เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I LOVE NOT MAN THE LESS, BUT BOOKS MORE PT. IIรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว หลางตี๋ หมาป่าเหนือราชัน เล่ม 1-3
  • หลางตี๋ หมาป่าเหนือราชัน เล่ม 1-3
    ผู้เขียน : เหลียงฉาน
    ผู้แปล : Singin' in the Rain
    everY
    4 เล่มจบ

    *รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*

              ศรหลางตี๋ คือสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศและการยอมรับจากเป่ยหรงเทียนจวิน

              ครั้งหนึ่ง เฮ่อหลันเฟิง เคยปรารถนามันเพื่อลบคำเหยียดหยามจากฐานะลูกหมาป่าเกาซิน ทว่าเมื่อได้พบกับ จิ้นเยวี่ย องค์ประกันต้าอวี่ผู้ชีวิตพลิกผันกลายเป็นทาส รวมถึงอดีตอันยากลบเลือนของสกุลเฮ่อหลัน นับจากนั้นทั้งชีวิตและปณิธานของเขาก็เปลี่ยนไป...

              ศรหลางตี๋ดอกนั้นเฮ่อหลันเฟิงยังคงต้องการมัน มิใช่เพื่อให้ผู้ใดยอมรับ แต่เพื่อประกาศให้ใต้หล้าได้รู้ว่าชาวเกาซินยังคงอยู่ ทั้งยังมีอำนาจใช้มันได้อย่างเสรี และเพื่อให้ตนมีกำลังมากพอที่จะทำให้ความปรารถนาของจิ้นเยวี่ยเป็นจริง!


              ใครกำลังมองหานิยายวายขนาดกำลังพอดี ไม่ยาวไป ไม่สั้นไป เอาไว้อ่านช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีนี้ ขอแนะนำหลางตี๋เลยค่ะ

              บรรยากาศเล่มแรกเหมาะจะอ่านช่วงหน้าหนาวมาก (แม้ว่าตอนนี้มันจะไม่หนาวแล้วก็เหอะ 555) จะว่าไปหลางตี๋เป็นนิยายที่สายสงครามน่าจะชอบกัน แล้วธีมเรื่องมีความแตกต่างจากที่เราคุ้นเคยเล็กน้อย คือเรื่องนี้พระเอกเป็นชาวเผ่านอกด่าน ปกติเราจะคุ้นเคยกับเนื้อหาที่เขียนให้พวกนอกด่านเป็นศัตรู ตัวใหญ่น่ากลัวโหดเหี้ยม เรื่องนี้หยิบเอาหนุ่มนอกด่านเป็นพระเอก แถมชีวิตรันทดเสียด้วย

              หลางตี๋มีความ coming of age เบาๆ ตัวเอกทั้งสองได้พบกันในช่วงที่ขยับจากวัยเยาว์ก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ยังคงไร้เดียงสา มีความดื้อรั้น แต่ระหว่างทางก็ค่อยๆ เติบโตจากเรื่องราวทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต สุดท้ายคือการตั้งมั่นว่าจะทำตามสิ่งที่ตนหวังให้เป็นจริง เพื่อที่ในวันข้างหน้าทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกันเช่นนี้ไปอีกนานๆ

              ภูมิหลังตัวเอกทั้งสองของเรื่องนี้รันทดพอกัน เฮ่อหลันเฟิงเป็นเด็กหนุ่มเผ่าเกาซินผู้มีนัยน์ตาหมาป่า แม้เป็นพวกนอกด่านก็ยังถูกพวกนอกด่านด้วยกันรังเกียจอีกขั้นหนึ่งเพราะมีคำทำนายว่าพวกนัยน์ตาหมาป่าเป็นปีศาจร้าย เฮ่อหลันเฟิงกับพี่น้องของเขาจึงใช้ชีวิตมาอย่างไม่ง่าย ต้องขวนขวายดิ้นรนและถูกเด็กรุ่นเดียวกันรังแกอยู่บ่อยครั้ง

              ส่วนจิ้นเยวี่ยชีวิตอบอุ่นตั้งแต่เด็ก เป็นลูกแม่ทัพใหญ่ต้าอวี่ แต่ด้วยเรื่องการเมืองราชสำนักสุดท้ายก็ถูกส่งมาเป็นองค์ประกันไกลสุดหล้า ยิ่งไปกว่านั้นเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเขาก็ได้รู้ว่าบิดาตายตกในการรบ ครอบครัวแตกกระสานซ่านเซ็นในชั่วข้ามคืน เหมือนกันกับที่ตนเปลี่ยนฐานะจากองค์ประกันมาเป็นทาสในกระโจมของเฮ่อหลันเฟิง

              แต่เด็กหนุ่มทั้งสองเหมือนสหายรู้ใจกัน เฮ่อหลันเฟิงปฏิบัติต่อจิ้นเยวี่ยอย่างดี ในขณะที่ฐานะของเฮ่อหลันเฟิงค่อยๆ ขยับขึ้นจากผลงานการรบของพี่ชายอย่าง เฮ่อหลันจินอิง จิ้นเยวี่ยก็พยายามหาหนทางที่จะกลับต้าอวี่โดยตลอด เพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่าแท้จริงแล้วเบื้องหลังการตายของบิดานั้นมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่

