สวัสดีค่ะ นี่เป็นการรีวิวการสมัครแอร์ครั้งแรกในชีวิตเรากับสายการบิน Emirates ณ ประเทศสิงคโปร์รอบวันที่ 22 สิงหาคม 2558 ค่ะ โดยระยะเวลาของแต่ละขั้นตอนในการสมัครมีดังต่อไปนี้...
สำหรับของเรานะคะ เราแต่งแบบเดิมทุกวัน คือ สูทสีดำแขนยาว กระโปรงสีดำคลุมเข่า รองเท้าคัทชูสีดำ เปลี่ยนแต่เสื้อตัวในเฉยๆค่ะ ทำมวยผมเรียบร้อย ปาดเจลให้เรียบๆ ทาปากแดงและทาเล็บสีแดงค่ะ
เราพักที่ 5footway.inn Project Boat Quay ค่ะ ใกล้ๆกับ MRT Clarke Quay เดินประมาณ 5 นาทีก็ถึง และเราสามารถเดินไปที่สมัครภาษณ์วันแรกและวันที่ 2 ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
เริ่มกันเลยเนอะ : )
สิ่งที่ต้องเตรียม : ปากกาดำ, Updated CV และ รูปถ่ายเต็มตัวหรือพาสปอร์ตก็ได้ค่ะ
เราไปถึง Raffles City Convention Centre (MRT City Hall) ประมาณ 7.15 ค่ะ ตัวห้องที่สมัครอยู่ในโซนของโรงแรม Swissotel เราไปเซอร์เวย์มาเรียบร้อยแล้วว่าจะต้องไปตรงไหนอะไรยังไงบ้าง
ตอนเข้าไปเจอแอร์ EK เดินลงมาที่ล็อบบี้พอดีเลยค่ะ ทุกคนยิ้มให้หมดเลย มี thumbs up ให้ พยักหน้าด้วย กำลังใจมาเลยทีนี้ ในใจนี่กรี๊ดมาก อยากใส่ยูนิฟอร์มนี้ > <
เมื่อเตรียมตัวเตรียมใจหายใจเข้าออกลึกๆก็ขึ้นไปตรงห้องที่สัมภาษณ์ค่ะ เรานั่งรออยู่ที่โถงด้านนอก คุยกับคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยๆจะได้หายตื่นเต้น คนก็ทยอยกันมาเรื่อยๆ สังเกตว่าคนไทยมาเยอะมากๆค่ะ ได้ยินภาษาไทยตลอด รองลงมาก็เป็นเกาหลี สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งทุกคนก็เม้ามอย ตื่นเต้นกันใหญ่ เราพยายามต้องหาหัวข้อมาคุยกันจะได้ไม่แพนิก (ได้ความรู้ใหม่มาว่าสาวๆส่วนมากใช้ลิปของ Sephora กันค่ะ อยู่ทนอยู่นานคอนเฟิร์มมากๆ)
พอถึงประมาณ 9 โมงทางโรงแรมก็เปิดห้องให้เข้าไปนั่ง ขนาดของห้องไม่ใหญ่มากค่ะ จุได้ประมาณ 100 คน เราได้เข้าไปรอบแรกเพราะมาเช้า และโชคดีที่ได้นั่งกลางๆห้อง ตรงหน้าประตูค่ะ และเนื่องจากผู้สมัครมาเยอะมากกกกกกก คนที่ยังไม่ได้เข้ารอบนี้ก็ยืนต่อแถวกันหน้าห้องก่อนค่ะ
ก่อนเข้าห้องมีกระดาษให้กรอกข้อมูลส่วนตัวและใบแจ้งเกี่ยวกับเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ซึ่งกรรมการจะให้อ่านและรอกรอกข้อมูลต่างๆพร้อมๆกันค่ะ (มีคนกรอกก่อนแล้วโดนดุนิดนึงด้วยค่ะ)
สำหรับกรรมการในการสัมภาษณ์ครั้งนี้มี 2 คน ชื่อมิร่ากับฮอลลี่
เขาก็อธิบายการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนตัวและอธิบายขึ้นตอนการยื่น CV ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างก่อนที่จะมายื่นให้เขา (แบบฟอร์มที่แจก+รูป passport/เต็มตัว+CV เย็บติดกันให้เรียบร้อย ลงชื่อในกระดาษที่เตรียมไว้ให้พร้อมจำเลขที่ให้แม่นๆ) และแบ่งครึ่งห้องฝั่งซ้ายยื่นกับฮอลลี่ ฝั่งขวายื่นกับมิร่า ซึ่งเราได้ยื่นกับมิร่า เกร็งๆนิดหน่อยเพราะมิร่าดูโหดกว่ามากเลยค่ะ
ทางกรรมการบอกว่าจะประกาศผลตอนบ่ายสาม ให้มารอโดยพร้อมเพรียงกันโดยจะแปะรายชื่อไว้ด้านหน้า ชื่อไหนมีไฮไลท์แสดงว่าผ่านค่ะ และนอกจากนี้เขาก็แปะโปสเตอร์ที่ใช้สำหรับเอื้อมแตะไว้ ถ้าใครยื่นCVเสร็จแล้วก็สามารถไปลองได้ค่ะ :)
จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงระทึกขวัญ ทุกคนก็กรอกเอกสารและลุกจากที่นั่งแยกย้ายกันไปต่อแถวเข้ามาทีละคน จนในที่สุดก็มาถึงคิวเรายื่น หัวใจเต้นแทบจะหลุดจากอก แต่หน้ายังต้องยิ้งค่ะ keep cool ให้ดูโปรเข้าไว้ทั้งที่ใจเต้นแรงมาก พอมาถึงโต๊ะ เราก็ยื่น CV ให้และทักทายตามปกติ มิร่าก็เริ่มยิงคำถามค่ะ
เราก็พยายามตอบๆไป ว่าเพิ่งเรียนจบ มาสมัครที่นี่ครั้งแรก อยากเป็นแอร์เพราะมีประสบการณ์ดีๆบนเครื่องบิน คือตอนนั้นในหัวสมองโล่งมากกกกกกกก คิดอะไรได้คือตอบเลย และเสียงสั่นมากๆ และพอตอนจบเราก็ Thank you very much, have a nice day และยิ้มสวยๆให้หนึ่งรอบ
จากนั้นก็เดินสั่นๆออกมาจากห้องค่ะ
เราออกมาจากห้องประมาณ 10 โมงนิดๆ พอออกมาก็เจอผู้สมัครท่านอื่นๆยืนต่อแถวรออยู่แล้วค่ะ คนเยอะมากจริงๆ เราก็นั่งคุยกับเพื่อนที่เพิ่งจะรู้จักกัน กินกาแฟ เดินห้างวนๆไปเรื่อยๆ ไม่มีใจจะไปเที่ยวหรือกินข้าวเท่าไร ฮาาาาา
พอบ่ายสามก็กลับมายืนรอหน้าห้อง ความเครียดเริ่มกลับมาแล้ว ก็คุยกับเพื่อน ปลอบกันไปมา และในที่สุดกรรมการก็เดินออกมาและขอบคุณที่ให้ความสนใจมาสมัครกันในวันนี้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจให้ลองสมัครใหม่ ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ส่วนคนที่ผ่านก็ให้เข้ามาในห้องตอนบ่ายสามสิบห้า แล้วก็แปะกระดาษ!
ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที ทุกคนก็เบียดเสียดกันเข้าไป มีเสียงเฮเสียงกรี๊ดเป็นระยะ เราก็แทรกมวลมหาประชาชนผู้สมัครทั้งหลายเข้าไปจนถึงบอร์ด สรุปว่าผ่านค่า ชื่อเรามีไฮไลท์สีเหลือง พร้อมหมายเลขใหม่ด้านหลัง
พอคนซาๆเลยลองไปนับๆดูว่าเหลือรอดกันกี่คน สรุปว่ารอบนี้จากประมาณ 380 กว่าคนเหลืออยู่ร้อยนิดๆ คนที่ผ่านก็ทยอยเข้าห้องประชุมไปอีกรอบค่ะ
ตอนนี้เราก็ได้เลขใหม่ที่กรรมการเขียนให้หลังชื่อ ซึ่งทางกรรมการแจ้งว่าต้องจำให้ได้เพราะจะใช้เลขนี้ตลอดวันพรุ่งนี้จนถึง Final Interview ห้าม ลืม เด็ด ขาด
พอเข้าไปในห้องก็เริ่มเอื้อมแตะกันค่ะ (212 cm.) กรรมการก็บอกว่าให้คุยกันเองไม่ต้องดูคนที่เอื้อมแตะเพราะกลัวว่าจะคนที่กำลังเอื้อมอยู่จะเกร็ง เราก็นั่งเม้าท์กันกับเพื่อนข้างๆไปพลางๆ และตอนเอื้อมแตะสาวๆต้องถอดรองเท้าก่อนนะคะ เขย่งแบบปกติได้ แต่ไม่สามารถเขย่งแบบบัลเล่ต์ยืนด้วยปลายเท้าได้ค่ะ ถ้ากลัวสูทจะรั้งเอื้อมไม่ได้ก็ขอกรรมการถอดสูทก่อนก็ได้ไม่ว่ากันค่า ส่วนเราตัวสูงอยู่แล้ว รอบนี้สบายๆไม่มีปัญหาค่ะ มิร่าไม่มองเลยด้วยซ้ำ ฮา
พอจบเอื้อมแตะ ทางกรรมการก็เปิดคลิปเกี่ยวกับดูไบให้ดูว่าต่อไปจะใช้ชีวิตที่นู่นยังไง ในคลิปอธิบายว่างานแอร์มันไม่ได้สวยๆสบายๆอย่างที่ทุกคนคิดนะ การไปอยู่ดูไบก็เช่นกัน แต่ทุกคนก็ตาเป็นประกายวิ้บวับอยากบินไปดูไบตั้งแต่วันนี้ ยังไงก็ได้ ขอให้ได้ไปไว้ก่อน และจากนั้นก็เปิดโอกาสให้ถามคำถาม ก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้านไปพักผ่อน โดยนัดเวลาของวันรุ่งขึ้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ รอบเก้าโมงเช้า และเก้าโมงครึ่งค่ะ ตัวเราได้รอบเก้าโมงเช้า ก็รีบกลับที่พักไปนอนเอาแรง พรุ่งนี้สู้ต่อค่ะ!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in