รับรู้...
"เมนูวันนี้เป็น ข้าวผัดอเมริกัน ไข่ม้วน ไส้กรอกและมีผักเป็นเครื่องเคียงด้วยนะครับ" ผมเปิดฝาข้าวกล่อง พร้อมแนะนำเมนูตรงหน้าให้ร่างสูงที่่กำลังมองข้าวกล่องอย่างสนใจ ฮ้าาา มันสุขใจจริงๆนะครับ เวลาเห็นคนที่เราชอบสนใจกับสิ่งที่เราพยายามทำให้ เค้าไม่ได้มีท่าทีเฉยชาหรือรับความตั้งใจของผมอย่างขอไปที แต่พี่ภูดูสนใจความ"พยายาม"ของผมจริงๆ
"อื้มมม อร่อยเหมือนเดิมเลยนะปัน ถ้าปันทำอาหารให้พี่กินทุกวัน พี่คงต้องกลิ้งไปเรียนแน่ๆ" พี่ภูเอ่ยหลังจากเคี้ยวจนหมดคำ ที่จริงผมตั้งใจไว้ว่าจะทำให้พี่มันกินทุกวันแต่ตารางเรียนมันไม่เป็นใจและอีกอย่างก็กลัวพี่มันจะเบื่อรสมือผมไปซะก่อน เลยทำให้อาทิตย์ละสามวันเท่านั้น อีกสองวันผมก็ไปเจอพี่ภูที่ผับ ส่วนอีกสองวันที่เหลือ ผมให้เวลาพี่มันไว้คิดถึงผมครับ เป็นไงละแผนพิชิตใจเสือ แต่อย่าถามถึงความคืบหน้าครับ พี่ภูยังเดินควงสาวสวยไม่ซ้ำหน้า บางทีก็หิ้วคนกลับจากผับบ้าง ไม่ใช่ไม่เจ็บนะครับ แต่รู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์ เพราะยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มัน ก็แน่ละผมยังไม่ได้บอกชอบพี่ภู แต่เอาจริงๆ มองมาจากดาวอังคารก็รู้ป่ะครับ ว่าผมจีบพี่มันอยู่ ก็จะมีผู้ชายที่ไหนที่คอยทำข้าวกล่องมาให้ แถมยังขยันส่งข้อความไปฝันดีทุกคืนให้กับผู้ชายด้วยกันล่ะครับ แถมเวลาเจอหน้าก็ยิ้มให้อย่างกับแป๊ะยิ้มตลอดเวลา หรือพี่มันจะไม่รู้จริงๆวะ ผมเริ่มชักไม่แน่ใจซะแล้วสิ คงต้องบอกพี่มันให้รับรู้ซะที !!!
"พี่ภูครับ ตอนนี้พี่โสดอยู่รึเปล่าครับ" ผมเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ภูกินจนหมดแล้ว ต้องถามสถานะพี่มันก่อนครับ ถึงจะสืบมาแล้วแต่ก็ขอชัวร์ไว้ดีกว่า แต่เท่าที่ผ่านมาหลายเดือนที่ผมคอยส่งข้าวส่งน้ำ ก็ไม่เคยเห็นพี่มันควงใครเกินสามวัน ทำให้ผมตีความเอาเองว่าพี่มันโสด
"แล้วปันคิดว่าไงล่ะ ?" พี่มันตอบคำถามด้วยคำถาม ว้อยยยยยยย เล่นตัวนักนะ
"คิดว่ายังไม่มีแต่อยากฟังจากปากพี่มากกว่า ปันไม่อยากคิดไปเองอะครับ"
"แล้วปันอยากรู้ไปทำไมล่ะ" ยังครับพี่มันยังไม่ตอบแถมยังมาถามผมกลับอีก
"คำตอบผมขึ้นอยู่กับคำตอบที่พี่จะตอบผมครับ" ผมไม่ยอมแพ้หรอก กวนมากวนกลับไม่โกงครับ
"ฮะๆๆ พี่ตอบก็ได้ ตอนนี้พี่โสดครับถึงปันจะเห็นว่าพี่เดินอยู่กับใคร หรือพาใครกลับห้องด้วยไม่ได้หมายความว่าพี่คบกับคนพวกนั้นหรอกนะ" พี่มันตอบพร้อมส่งรอยยิ้มกลับมา รอยยิ้มแบบที่ไม่สามารถหลบสายตาไปได้ มันช่างดึงดูดและดูเหมือนจะเชื้อเชิญให้อยากขยับเข้าไปใกล้เหลือเกิน ก่อนที่สติผมจะหลุดไปเพียงเพราะว่าพี่มันยิ้มให้ ผมก็ดึงสติตัวเองกลับมาซะก่อน
