สำหรับเราแล้ว พี่เต๋าไม่ได้เป็นแค่ 'หมอลำหนุ่มหน้าหล่อเสียงดี' อย่างที่สื่อนำเสนอเพียงเท่านั้น ยิ่งเราได้รู้จักความเป็นเต๋า ภูศิลป์ มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราได้เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงได้รับความรักจากแฟนๆอย่างทุกวันนี้
เต๋า ภูศิลป์ วารินรักษ์ (เกษม ศรีสมบูรณ์) นักร้องหมอลำรุ่นใหม่จากแดนอีสาน วารินชำราบ อุบลราชธานี ผู้ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตัวเองจะได้มาเป็นนักร้องร่วมค่ายกับหลากศิลปินในดวงใจ จุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพในวงการบันเทิง เริ่มมาจากคลิปที่อัดเล่นในช่วงที่มีมือถือใหม่ ในยุคที่โซเชียวแคมกำลังฮิต ก็ทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเหนือความคาดหมาย จากการรอยยิ้มกระชากใจที่มาพร้อมกับเพลงลูกทุ่งหมอลำแนวถนัดที่ร้องถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี
จากการอัดคลิปเพื่อคลายเครียดเพราะว่าเหนื่อยเรียนหนักในช่วงนั้น ซึ่งก็ถ่ายคลิปร้องเพลงแบบง่ายๆ กลับจากมหาวิทยาลัยก็ถอดเสื้อนักศึกษามานั่งร้องเพลง ไม่ได้เซ็ทอะไรมากมาย และก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เอาสิ่งที่รักมาทำเป็นอาชีพจริงๆ
หลังจากความโด่งดังในโลกออนไลน์ได้เริ่มเข้ามา ทางแกรมมี่ก็ได้เห็นผลงานแล้วเกิดสนอกสนใจติดต่อเข้ามา อยากให้มาลองเทสเสียง แต่เจ้าตัวก็ดันเกิดความไม่มั่นใจ ว่าใช่ทีมงานตัวจริงหรือเขาจะมาหลอกหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยไม่สนใจทิ้งข้อความนั้นไว้ไม่ยอมตอบ จนเวลาล่วงเลยไปถึงสองเดือน สุดท้ายก็ได้แอบลองเข้าไปส่องที่เฟสบุคของพี่ทีมงาน เลยได้เห็นว่าทำงานกับพี่ต่าย พี่ไผ่ นักร้องในแกรมมี่โกลด์จริงๆ จึงตัดสินใจเข้ามาลองเทสเสียง และหลังจากนั้นก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดอย่างเต็มตัว เรียนร้องเพลง เรียนเต้น เล่นฟิตเนสฟิตร่างกายอีกหนึ่งปีเต็ม ถึงได้กลายเป็นเต๋า ภูศิลป์ ที่เราได้รู้จักกันในทุกวันนี้
นอกจากบทบาทการเป็นนักร้องลูกทุ่งแล้ว เต๋าภูศิลป์ก็ยังได้รับโอกาสดีๆจากผู้ใหญ่ ทำให้ได้ลองจับงานที่หลากหลาย รวมไปถึงด้านการแสดง ที่เจ้าตัวยอมรับว่ายากพอสมควรเลย กับการที่ต้องเล่นเป็นคนอื่น ต่อหน้าคนเยอะๆ ก็ทำให้แอบเขินบ้าง แต่เราก็เชื่อว่าในตอนนี้พี่เต๋าก็น่าจะเริ่มชินกับการแสดงแล้ว เพราะได้แสดงฝีมือในการแสดงทั้งทางจอเงินและจอแก้วมาหลายเรื่อง แถมแว่วมาว่าเร็วๆนี้จะมีผลงานการแสดงมาเพิ่มอีกด้วย
