เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JAETEN STORYมูน มูน
รอยยิ้มของเรา
  • เขาขอให้คนรอบข้างของเขามีสุขภาพที่แข็งแรง เผอิญผมที่อยู่เตียงข้าง เขานั้นได้ยิน

       เขาเป็นผู้ป่วยคนหนึ่งในโรงพยาบาลแห่งนี้ ผู้ป่วยเช่นเดียวกับ ผม ผมเจอเขาครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนี้เป็นเดือนเมษายน เขานอนเตียงข้างๆกัน ส่วนโรคของเขาน่ะเหรอ โรคหัวใจน่ะ ตลกสิ้นดีที่เขาขอให้คนรอบข้างมีสุขภาพดีแต่เขาใกล้จะตายอยู่แล้ว

     เขาคงเป็นบ้าด้วยแน่    

      โลกนี้โหดร้าย ผมรู้จักความทุกข์ทรมานนี้มาตั้งแต่เด็ก หมอบอกว่าผมจะไม่มีวันหาย น่าเศร้าจริง ๆใช่มั้ย ผมกล่าวโทษคนข้างบนฟ้านั่นเสมอ พรใด ไม่เคยส่งไปถึง ไม่เคยมีใครตอบรับกลับมา

    ขอให้ผมหายดีสักที

    ขอให้ผมเป็นแค่เด็กปกติ

    ขอให้คุณแม่ไม่ต้องเสียใจเพราะผมอีก

    ...ขอให้ผมรีบหายไปเถอะ

      ผมขอทุกคำขอที่ขอได้ และมันไม่มีอะไรเป็นจริงสักอย่าง ผมไม่มีวันหายจากโรคร้าย ผมไม่มีทางเป็นเด็กปกติที่ได้ออกไปวิ่งเล่น คุณแม่ก็ยังคงร้องไห้เพราะผม ขนาดคำขอสุดท้ายที่ขอให้ผมรีบหายไปนั้นก็ยังไม่เป็นจริงสักที ทั้ง ๆที่ผมก็ต้องตายแน่ อยู่แล้ว แต่มันก็ยังมาไม่ถึง ผมยังคงเจ็บปวด  

       สวัสดี เราชื่อ เจย์

      “…”

      “นายชื่ออะไร

      “…เตนล์

      “อ่า งั้นจากนี้ไปฝากตัวด้วยนะ

      เขายิ้มหลังพูดประโยคนั้นจบ ลักยิ้มที่แก้มนั่น...ตลกชะมัด ไอ้แก้มอ้วน

    ตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาเขามักทำให้ผมแปลกใจเสมอ เขาไม่เคยร้องไห้ ไม่เคยเศร้า แม้ในวันที่อาการเขากำเริบหนัก เขาก็ยังส่งยิ้มให้ผมแล้วบอกว่าไม่เป็นไร ไอ้แก้มอ้วนประหลาดคน...

       เขาชอบอ่านหนังสือ ผมมักสังเกตเขาแต่ไม่ใช่เพราะสนใจหรอกนะ ก็แค่เขาประหลาดน่ะ เขามักเล่าเรื่องที่เขาอ่านให้ผมฟังแต่ผมไม่ได้อยากฟังหรอกนะ ก็แค่เขาอยู่ข้างเตียงพูดจาเสียงดังและหันมาทางผม จะเสียมารยาทมันก็ยังไงอยู่ ไม่ได้ชอบตอนลักยิ้มนั่นโผล่ออกมาตอนที่เขาเล่าเรื่องสนุกให้ฟังหรอกนะ ผมไม่ได้ชอบหรอก

       เตนล์ชอบดอกไม้อะไรเหรอ?