"แล้วพี่รู้มั๊ยครับว่าทำไมผมถึงคอยส่งข้าวส่งน้ำและพยายามไปเจอหน้าพี่อยู่ทุกวัน ตลอดเวลาหลายเดือนนี้"
"หึหึ คิดว่าพี่โง่หรอปัน ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าปันน่ะชอบพี่"
"พี่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ล่ะ ล่ะ แล้วพี่ไม่รังเกียจเหรอ"
"อืมมม ก็คงตั้งแต่ปันทำข้าวกล่องให้พี่มั้ง ผู้ชายทำข้าวกล่องให้กัน มันแปลกๆว่ามั๊ย เป็นใครก็คิดอยู่แล้วแถมปันยังหน้าแดงเวลาพี่ยิ้มให้อีก ส่วนรังเกียจมั๊ย ก็ไม่นะ ปันอาจจะไม่รู้พี่น่ะไม่ได้คบแค่ผู้หญิงหรอก และปันไม่ได้เข้าหาพี่แบบน่ากลัว แถมฝีมือทำข้าวกล่องก็อร่อยจนพี่ปฏิเสธไม่ลงเลยล่ะ"
"ขอบคุณนะครับยอมให้ผมได้เข้ามาทำความรู้จักพี่ผมน่ะ แค่รู้ว่าพี่ไม่รังเกียจก็ดีใจมากแล้ว "
"ถ้างั้นพี่ขอถามปันได้มั๊ยทำไมถึงชอบพี่ละ เพราะหน้าตารึเปล่า" พี่มันถามพร้อมสบตาผมพี่ภูคงคิดว่าผมก็คงหลงใหลรูปร่างหน้าตาของพี่มันไม่ต่างจากคนอื่นๆ
"ปันไม่ปฏิเสธหรอกนะ ว่าชอบหน้าตาพี่เป็นอันดับแรก ก็มันเป็นสิ่งแรกที่เราจะเห็นได้จากคนๆนึง แล้วใช้สิ่งนั้นตัดสินใจว่าอยากจะทำความรู้จักเค้าต่อไม่ใช่เหรอครับ แต่พอได้มาทำความรู้จักได้พูดคุยกับพี่ภูมากขึ้น ปันว่าพี่เป็นคนดี พี่ไม่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็ถ้าเป็นคนอื่นผมอาจจะโดนเตะไปแล้วก็ได้ที่มาป้วนเปี้ยนใกล้ตัวแบบนี้ และพี่ก็มีน้ำใจ หลายครั้งที่ปันเห็นพี่ช่วยเหลือคนอื่น โดยที่เค้าไม่ได้ร้องขอ ปันเคยเห็นพี่ช่วยป้าแม่บ้านที่โรงอาหารยกจานที่ใช้แล้วไปเก็บ เห็นพี่ช่วยลุงภารโรงเข็นรถที่จอดขวางทางทั้งที่บางคนเดินผ่านไปด้วยซ้ำ แต่พี่ก็จะยื่นมือไปช่วยทุกครั้งที่ทำได้ ภาพลักษณ์พี่อาจจะดูเอื้อมไม่ถึง แต่การกระทำของพี่มันดูราวกับว่าพี่ก็เป็นคนธรรมดาที่มีน้ำใจมากๆคนนึง และทุกอย่างๆที่เป็นพี่มันทำให้ปันบอกได้เต็มปากว่า ปันชอบพี่ภูจริงๆนะครับ"
พี่ภูดูอึ้งเมื่อได้ฟังที่ผมบอก นั้นคือความรู้สึกจริงๆของผมที่ไม่เคยได้บอกใคร แม้แต่ไอ้เพื่อนสนิทสามคนนั้น พวกมันคงคิดว่าผมหลงเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของพี่มันแต่ผมไม่เคยได้บอกไป ว่าจริงๆแล้วชอบพี่ภูเพราะอะไร ผมไม่ได้อยากให้คนอื่นได้รู้ นอกจากคนตรงหน้าเท่านั้น และตอนนี้เค้าก็ได้รับรู้ความรู้สึกของผมแล้ว แต่ผมไม่อยากรีบร้อน ร้องขอให้พี่มันตอบกลับความรู้สึกที่ผมให้ไป แค่วันนี้ได้รู้ว่าพี่ภูก็รับรู้ถึงความพยายามที่ผมส่งไป เท่านี้ก็ดีใจมากแล้วครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in