เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Elliot’syayee_prsp
1

  • ครั้งที่แล้วเราได้แต่แนะนำตัวกัน ครั้งนี้บล็อกนี้จะเหมือนไดอารีของผมมากขึ้นแล้วนั่นคือเป้าหมายคุณใช่ไหมล่ะ? เข้ามาอ่านชีวิตวันนึงๆของใครสักคน

    เอ๊ะ มันฟัง – ผมหมายถึง –อ่านแล้วดูเหมือนผมประชัดประชันหรือเปล่า เพราะผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลย สาบาน ผมดีใจมากๆเลยที่คุณสนใจชีวิตของเด็กคนหนึ่ง จนมาเปิดอ่านอีกครั้ง ขอบคุณนะครับ

    เริ่มกันเลย – วันนี้เป็นวันเสาร์ ผมเลยไม่จำเป็นต้องไปเรียน เกร็กชวนผมไปร้านหนังสือเพราะเขาสนใจหนังสือเล่มหนึ่ง- หรือสองเล่ม - ก็เลยจะไปหาซื้อ ผมเอง – ผู้ซึ่งไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว– ก็ตระหนักได้ว่าการได้ออกไปข้างนอกก็คงไม่แย่ ก็เลยตอบตกลงไป 

    (เกร็กใช้ผมขับรถอีกแล้ว หมอนั่นไม่เคยคิดจะขับเองเลย ให้ตายผมไม่ใช่คนขับรถส่วนตัวเสียหน่อย)

    ร้านที่เราไปเป็นร้านขนาดใหญ่ในห้าง ส่วนตัวผมชอบร้านเล็กๆมากกว่า แต่เกร็กยืนยันว่าร้านใหญ่มีโอกาสพบหนังสือที่เขาต้องการมากกว่า ผมอยากจะก่นด่าเขาเพราะห้างในวันเสาร์รถติดจะตาย แต่เอาเถอะ ถ้าเขายืนยันแบบนั้นผมก็คงจำต้องทำ สุดท้ายก็ต้องวนรถไปสามรอบครึ่ง เสียเวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง

    เกร็กมีเป้าหมายที่แน่ชัด เลยรีบแจ้นไปที่ชั้นที่เขาต้องการทันที ตัวผมเองไม่มีอะไรที่สนใจเป็นพิเศษเลยเดินรอบๆร้านฆ่าเวลาระหว่างรอเกร็กหาหนังสือและจ่ายเงิน ผมไม่ใช่หนอนหนังสือหรอก ไม่เคยเพ่งสมาธิกับมันได้นาน ๆ ต่างกับเกร็กที่ขยันซื้อหนังสือแล้วก็อ่านมันจนจบ -- ผมเป็นประเภทที่ซื้อมาแล้วก็วางไว้ให้หนังสือจ้องผมมากกว่า สุดท้ายเมื่อเจอเรื่องน่าสนใจผมก็จะยืมเกร็กอ่านแทน ดีกว่าซื้อพวกมันมาแล้วปล่อยให้ออกซิเจนทำปฏิกิริยาจนเหลืองกรอบไปทั้งแบบนั้น (แถมช่วยประหยัดเงินด้วยล่ะ)

     

    ถึงอย่างนั้นผมก็ชอบการเดินดูหนังสือนะ ได้เดินไล่ตามชั้นหยิบมาเปิดผ่านๆบ้าง ผมชอบสัมผัสของกระดาษในมือ กลิ่นหนังสือจางๆที่ออกมาแล้วก็หมึกพิมพ์ที่ติดอยู่บนนั้น ผมชอบกวาดสายตามองลายเส้นอักษรที่เรียงตัวเป็นระเบียบ มันทำให้ผมรู้สึก - ไม่รู้สิ– รู้แค่ว่าผมรู้สึกบางอย่าง อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