      “ถามทำไม

      “อยากรู้น่ะ

      “ไม่รู้ ไม่ได้สนใจ

      “บ้า มันต้องมีสิ

      “ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนใจดอกไม้หรอกนะผมบอกเขา

       ก็จริง แต่เราว่านะ เตนล์เหมาะกับดอกทานตะวันมาก ๆเลย

      “ทำไม

      “เพราะรอยยิ้มของเตนล์สดใสเหมือนดอกทานตะวันเลยล่ะ เราชอบนะ

      “…ชอบดอกทานตะวัน?

      “ใช่ แล้วก็ชอบรอยยิ้มของเตนล์ด้วย

      “…”

      “ยิ้มบ่อย นะ

       ไม่รู้ว่าเพราะโรคที่ผมเป็นอยู่รึป่าว หัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ แต่ผมคิดว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นเพราะโรคบ้า ๆนี้หรอก อาจเพราะประโยคบ้าบอที่เขาพูด ก็เขาเป็นบ้านี่ แต่ว่า ผมใจเต้นแรงเพราะคนบ้าได้มั้ยนะ

       อาการเขาหนักขึ้นตอนช่วงพฤษภา...เขาได้ย้ายไปอีกห้องที่เครื่องมือแพทย์ครบครันกว่า เพื่อต้องรักษาให้เขาหาย เขาจึงต้องย้ายไป แต่เราต่างรู้ ไม่มีใครที่จะสามารถหายได้จากโรคนี้

       ไม่มีรอยยิ้มให้ผมอีกจากเตียงข้าง นั่น ไม่มีเสียงเล่าเรื่องใด ผมรู้ว่าเขาจะอยู่ได้อีกไม่นาน ผมกลับมาขอพรโง่ ขอให้เขาหายดี แม้จะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ต่างจากพรพวกนั้นที่ผมเคยขอ แต่ผมก็ยังคงอ้อนวอนขอให้เขากลับมานั่งยิ้มให้ผม เล่าเรื่องต่าง จากที่เขาอ่านให้ผมฟัง อีกแค่สักครั้ง แค่ครั้งเดียว

       ความจริงคงอยู่เสมอ เขาจากไปแล้ว คำขอพวกนั้นยังไม่ได้ผลเหมือนเคย...

       ผมร้องไห้อย่างหนักทุกคืน ภาวนาให้ผมได้จากไปเร็ว ผมไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว ผมไม่ได้เจ็บปวดจากโรคที่เป็น ผมเจ็บปวดเพราะการจากไปของเขา เหมือนคนข้างบนทำผมเจ็บช้ำไม่พอ ส่งโรคร้ายมาให้แล้วยังส่งความรักที่แสนเจ็บปวดยิ่งกว่าโรคงี่เง่านั่นมาให้ผมอีก

      

       ในเช้าวันหนึ่งของเดือนมิถุนายนที่ฝนยังคงตกลงมาเพราะฤดูฝน ดอกทานตะวันที่อยู่ในแจกันข้างเตียงผมโผล่มา

       เจย์เขาฝากป้าให้เอามาให้น่ะ ขอโทษที่เพิ่งเอามาให้ป่านนี้นะจ๊ะ

      “เขาเล่าเรื่องของหนูให้ป้าฟังเสมอเลย เขาบอกว่าให้หนูยิ้มเยอะ ขอให้หนูมีความสุขจ้ะ

      ผมอยากโกรธเขาเหลือเกิน ขอให้ผมยิ้มทั้ง ๆที่เขาที่เป็นรอยยิ้มของผมจากไปแล้วงั้นเหรอ ผมจะมีความสุขได้ยังไง ความสุขของผมคือเขาทั้งหมด จนตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นคนบ้า คนบ้าของผม

         

          รอเราหน่อยนะ หวังว่าข้างบนนั้นจะดีกับนาย แล้วเราจะไปหา อีกไม่นานหรอก

    ขอบคุณสำหรับดอกทานตะวัน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง...ขอบคุณ รักนายเสมอ เจย์

     

     

     

     

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
มูน มูน (@yyyyy27)
รูปป้องปากพูดประโยคนั้นที่เชียงใหม่เป็นเหตุ