“แม่ครับ คนดีกลับมาแล้ว” เสียงตะโกนของ คนดี ลูกชายคนเดียวของฉันที่ตอนนี้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว วันนี้เจ้าลูกชายตัวแสบบอกว่าคุณครูนัดไปรับใบปพ.1
“มาแล้วเหรอครับคนดี ที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง” ฉันเอ่ยถามออกไปเพราะลูกชายตัวดีนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟาราวกับกำลังแบกโลกไว้ทั้งใบ ในมือกำลังถือกระดาษแผ่นหนึ่ง ฉันเดาว่าคงเป็นผลการเรียนที่ไปรับมาวันนี้เอง
ฉันลอบมองหน้าลูกชายที่เงียบมาสักพัก จมูกน้อย ๆ กำลังแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตใสนั่นกำลังมีน้ำคลอรอบดวงตา เพียงแค่วางมือสัมผัสบนไหล่ ลูกชายสุดที่รักก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่และร้องไห้โฮออกมา
“มากอดก่อนครับ” ฉันอ้าแขนรอลูกชายตัวดีเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดฉันกระชับกอดให้แน่นขึ้นพร้อมกับลูบหัวลูกชายเบา ๆ เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไรครับลูก คุณแม่อยู่ตรงนี้แล้ว
“คนดีอยากเล่าอะไรให้คุณแม่ฟังมั้ยครับ”
“แม่ครับ คนดีไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย” ลูกชายพูดเสียงสั่น
“แบบไหนที่คนดีไม่ชอบเหรอครับคนดีอธิบายให้คุณแม่ฟังได้มั้ยเอ่ย”
“คนดีไม่เก่งอะไรสักอย่างเลย ไม่มีเลย สู้ใครไม่ได้เลย” น้ำตายังคงไหลไม่หยุดลูกชายเม้มปากก่อนจะพรั่งพรูความกดดันในใจดวงน้อย ๆ ออกมาให้หมด “
“คนดีครับ” ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากที่เราทั้งคู่เงียบกันอยู่นานมีเพียงเสียงสะอื้นของลูกชายของฉัน ฉันลูบหลังเบา ๆ พลางพูดต่อไปว่า “
“แล้วทั้งหมดที่แม่เห็น คนดีของแม่ทำด้วยความตั้งใจเก่งที่สุดเลยครับ” ลูกชายตัวดีของฉันเบะปากจะร้องไห้โฮอีกรอบแล้ว “โธ่ ไอ้เด็กแสบของคุณแม่ ฝืนใจทำสิ่งที่ไม่ถนัดได้ขนาดนี้ คุณแม่แสนภูมิใจในตัวคนดีเลยรู้มั้ย”
“ฮึก ฮือออ คนดีเก่งมั้ยคุณแม่”
“เก่งที่สุดเลยครับ” ฉันเอ่ยพร้อมผละกอดออกจากตัวแสบ “ว่าแต่คนดีของแม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำมั้ยครับ”
“คนดีไม่รู้ มันเป็นความสุขที่ได้ทำ แต่พอคิดเปรียบเทียบกับคนอื่นทีไรก็พาลโกรธตัวเองทุกทีเลย แต่ตอนนี้คนดีจะไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครแล้ว คนดีเหนื่อยที่ต้องเสียใจ”
“ไม่ว่าอนาคตใครต่อใครจะเผลอพูดอะไรที่บั่นทอนจิตใจหรือมีใครเอาคนดีไปเทียบกับคนอื่น ขอให้คนดีของแม่มีความตั้งใจไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ” ลูกชายพยักหน้าเข้าใจ “คนพูดน่ะพูดไปไม่นานก็ลืมแต่คนฟังจำใส่ใจตลอด มันทรมานมากนะครับ ลูกเองก็อย่าไปพูดจาไม่ดีใส่คนอื่น ถ้าเราพูดอะไรดี ๆ ไม่ได้ก็ควรเงียบไว้ดีกว่า คนดีเข้าใจมั้ยครับ”
"เข้าใจแล้วววว” เจ้าลูกชายตัวแสบตอบรับเสียงใสแจ๋ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in