ที่จริงตื่นมาไม่ใช่ความฝัน ความเย็นที่แนบหน้ามันคือกระจกหน้าต่างเครื่องบินนาบจนหน้าชา
มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตางัวเงียจากอาการพึ่งตื่นนอน เฮ้ย! นี่กัปตันพาบินมาถึงขั้วโลกเลยเหรอฟะ เพราะวิวที่มองเห็นนอกหน้าต่างนั้นเป็นแผ่นเมฆที่เกาะกันอย่างกะดินแดนน้ำแข็งอลาสก้าที่เคยเห็นในช่อง Nationl Geographic
ความเย็นบนหน้ายังไม่หาย หลังที่ปวดกับขาที่เมื่อยก็ตามมา นั่งเก้าอี้แคบๆนานๆมันก็ทรมานเหมือนกันนี่หว่า บินแบบประหยัดก็ต้องแลกกับอาการพวกนี้แหละน่า แต่แค่นี้คงไม่ใช่ปัญหาเพราะผมเคยผ่านประสบการณ์นั่งรถทัวร์ไปเชียงใหม่มาแล้ว 9 ชั่วโมง แถมยังเคยนั่งรถไฟมาราธอนจากเชียงใหม่ 12 ชั่วโมงมาแล้ว
จากการพรรณาถึงอาการทั้งหมดมา คงไม่ต่างกับคนที่ต้องอดทนอ่านมาถึงตอนนี้ และในใจคงบ่นว่า นี่บทที่สามแล้วเอ็งยังไม่ถึงญี่ปุ่นอีกเหรอ หนำซ้ำยังมานั่งอ่านอาการทรมานทรกรรมของเอ็งอีก
เอาหล่ะครับ บทหน้าเราจะมาบรรยายถึงขั้นตอนที่เครื่องค่อยๆร่อนลง ค่อยๆกางล้อลงสนามบิน…พอเห้อ ถึงญี่ปุ่นได้แล้วโว้ย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in