    รู้แค่ว่ามันทำให้ผมสงบอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะความดูต่อเนื่องเป็นระเบียบของมันล่ะมั้ง? หรืออาจะเพราะผมรู้สึกว่า "นี่เป็นผลผลิตจากความคิดของใครสักคน มนุษย์คนหนึ่งนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ – หรือเครื่องพิมพ์ดีด หรืออาจจะเป็นกระดาษว่างเปล่ากับดินสอเก่าๆ - อยู่เป็นวัน เป็นเดือนหรือหลายปีด้วยซ้ำ! นั่งคิดถึงเรื่องเดียวซ้ำๆเรียงร้อยลำดับเหตุการณ์ ปะติดปะต่อตัวอักษรเป็นคำ และคำเป็นประโยคประโยคเป็นย่อหน้า ย่อหน้าเป็นหน้ากระดาษ และรวมไปเรื่อยๆจนเป็นหนังสือเป็นสิบเป็นร้อยหน้า" ถ้าคุณไม่รู้สึกว่ามันเจ๋งสุดๆผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว! ผมน่ะ แค่คิดว่าจะเริ่มเขียนอะไรสักอย่างก็คงท้อแล้ว

              (ไดอารีในบล็อกนี้ก็เหมือนกันฝากคุณผู้อ่านเดากันด้วยนะครับว่าผมจะเขียนไปได้ถึงไหน)

    เกร็กส่งข้อความหาผมว่าเขาจ่ายเงินอยู่ ผมถึงเดินออกไป หมอนั่นทำอะไรเร็วเสมอ ผมเห็นภาพเขาเดินฉับๆเข้าไปที่ชั้นเป้าหมาย ก่อนจะสาวเท้าต่อเร็วๆเพื่อไปคิดเงินโดยไม่ลังเลใดๆทั้งสิ้น ในขณะที่ผมจะชอบเดินดูของไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ได้สิ่งที่เกินจากลิสต์มาเป็นประจำ(ไม่รู้สึกผิดหรอกนะครับ)

    ผมเดินออกไปรอเขาที่นอกร้าน เพราะผมเริ่มสนใจหนังสือบนชั้นไปแล้วอย่างเมื่อกี้ (– ผมแอบลองอ่านหนังสือเล่มหนึ่งดู รู้สึกจะเป็น The Firm ของ John Grisham ผมไม่รู้จักตัวผู้เขียนหรอก แต่เบ็ตตี้ เพื่อนในกลุ่มผม เป็นคนชอบอ่านนิยายแนวสืบสวน เธอเคยบอกกับผมว่ากริชแฮมเขียนหนังสืออกมาได้สนุกทีเดียว ถึงแม้จะมีบางจุดที่เธอขัดใจ เช่น เธอใช้คำว่าอะไรนะ... การ objectify ผู้หญิงในเรื่อง -- ประมาณว่าเขาเขียนถึงร่างกายของผู้หญิงในเรื่องมากจนดูเหมือนพวกเธอมีหน้าที่เป็นแค่ตุ๊กตาสวย ๆ แต่เธอก็เสริมว่ามันมีแค่บางจุด และผู้หญิงในเรื่องก็ฉลาดและเก่งมากด้วย ผมก็เลยเริ่มสนใจขึ้นมา อาจจะเพราะผมชอบแนวสืบสวนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย –) ดังนั้นผมจึงรีบเดินออกก่อนจะเผลอพาหนังสือนั่นกลับบ้านกับผมไปด้วย

     

    เกร็กเดินเข้ามาหาผมพร้อมหนังสือสองเล่มในมือ TheFall และ The Stranger ของ AlbertCamus ผมถามเขาไปว่าพวกมันเกี่ยวกับอะไร เพราะผมเคยเห็นชื่อ TheStranger จากในเรื่อง The Perks Of Being a Wallflower มาก่อน (หนึ่งในหนังสือไม่กี่เรื่องที่ผมอ่านจบ) เขาตอบมาว่าเขาก็รู้เท่าที่คำโปรยด้านหลังหนังสือบอกนั่นล่ะ และที่ซื้อมาเพราะได้ยินมาว่าเป็นหนังสือแนวปรัชญาที่ดี แถมเพื่อนสนิทที่เรียนวิชาวรรณกรรมด้วยกันก็แนะนำมาอีกทีด้วย เขาก็เลยลองซื้อมา 

