หัวข้อ ; lipstick and pajamas
#creatourjikook
ใครบ้างไม่ชอบงานรื่นเริง เสียงดนตรีเสนาะหูคลอเคล้าให้บรรยากาศภายในงานน่าอภิรมย์ขึ้นเท่าตัว ผู้คนมากมายสนทนากันภายใต้หน้ากากแสนงาม ไม่เปิดเภยตัวตน ฉีกยิ้มแสนหวานและกล่าวคำยกยอปอปั้น ท่ามกลางความงดงามที่ถูกปรุงแต่งมีเพียงหนึ่งที่ขโมยสายตาของเขาเอาไว้ ดวงตากลมสีรัตติกาล ริมฝีปากรูปกระจับน่าจุมพิต แม้นไม่เปิดเภยใบหน้าก็งามแสนงามจนใจคนมองแทบจะหลุดออกจากอก -- กระนั้นก็ยังรักษาอาการ ชายหนุ่มแสร้งผินหน้าหนีดวงตาหวานล้ำนั้นไปทางอื่น ยามนี้ดอกไม้ไม่งดงามอีกต่อไปแล้ว
"เจ้าของงานอยู่ไหน"
เขาถามบริกรหนุ่มที่กำลังจะจากไป คำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
"รบกวนฝากไปให้เขาคนนั้นที"
"ใครครับ"
"ผู้ชายคนนั้นน่ะ สูทสีขาวกับหน้ากากสีทอง"
กุหลาบงามถูกยื่นให้พร้อมรอยยิ้ม ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกคาดหวังขนาดนี้มาก่อน ดวงใจที่เต้นระส่ำย้ำเตือนว่าจีมินถูกความงามใต้หน้ากากล่อลวงเข้าให้แล้วจริง ๆ รอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏขึ้นหลังจากได้รับยิ่งทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
ดวงตากลมเงยขึ้นสบกับเจ้าของกุหลาบในมือ ปรายตามองอย่างวางท่าทีก่อนจะเผยยิ้มหวานให้ได้ยล ราวดวงใจถูกหลอมละลาย พระเจ้าช่วย -- จีมินจะทำอย่างไรกับอาการเช่นนี้ ในตอนที่เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้อย่างเคย
ยามเมื่อโฉมงามแย้มยิ้มบุปผาก็ร่วงโรย มิอาจมีสิ่งใดงามเทียบเท่า ดวงตาสุกสกาวฉายแววซุกซนเมื่อเห็นว่าจีมินประหม่าเพียงใด
หากเป็นดังตำนานว่า ศรรักจากคิวปิดคงปักลงกลางใจเขาเสียแล้ว
เวลาล่วงเลยไปมากโขหากแต่จีมินยังหลงอยู่ในห้วงของความงามมิไปไหน ท่วงท่างดงามชดช้อย กังวานเสียงใสยามขบขัน ดวงตาหวานที่หยีลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยว -- ล้วนแล้วแต่งดงามเกินบรรยาย
ทว่ามีพานพบก็ต้องมีลาจาก งานเลี้ยงกำลังจะจบลง กายเขาแทบสิ้นแรงเมื่อแผ่นหลังนั้นกำลังจะลับสายตา
"คุณผู้ชายครับ" บริกรหนุ่มสะกิดเข้าที่ไหล่ เขายื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาให้ก่อนจะขอตัวออกไป
จีมินสูดหายใจเข้าก่อนจะเปิดจดหมายออกดู ดวงใจเจ้ากรรมก็พลันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
'หากคุณไม่รังเกียจได้โปรดมาเจอกันที่สวนกุหลาบ, ผมจะรอและหวังว่าคุณจะมา'
เนื้อความในจดหมายว่าเอาไว้อย่างนั้นพร้อมรอยประทับแสนหวานที่มุมกระดาษด้านหนึ่ง เขาไม่แน่ใจนักว่ารอยจุมพิตบางเบานั่นเป็นของเจ้าตัวแน่หรือไม่ กระนั้นจีมินก็ยังไปตามคำเชิญชวนในจดหมายที่ไม่มีแม้แต่ชื่อผู้เขียน
