เมื่อพูดถึงบางลำพู บางคนอาจจะนึกถึงร้านขายเสื้อผ้า   ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี   ตรอกข้าวสาร แล้วคุณล่ะ เมื่อพูดถึงบางลำพู  คุณนึกถึงอะไร
ฉันได้เดินทางไปกรุงเทพฯ เหมือนดังเช่นทุกปี  ครั้งนี้ก็เช่น ฉันได้ไปเที่ยวสถานที่ที่หนึ่ง นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์บางลำพู พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์  เช่นเคย ทุกครั้งที่ไปกรุงเทพฯ คู่เที่ยวของฉันก็คือคุณแม่ เราหลงทางเดินวนอยู่นานวั  พร้อมถามทางไปเรื่อยๆว่า จะไป พิพิธภัณฑ์บางลำพูอย่างไร  แต่พบกับคำถามกลับมาว่า บางลำพู มีพิพิธภัณฑ์ด้วยหรอ  เล่นเอา คนถาม งง เสียเอง เราเดินไปเรื่อยๆข้ามถนนพระสุเมรุ  เรียกว่าเหนื่อยมาก   พอเดินมาเรื่อยๆ อ้าว    เราก็ต้องหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง  เมื่อเหลือบไปเห็นป้อมประสุเมรุอยู่ ไม่ไกล พอเห็นป้อมพระสุเมรุแล้วทำให้ฉันนึกออกทันที จำได้ว่า พิพิธภัณฑ์บางลำพูอยู่ใกล้ป้อมพระสุเมรุ
       พิพิธบางลำพู หรือพิพิธภัณฑ์บาลำพู   แบ่งเป็นสองอาคาร คือ  อาคารปูน และอาคารไม้  บริเวณชั้นหนึ่งของอาคารนี้ เราสามารถชมได้ตามอัธยาศัย   มีการจัดแสดงนิทรรศการ เกี่ยว กำแพงเมือง  นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับประตูเมือง คูเมือง และป้อมทั้ง 14 ป้อมในกรุงเทพฯ  ในสมัยก่อน  ในส่วนขอวออาคารไม้  ต้องมีเจ้าหน้าที่นำชม  ฉันกับแม่นั่งรออยู่ไม่นาน ก็มีคนอื่นๆเข้ามาเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงเวลาชมนิทรรศการ  วิทยากรจะเรียกเราเราไปรวมกันที่หน้าเคาเตอร์  วิทยากรที่นี่จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นั่นก็คือจะใส่ชุดไทย ซึ่งไม่เหมือนที่อื่น
        ไม่นานวิทยากรก้นำเราขึ้นไปยังชั้นที่สอง ชั้นนี้จะแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับกรรมธนารักษ์ ก่อนจะข้ามไปยังอาคารไม้   เมื่อข้า ไปในอาคารนี้แล้ว เราก็จะได้พบกับตัวการ์ตูน ที่มีชื่อว่า “ ตาดำ”  มาทักทาย และบอกให้ตามหาขุมทรัพย์บางลำพูให้เจอ  เมื่อเดินผ่านโซนแรกไป จะพบกับ มุม สีสันบางลำพู ที่พูดถึง แหล่ง กิน เที่ยว ช้อป ในอดีต ของย่านนี้  ระหว่างที่เดินดูร้านค้าจำลองอยู่นั้น แม่ของฉันก็พูดขึ้น  ว่าของที่เห็นในร้านค้าจำลอง แม่เคยเห็นหมด  ตั้งแต่แม่อายุ 20 ปี  ทำให้แม่นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่เคยมาย่านนี้   

 แม่บอกว่า ร้านเก่าๆที่เขาจำลองมาให้ชมนั้น แม่เคยเห็นหมด   ทั้งร้านรองเท้าแก้วฟ้า   แม่บอกว่าแม่เคยวื้อรองเท้าร้านนี้   ร้านขายชุดนักเรียนสมใจนึก  ที่แม่แบอกว่า ใครๆเมื่อใกล้เปิดเทอมใครๆก็ต้องมาซื้อ รวมถึงแม่ด้วย น้ำหอม4711  ที่แม่บอกว่าแพงมากๆ   ไม่มีปัญญาซื้อ ทำให้ฉันคิดว่าแม่คือวัตถุโบราณ ดีๆ นี่เอง   หลังจากนั้นเราก็ข้ามสะพานเหล็กมายังโซนพระนครเซ็นเตอร์ ก็จะได้พบกับรถรางสีเหลือง และมุมต่างๆ ให้เราได้เซลฟี่   เช่น  โรงภาพยนตร์ในสมัยก่อน เป็นต้น     ไม่นานพวกเราก็เข้าไปดูภาพยนตร์ ในโรงภาพยนตร์จำลอง ที่มีโปสเตอร์ อินทรีแดงติดอยู่ ในโรงภาพยนตร์นี้ จะนำภาพยนตร์เก่าๆ ที่นำแสดงโดย คุณมิตร ชัยบัญชา และคุณเพชราเชาวราช มาฉาย   

         หลังจากนั้นเราก็เดินมาถึงโซน ย่ำตรอกบอกเรื่องเก่า ในโซนนี้ทำให้เรารู้จัก ชุมชนต่างๆเช่น   ตรอก เขียนนิวาส  ตรอกไก่แจ้ ชุมชนมัสยิดจักรพงษ์  ชุมชนวันสังเวช ร้านธงวันชาติ  บ้านดุริยางคประณีต  เราเดินชมโชนนี้อยู่พักใหญ่ ก็มาถึงโซนสุดท้าย ถิ่นคนดีศรีบางลำพู  และในโซนนี้เองเราจะได้พบกับต้นลำพูต้นสุดท้ายแต่เสียดายที่มันตายไปเนื่องจาก เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อมี 54  เพื่อที่ระลึกต้นลำพุเคยอยู่แถวนี้ จึงจำลองต้นลำพูไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้  จุดนี้เป็นจุจุดหนึ่งที่ผู้เข้าชมชอบกันมาก ได้บรรยายกาศที่มีหิ่งห้อยบินส่องแสงระยิบระยับ  ตรงนี้วิทยากรจะให้เรานำมือถือไปส่องที่ต้นลำพูก็จะเห็นหิ่งห้อยอยู่รอบๆต้นลำพู  หลังจากชมนิทรรศการในชั้นบนเรียบร้อยแล้วเราก็เดินมาชมด้านล่างบ้าง โดยชั้นล่างนี้เป็นห้องสมุดบาลำพู  หลังจากได้ชมนิทรรศการในครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่า ในอดีตชุมชนบางลำพูเป็นอย่างไร  และทำให้ผู้ชมที่อยู่วัย 50+ จะชอบเพราะ เหมือนกับได้มาระลึกเหตุการณ์ในอดีต
       สำหรับการเดินทาง เราสามารถใช้บริการรถเมล์ สาย 3, 6, 9, 30, 32, 33, 53, 64, 524 หรือเรือด่วนเจ้าพระยา มาขึ้นที่ท่าพระอาทิตย์ หรือจะนั่งสาย  509  56  ก็ได้
ค่าเข้าชม  

 ผู้ใหญ่  30 บาท    เด็ก 10  บาท     ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้พิการ ฟรี