สำหรับคนรุ่นใหม่หลายๆคน ก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกห่างไกลกับคำว่า หมอลำ แต่สิ่งนี้กลับไม่ได้เกิดขึ้นกับนักร้องที่ชื่อว่าเต๋า ภูศิลป์ จากการที่เราได้ตามดูสัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ต่างๆนั้น หนึ่งในคำถามที่ต้องขีดเส้นใต้ว่าถูกถามบ่อยที่สุดก็คือ เรื่องหมอลำกับหน้าตาแนวเกาหลีของพี่เต๋า ที่หลายคนจะแอบข้องใจว่าทำไมหน้าตาแบบนี้ไม่ไปร้องเพลงป๊อปตามสมัยนิยม จนทำเอาเจ้าตัวเคยแอบบ่นเล่นๆว่า สรุปแล้วหน้าตาอย่างผมควรร้องเพลงแบบไหนครับ 555 แถมหลายคนพอได้เห็นหน้าก็กลับไม่เชื่อว่าร้องหมอลำได้อีก
แต่บอกเลยว่าหากค้นเข้าไปในหัวใจของเต๋า ภูศิลป์ ก็คงจะมีแต่หมอลำ เพราะด้วยความเป็นคนอีสาน ที่เติบโตมาพร้อมกับเสียงลำเสียงแคน ซึมซับมาจากผู้ใหญ่ที่บ้าน หมอลำกลายเป็นเรื่องที่เขาให้ความสนใจและคลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก โดยคุณย่าก็เลยได้ถ่ายทอดทางวิชาของคุณทวดที่เป็นหมอลำกลอน ทั้งลูกเอื้อน กลอนลำ ให้มาโดยตลอด จนชอบและรู้สึกได้ว่า หมอลำเป็นตัวเรา ร้องแล้วเข้าปากมากที่สุด ก็เลยอยากจะถ่ายทอดความเป็นตัวเอง ความเป็นคนอีสาน ชอบกินปลาร้า ให้ทุกคนได้เห็น และความชอบนี้ก็ได้ที่บ้านคอยสนับสนุน ตั้งแต่คุณย่าที่เห็นแวว คอยตัดชุดให้ขึ้นเวทีต่างๆ รวมไปถึงการสนับสนุนให้ได้ไปเริ่มเรียนในสิ่งที่เขาชอบ ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด
เรื่องการศึกษา ถือเป็นอีกแง่มุมสำคัญของเต๋า ภูศิลป์ ส่วนตัวแล้ว เราประทับใจในทัศนะของพี่เต๋าที่มีต่อการเรียน แทบทุกครั้งในการให้สัมภาษณ์พี่เต๋าจะคอยย้ำว่าอยากให้เรียนในสิ่งที่เรารัก จะได้ทั้งทำสิ่งที่รักและให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เรียน และไม่ลำบากใจในการทำงาน แต่ก็เข้าใจว่าหลายคนจบมา แล้วต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้รัก เพื่อหาเลี้ยงชีพ อย่างไรก็ตามสำหรับเต๋า ภูศิลป์ เขาไม่ลังเลที่จะเลือกสิ่งที่เขารัก ที่เขาเชื่อมั่นว่า “ถึงว่าเหนื่อย แต่เราก็สนุก เพราะเป็นสิ่งที่เรารัก” เราเองคิดว่า พี่เต๋าถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการเข้าใจตัวเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร แล้วตัดสินใจทางเดินนั้นอย่างมั่นใจ เพราะเราเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายๆคน หลังจากจบด้านนาฏศิลป์ไทยจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พี่เต๋าก็เรียนต่อด้านการจัดการทางวัฒนธรรมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทันที และคิดว่าถ้ามีเวลาและโอกาสก็จะเรียนต่อไปอีก
“เรารู้สึกว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความพากเพียรของตัวเรา”
ประโยคนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเริ่มสนใจผู้ชายคนนี้เลย แค่ประโยคสั้นๆแต่สามารถตอบคำถามในใจเรา ในยามที่เราท้อๆหรือขี้เกียจ ว่าทำไมเราในตอนนี้ ยังต้องเหนื่อยและอดทนกับการเรียน การเขียนรายงานหรือธีสิสอยู่ พี่เต๋ายังขยายความเอาไว้ว่า ในความเป็นจริงแล้วการจบสูงหรือไม่นั้น ไม่สำคัญเท่าการที่ว่าเราทำงานเป็นหรือไม่ แต่การศึกษาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าเรียนอดทนและพยายามกับตรงนั้นมากแค่ไหน