ราตรีเงียบสงัดไร้เสียงผู้คน สายลมพัดเอื่อยแทรกผ่านกิ่งไม้และใบหญ้า ดวงจันทราทอแสงสีนวลบนผืนฟ้าช่วยนำทางให้เขาในรัตติกาลอันมืดมิดนี้ กลิ่นหอมลอยล่องมาตามลมชวนให้เคลิบเคลิ้มยิ่งกว่าบทเพลงทั้งหมดทั้งมวล เพียงชั่วอึดใจเขาก็ได้พบกับคนที่เพิ่งจะบอกลากันไป (ในใจ) ชายหนุ่มนิรนามทว่าคุ้นเคยหันกลับมา ดวงตาหวานใต้หน้ากากยังคงมีเสน่ห์เหลือล้น
"ดีใจที่คุณมา"
เขาเอ่ยแผ่วเบา ในมือยังคงมีกุหลาบที่ได้รับมา
"เป็นเกียรติที่ได้รับคำเชิญจากคุณ"
"เต้นรำกันสักเพลงไหมครับ"
จีมินคิดว่าเขาคงถูกพิษรักแสนหวานเล่นงานเข้าให้แล้วยามจ้องมองนัยน์ตากลมคู่นั้น
โฉมงามแย้มยิ้มอีกหนเมื่อเห็นอาการเคอะเขินของชายหนุ่มแปลกหน้า เสียงหัวเราะเบา ๆ เป็นเหตุให้ใบหน้าใต้หน้ากากสีน้ำเงินกลายเป็นสีแดงซ่าน จีมินกระแอมไอก่อนจะค้อมตัวลง ยื่นฝ่ามือไปข้างหน้า มืออีกข้างไพล่หลังเอาไว้ -- อากัปกิริยาเป็นจริงเป็นจังสวนทางกับพวงแก้มที่แดงปลั่งนั้นเสียเหลือเกิน
"หากไม่รังเกียจได้โปรดเต้นรำกับผมสักเพลง.."
เมื่อฝ่ามือสอดประสาน ดวงตาทั้งคู่จ้องมองกันภายใต้แสงจันทรา ความเหน็บหนาวของค่ำคืนทำให้เราทั้งคู่มีที่ว่างระหว่างกันลดน้อยลง ช่างเป็นค่ำคืนที่แสนวิเศษ -- แม้ความจริงที่ว่าหากผ่านพ้นคืนนี้ไปเราทั้งคู่จะกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้าต่อกันจะทำให้เขาเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม
บทเพลงขับกล่อมเราทั้งคู่ ดวงใจชายหนุ่มยังคงเต้นแรง
ริมฝีปากรูปกระจับขยับเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา ฝากคำบางคำผ่านสายลมเอื่อย ไม่มีผู้ใดหยั่งรู้บทสนทนาระหว่างเขาทั้งสองแม้กระทั่งเทพแห่งสายลมก็ตาม
จีมินยิ้มรับคำ ขยับใบหน้าเข้าหาโฉมงามผู้เดียวในใจเขา ริมฝีปากรูปกระจับประทับรอยจุมพิตลงบนพวงแก้มสีระเรื่อ แผ่วเบาทว่าตราตรึง หวานล้ำและขมปร่า
โฉมงามยังคงสวมหน้ากากเอาไว้ ดวงตาหวานช้อนขึ้นสบตาชายนิรนาม
"หวังว่าเราจะได้พบกันอีก"
"แน่นอน..แน่นอนครับ"
ครั้งสุดท้ายก่อนจากลา โฉมงามมอบจุมพิตที่ปลายนิ้วให้กับเขา พัค จีมินอยากจะล้มลงตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เหตุใดพระเจ้าจึงสรรสร้างมนุษย์ผู้นี้ขึ้นมาได้งดงามและร้ายกาจอย่างน่าใจหาย เหตุใดโชคชะตาจึงไม่ยอมให้เราได้พบกันโดยปราศจากหน้ากากบดบังใบหน้า หากเป็นเช่นนั้นเราคงไม่ต้องลาจากกัน
-- แต่โฉมงามจากไปแล้ว พร้อมดวงใจของเขา
และไม่มีวันย้อนกลับมา..
thx. for my lovely readers ♡.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in