่ามกลางสายลมหนาวเริ่มมาเยือนเมืองหลวง ป้องปากหาวหวอดจากเมื่อคืนโต้รุ่งเก็บรายละเอียดภาพวาดบนกระดาษวาดเขียนแผ่นใหญ่รอบสุดท้ายก่อนส่ง
“คุณ! คุณครับ”
เสียงเรียกจากเบื้องหลังพาศีรษะหันไปมองอย่างเอื่อยเนือย แว่นสายตาทรงกลมไร้กรอบฉายภาพของผู้ชายร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาหา มือชูพวงกุญแจรูปตุ๊กตาไอรอนแมนขึ้นระดับสายตา
“พวงกุญแจอันนี้ของคุณรึเปล่าครับ”
จองกุกชะงัก มือตบๆตามกระเป๋ากางเกง แน่แก่ใจว่าที่อยู่ตรงหน้าคือของตนแน่ก็พยักหน้าถี่
“ครับ...ของผมเอง ขอบคุณนะครับ”
“ยินดีครับ” ชายหนุ่มผู้มีน้ำใจเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบาง
วินาทีที่ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน จองกุกถึงกับต้องหยิกแขนตนเอง
ราวกับเห็นภาพวาดที่เพิ่งส่งอาจารย์ไป...กลายเป็นคนมีเลือดเนื้อมายืนอยู่ตรงหน้า
“คุณ...มีอยู่จริง” ได้ยินเสียงตนเองพึมพำเหมือนละเมอ กะพริบตาครั้งแล้วครั้งเล่า หยิก ตบหน้าตนเองก็แล้วยังเห็นผู้ชายคนนี้ยืนอยู่เหมือนเดิม
“ก็ต้องมีจริงสิครับ ไม่งั้นจะเก็บพวงกุญแจให้ได้ยังไง” เสียงทุ้มต่ำตอบกลั้วหัวเราะ มุมปากยกยิ้มเอ็นดู ในวงตาเรียวคมปรากฏแววบางอย่างที่ทำให้สองแก้มร้อนวูบขึ้นมา
“ค...ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” จองกุกก้มศีรษะลงเล็กน้อย รู้สึกว่าตนเองเงอะงะอย่างไม่น่าให้อภัย เด็กหนุ่มหมุนตัว จ้ำออกมาโดยเร็วบอกตนเองว่าหัวใจเต้นแรงเกิดจากเดินเร็ว
ไม่ได้มาจากเจ้าของสายตาที่ยังคงมองตามหลังมาแต่อย่างใด
เจ้าของสายตา...เหมือนกับในภาพวาดที่เขาจ้องมองขณะแต่งแต้มรายละเอียดบนแผ่นกระดาษเป็นสัปดาห์
จะต่างก็เพียงประการเดียว...คือผู้ชายคนนี้มีตัวตนอยู่จริง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in