นอกจากบทบาทการเป็นนักเรียนแล้ว นักร้องดังอย่างเต๋า ภูศิลป์ ก็เคยได้ก้าวสู่บทบาทความเป็นครูมาแล้วด้วย โดยได้ไปฝึกสอนที่โรงเรียนมาแล้วถึงสองโรงเรียนด้วยกัน หากไม่ได้ทำงานในวงการอย่างในตอนนี้ ก็เชื่อได้ว่าเราอาจจะได้เห็นคุณครูเต๋า ผ่านแฮชแท็ก #ครูหล่อบอกต่อด้วย ก็เป็นได้ เพราะว่าเขาก็เคยได้คิดไว้ว่าอยากจะรับราชการ เป็นครู เพื่อสืบทอดมรดกวัฒนธรรมไทยให้กับนักเรียน และเยาวชนรุ่นหลัง
ในปัจจุบันนี้ ช่องว่างระหว่างนักร้องกับแฟนคลับได้ถูกร่นระยะทาง ผ่านการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อทำให้เราได้รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือฟังก์ชั่นไลฟ์ โดยปกติแล้วในฐานะแฟนคลับเราก็จะชินกับการที่ศิลปินมานั่งไลฟ์แบบหล่อๆสวยๆ เตรียมตัวจัดที่ทางมาแล้วประมาณหนึ่ง แต่สิ่งนี้แทบจะไม่เกิดกับพี่เต๋าค่ะ 555 คือความหล่อนี่มีอยู่แล้ว นี่ไม่ปฏิเสธเลย
แต่สิ่งที่เราชอบเป็นพิเศษคือความเป็นกันเอง ในระดับที่ชิวมากกก และบางทีก็ตลกมากกก มานั่งจกส้มตำให้ดู ปอกผลไม้เอย นั่งพิมพ์รายงานไปร้องเพลงไป เมื่อก่อนนี่ให้หวยก็มี บางทีถึงขั้นใส่บ็อกเซอร์นั่งไลฟ์ ซึ่งก็ชิวป๊ายยย 5555 นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดถึงความใส่ใจแฟนๆทุกคน ที่จะคอยอ่านคอมเม้นท์ ตอบคำถาม และสวัสดีทักทาย เรียกชื่อแฟนๆที่คอยเข้ามาดูอยู่เสมอ
ไม่เพียงแค่การให้ความเป็นกันเองกับแฟนๆเท่านั้น อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือความตลกของคุณพี่เขานี่แหละ ตอนแรกเราเห็นว่าเป็นนักร้องหน้าหล่อๆขนาดนี้ ก็คงต้องมีเก๊กๆ คีพลุคหล่อๆเท่ๆกันบ้าง แต่เท่าที่รู้จักมาพี่เต๋า นี่แอบมีความตลกและฮามากๆ อย่างตอนวันสงกรานต์ก็ตัดรูปหน้าตัวเองใส่ชุดนางสงกรานต์งี้ เล่นเอาเราขำพรวดในทันทีที่เห็นรูปเลย
ทั้งหมดนี้ ทำให้เรายิ่งรู้จักก็ยิ่งประทับใจว่า สำหรับเราแล้วนั้น เต๋า ภูศิลป์ ไม่ใช่แค่นักร้อง
แต่เป็นเหมือนพี่ชาย เหมือนเราได้เห็นคนๆหนึ่ง ที่พยายามมุ่งมั่นในสิ่งที่เขารัก
มีความอยากที่จะเผยแพร่วัฒนธรรม และความชอบในหมอลำ
ซึ่งถือเป็นตัวตนของเขาให้คนอื่นได้รู้จักและลองสัมผัส
ได้เห็นทัศนคติและการทุ่มเทกับทุกอย่างที่ได้ทำ
การเปิดรับโอกาส และไม่ความทะนงตัวว่าเก่งกว่าใคร
เพราะสำหรับเต๋า ภูศิลป์ การได้เข้ามาทำงานในจุดนี้ก็มากกว่าที่เคยฝันไว้
และเป็นเพราะได้รับโอกาสดีๆจากผู้ใหญ่
ที่เขาจะตั้งใจทำผลงานให้ความบันเทิงกับพี่น้องไปเรื่อยๆ
15/03
สุขสันต์วันเกิดค่ะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in