    ยอมรับว่าผมแอบเบ้หน้าเมื่อได้ยินคำว่าปรัชญา แต่พอลองหยิบ (อ่านว่า: ดึงออกมาจากมือเกร็ก) มาเปิดอ่านดูก็พบว่ามันดูอ่านง่ายกว่าที่คิดมากๆ การบรรยายของทั้งสองเรื่องเป็นแบบง่ายๆ เหมือนผมกำลังอ่านบันทึกของตัวเอกอยู่เท่านั้น ผมสนใจอยากอ่านขึ้นมาจริงๆ สงสัยผมจะต้องยืมหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในรอบหลายเดือนซะแล้ว

     

    ก่อนกลับบ้านเกร็กชวนผมไปซื้อเทคเอาท์ที่แมคโดนัลด์ไดรฟ์ทรู ผม – ชายที่ซื่อสัตว์ต่อเคเอฟซีมาตลอด - เบ้หน้าอีกรอบ แต่ก็ขับไปตามคำสั่ง ผมไม่ชอบขัดใจเกร็ก - หรือขัดใจใครทั้งนั้น คาร์เมนมักบ่นเรื่องนี้บ่อย ๆ บอกว่าผมควรยืนหยัดเพื่อตัวเองบ้าง แต่ผมยังไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้นนี่ เรื่องแบบนี้ยอมได้ผมก็ยอม มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเอง

     

    (อีกย่างเกร็กเป็นคนเลี้ยงดับเบิลชีสเบอร์เกอร์ผม ผมเป็นสาวกเคเอฟซีก็จริง แต่ผมจะไม่ปฏิเสธเบอร์เกอร์ฟรีหรอกนะ)

     

    พวกเรากลับถึงบ้าน เดินเข้าไปผมทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วหยิบมือถือออกมาเล่นอย่างสบายใจ มิสฟิซเซิลกระโดดขึ้นมาทับตัวผม ถูไถหน้าของเธอกับแก้ม ผมหัวเราะหนักจนสำลักขนสีขาวของเธอ เคราะห์ดีที่มิสฟิซเซิลไม่กระโดดลงไประหว่างที่ผมกำลังไอราวกับคนเป็นโรคหลอดลมเรื้อรัง (อย่างที่บอก เธอรักผม) เกร็กหันขวับทันทีที่ได้ยินเสียงไอแบบคนใกล้ตายของผม ก่อนจะหรี่ตาอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นมิสฟิซเซิล และดูเธอก็ไม่ชอบใจเขาเช่นกัน

     

    คาร์เมนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้านิ่งๆแบบที่คุณคงจะเรียกได้ว่า ‘Resting Bitch face’ ประมาณว่าสีหน้าที่ดูไม่พอใจใครสักคนตลอดเวลานั่นล่ะ เธอยกขาผมขึ้น นั่งแหมะลงบนพื้นที่โซฟาที่ว่าง ก่อนวางขาผมลงเหมือนเดิมเธอชอบทำแบบนี้เสมอ – คาร์เมนจะไม่บอกให้คุณลุก หรือขยับออกไปแต่จะจัดการสร้างพื้นที่ให้ตัวเองได้ตลอด

     

    เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น:

              คาร์เมน “เอลเลียต”

              ผม “หืม?”

               คาร์เมน “เบอร์เกอร์ฉันล่ะ”

                      

                       โอ้ใช่ นั่นเป็นเหตุผลที่เกร็กสั่งให้ผมไปแมคโดนัลด์นี่เอง

     

                       และใช่ครับคาร์เมนงอนผมไปแล้ว สิ่งที่ผมต้องทำก็คือการขับรถออกไปเพื่อซื้อเบอร์เกอร์ให้เธอนั่นเอง และใช่ครับ เกร็กไม่ยอมไปกับผมด้วย โชคดีที่ผมง้อเธอได้ด้วยเบอร์เกอร์และแม็คนักเก็ตของโปรดเจ้าตัว

     

                       ถึงเกร็กถ้านายอ่านบันทึกนี่อยู่ ฉันขอให้มิสฟิซเซิลไปปลุกแกด้วยกงเล็บอันงดงามของเธอตลอดทั้งสัปดาห์

     

    เอลเลียต บี

    14/12/xxxx

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in