              ยอมรับว่าตอนอ่านมองไม่เห็นทางเท่าไหร่ว่าทั้งคู่จะฟันฝ่าอุปสรรคไปยังไงเพราะหนทางดูมืดมนมากจริงๆ และตอนอ่านเรื่องย่อเข้าใจว่าจำเลยรักซะอีก สรุปไม่ใช่ เฮ่อหลันเฟิงดูแลจิ้นเยวี่ยดีมากกก ใจอ่อนมากๆ แม้พฤติกรรมบางอย่าง (โดยเฉพาะในเล่ม 2) จะทำเอาเราเท้าเอวมองพี่แกด้วยความไม่ชอบใจอยู่พักนึงก็เถอะ แต่ในภาพรวมคือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ซัพพอร์ตกันดีมากๆ ในบรรดานิยายวายของปีนี้เลย

              เนื้อเรื่องดำเนินไปเร็ว ไม่ได้เล่าทุกอย่างแต่แรก แต่จะค่อยๆ พาเราไปทำความรู้จักกับเรื่องราวต่างๆ ตลอดทางที่อ่าน เน้นหนักไปที่สงครามและราชสำนัก หากใครเคยอ่านเชิญร่ำสุราเนื้อหาก็ประมาณช่วงหลังเล่ม 3 เป็นต้นไปประมาณนั้นเลย ดังนั้นพาร์ทโรแมนติกมันก็ซึ้งนะแต่ก็มีความขมติดปลายลิ้นไม่น้อย เพราะเอาเข้าจริงเป็นการอยู่ด้วยกันเป็นช่วงๆ อยู่ด้วยกันสักพักก็ถูกแยกไปพักใหญ่ กลับมาเจอกันอีกไม่นานก็ต้องแยกกันอีก เข้าวัง แล่นไปถึงทะเล เจอวังช้าง บลาๆ แม้จะดำเนินเรื่องไวแต่มีประเด็นแทรกเข้ามาในหยุด ใครที่ชอบแนวเครียดๆ มีสงคราม มีการเมือง น่าจะชอบ ต้องหาวันหยุดยาวอ่านแบบรวดเดียวถึงจะสะใจ

              ในเรื่องมีความรักของคนหลายคู่แทรกเข้ามาเล็กๆ น้อยๆ มีประเด็นความรักชาย-หญิงของเฮ่อหลันจินอิงพี่ชายพระเอก มีประเด็นความรักชาย-ชายของนักล่าหยางพรรคหมิงเยี่ย เยวี่ยเหลียนโหลว และท่านประมุขสุดซึนของเขาอย่าง จางโม่ ที่ลุ้นเหลือเกินเพราะลุ่มๆ ดอนๆ จากเคมีที่โคตรต่างกัน (เหนื่อยแทน 555) ท้ายเล่ม 3 เหมือนจะมีลุ้นอีกคู่คือ เฉินซวง มือดีพรรคหมิงเยี่ย แต่ไม่กล้าฟันธงเหมือนกันนะ

              พูดถึงเฉินซวงนี่เป็นตัวละครที่เราชอบมากกกกก แบบชอบมากๆๆๆๆ ชอบที่สุดในเรื่องนี้แล้ว เฉินซวงเป็นหนึ่งในคนที่พรรคหมิงเยี่ยส่งมาให้คุ้มครองจิ้นเยวี่ย แต่เรามองว่าเขาเหมือนพี่ชายของจิ้นเยวี่ยมากกว่า เป็นคนที่คอยดูแลและใส่ใจจิ้นเยวี่ยแบบนัมเบอร์วันและคอยอยู่ข้างๆ ตอนเยวี่ยเอ๋อร์ไม่มีใคร แต่คาแรคเตอร์แม้ดูสุภาพเรียบร้อยแต่ก็มีความลับในตัวเยอะแยะรอให้ค้นหา แบบว่ารักเลยยย

              เรื่องที่ติงหน่อยคือตัวละครเยอะมากกกก ตั้งแต่เล่มสองไปจะเริ่มงงแล้ว อ่านๆ ไปต้องตั้งสติว่าคนนี้ใครนะ คนโน่นล่ะใคร แล้วชื่อคล้ายๆ กันเต็มไปหมด แอบเห็นว่ามีใส่ชื่อหลุดๆ มาด้วยเหมือนกัน ส่วนการแปลก็โอเคค่ะ แต่ช่วงเล่มแรกๆ มีบางประโยคที่เราอ่านแล้วต้องอ่านซ้ำหลายรอบเหมือนกัน

              ชนะขาดคือปกสวยมากกก ตายๆๆๆ มันเป็นปกที่แบบต้องทำโปสเตอร์ภาพคมๆ แล้วอ่ะ มันสวยขนาดนั้นเลยนะ ชั้นเชื่อว่ามีหลายคนที่ซื้อเพราะปกแหละ 5555

              อีกอย่างคืออยากขอบคุณเอเวอร์วายที่แนบแผนที่มาให้ทุกเล่ม มันมีประโยชน์มากจริงๆ เพราะนิยายแนวสงครามเดินทางกันไปทั่วแผ่นดินนี่มันจะทำคนอ่านงงว่าอะไรอยู่ตรงไหน คือนึกภาพไม่ออกไง แต่พอมีแผนที่มาให้ (แบบติดกับในตัวเล่ม ไม่ต้องแยกออกจากเล่มให้เสียเวลา) มันเลยช่วยในส่วนนี้มาก ถือเป็นมาตรฐานให้เรื่องอื่นเหมือนกันว่าถ้าจะแปลนิยายแนวสงครามก็ควรต้องแนบแผนที่ให้คนอ่านหน่อย ขอสรรเสริญเยินยอให้ 1 แมทช์


    contact me
    twitter : @malavitabb



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in