หลังจากเห็นกระแสจักรวาลซีรี่ส์ของมาร์เวลในเน็ตฟลิกซ์มาตั้งนาน ก็เพิ่งจะได้เริ่มดูจริงจัง ซึ่งในทางเทคนิคแล้วก็ควรจะเริ่มดู Daredevil ก่อน แต่ตอนแรกง่วงมากจนโดนดองยาว จนมีเหตุให้ไหนลองดู Jessica Jones ตัดหน้าไปเลยแล้วกัน ก็ซัดตั้งแต่ตอนแรกจบ 13 ตอนภายในไม่กี่วัน จนตอนนี้เชื่อแล้วว่าซีรี่ส์เซ็ตนี้มันดีอย่างที่เค้าพูดกันจริงๆว่ะ
เรื่องราวจะดำเนินด้วยตัวละครหลักที่มีชื่อว่า Jessica Jones นักสืบเอกชนกร้านโลก ปล่อยรังสีอัมหิตใส่คนรอบตัวตลอดเวลา ที่มีอดีตคอยตามหลอกหลอนตลอดเวลาจนทำมาหากินไม่ค่อยจะได้ ต้องนั่งท่องชื่อถนนวนไปวนมา ซึ่งอดีตที่ว่าเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่ชื่อ Kilgrave หรือมีอีกชื่อเรียกในคอมมิคก็คือ Purple Man เป็นต้วร้ายที่มีความสามารถในการสั่งอะไรใครก็ได้ผ่านฟีโรโมน ส่วนต้วของ Jessica นั้นมีพลังพิเศษซึ่งก็คือแรงเยอะกว่ามนุษย์ทั่วไป ในระดับที่สามารถจับผู้ชายโยนได้ด้วยมือเดียว แต่หนังไม่หนากันกระสุนไม่ได้ เพราะไม่ได้มาจากดาวคริปตัน ปัญหามันก็อยู่ที่ว่า Kilgrave มันกลับมาตามหลอกหลอนอีกครั้ง แล้วก็สร้างความวินาศสันตะโรกับชีวิตคนมากมายรวมทั้งตัว Jessica เอง ให้เราได้เห็นกันในเรื่อง
มาที่ตัวนักแสดงก่อน สำหรับตัว Jessica นั้นรับบทโดย Krysten Ritter ที่ผู้เขียนไม่รู้จักงานไหนมาก่อนเลย จะมีก็แต่ซิทคอมเรื่อง Don't Trust the B---- in Aparment 23 แน่นอนว่าก็ต้องเล่นบทคอเมดี้ ที่มีความห่างไกลจากบท Jessica ชนิดที่ว่าคนละโลก
ส่วนอีกตัวละครผู้ก่อเรื่องทั้งหมด หรือก็คือ Kilgrave นั้น รับบทโดย David Tennant ที่คนจะรู้จักกันเยอะๆกับบท The Doctor คนที่ 10 จาก Doctor Who กับฉาก Don't blink ในตำนาน
และมีอีกบทที่ตอนเด็กๆก็ดูกันแต่คนไม่ค่อยรู้ ก็คือ Barty Crouch Jr. ในแฮร์รี่ภาคถ้วยอัคนี
VIDEO
Kilgrave จะเป็นตัวร้ายที่พูดสำเนียงบริทิช และใส่สูทสีม่วง ทำให้ดูเป็นต้วร้ายที่แบบโห มันมีคลาสว่ะ และ Tennant ก็เล่นดีมากกกกกกก จนอยากไปตามดูงานเก่าๆให้หมด
ซึ่งได้แก่ Broadchurch เดี๋ยวค่อยเขียนทีหลัง และในเรื่องยังมีตัวละครอีกเยอะแยะมากมาย ที่บางคนก็คุ้นหน้าบ้าง ไม่คุ้นหน้าบ้าง ซึ่งเรื่องค่อนข้างกระจายบทโอเค สำหรับตัวละครที่ควรจะได้รับบท จะมีบ้างก็บางตัวที่ตอนแรกเห็นหน้า มาแป๊บเดียวแน่ๆ ตัวประกอบแน่ๆ ก็อยู่ดีๆได้บทเยอะจนน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกับเส้นเรื่องหลักเกิดความเสียหายจนดูไม่สนุก
ดูแล้วเป็นยังไง:
ตัวซีรี่ส์มีความดาร์คระดับรุนแรงมาก ถ้าคนที่ติดภาพจากหนังมาร์เวลมาก็อาจจะเกิดความเหวอได้ ฉากบู๊น้อยมากไม่ต้องคาดหวัง ปมในเรื่องค่อยๆคลายทำให้อยากรู้ตลอดเวลาว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องจะดำเนินแบบหนังสืบสวนนัวร์ๆ ตัวเรื่องและประเด็นต่างๆจะเล่นกับสภาพจิตใจของตัวละคร อย่างพวกศีลธรรม ความถูกต้อง และด้วยความที่ไม่ได้ฉายบนทีวี ฉากรุนแรงก็เลยค่อนข้างเห็นกันชัดๆ แผลเป็นแผล เลือดเป็นเลือด อาจมีผลสำหรับผู้จิตใจเปราะบางทางสื่อ เรื่องนี้จะไม่ค่อยมีฉากให้พักตับเท่าไร ยกเว้นฉากเซ็กซ์อันดุเดือด จะมีบางฉากที่ไม่แน่ใจว่าต้องการให้ขำหรือเปล่า เพราะเรื่องมันเครียดจนไม่กล้าขำออกมา กลัวเสียมารยาท
อีกประเด็นที่สำคัญก็คือ Kilgrave เป็นต้วร้ายที่น่ากลัวมาก ไม่เคยกลัวตัวร้ายในหนังเรื่องไหนมาก่อน จะมีก็แต่กองทัพเอเลี่ยนในเอเลี่ยนภาค 2 เพราะด้วยพลังที่สั่งอะไรกับใครก็ได้ และตัวมันเองก็เป็นโรคจิต ทำให้คำสั่งแต่ละอันจะค่อนไปทางฟัคอัพซะส่วนมาก แต่เป็นตัวร้ายที่มีมิติ มีที่มาที่ไปของตัวละคร ผิดจากตัวร้ายมาร์เวลบางตัวที่เดินดุ่มๆมาจากไหนไม่รู้แล้วก็โดนกระทืบตาย จนตอนนี้เป็นอีกตัวร้ายที่จะเกลียดก็เกลียดไม่ลง
โดยรวมเป็นซีรี่ส์ที่สนุกมาก อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ในแง่ของการเป็นซีรี่ส์ฮีโร่ที่มีฉากบู๊แสดงแสนยานุภาพกัน ยิงปืน ยิงธนู ยิงเลเซอร์ออกจากตา หรือดูเอาสะใจเพื่อความบันเทิง แต่มันเป็นซีรี่ส์เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องแนวหม่นๆ ดูไปกุมหัวไป เอามือทาบหน้าอกไป ไม่ผิดหวังแน่นอน
ตัวอย่างนิดนึง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in