ฉันเป็นคนที่โชคดีที่ชีวิตไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไร เพราะเรียนดี ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง จบมาทำงานในอาชีพที่ดี อยากเรียนต่อครอบครัวก็ตามใจ สมัครเรียนก็ไม่มีคู่แข่ง เรียนไม่กดดัน จบมาเลยรู้สึกว่าชีวิตช่างไม่มีอุปสรรค รู้สึกชีวิตมันน่าเบื่อ รู้สึกยังเป็นเด็กไม่รู้จักโตทั้งๆที่อายุใกล้เลข3 แล้ว
ได้มาย้อนทบทวนชีวิต หรือเป็นเพราะฉันเองที่เลือกเส้นทางที่ง่ายที่สุด เส้นทางที่ไม่ต้องพยายามมาก เลือกเรียนคณะที่สอบได้ตอนโควต้าเพราะเป็นคณะที่มั่นคง และตัวเองไม่มีความฝันอื่น ปวดท้องหนักมากตอนอยู่เวร เลยเลือกเรียนต่อสาขาที่ไม่ต้องอยู่เวรและไม่ต้องออกไปใช้ทุนเป็นอินเทิน แถมยังเป็นสาขาที่คนสมัครน้อยเลยไม่มีคู่แข่ง ฉันเลยก้าวผ่านทุกอย่างมาง่ายๆ
ในวันที่รุ่นน้องที่รู้จักลาออกจากเทรนนิ่งหลังจากทนเรียนมา2ปี ทำใจให้รักสิ่งที่กำลังเรียนไม่ได้ เลยลาออกหาทุนไปเรียนปริญญาเอกที่ต่างประเทศและตั้งใจจะไม่กลับมาแล้ว ตอนนี้ก็กลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า แล้วตัวเองหล่ะ ฉันต้องการชีวิตแบบไหน ฉันชอบสิ่งที่ทำอยู่แค่ไหน จะใช้ชีวิตไปเรื่อยๆไปวันๆ หรือจะไปต่อยังไงกับอาชีพนี้ ฉันต้องหาหัวเรือให้ชีวิตสักที
แล้วด้วยความโชคดี ได้อ่านบทความของคุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา จริงๆมีหลายประเด็นมาก แต่สิ่งที่คิดว่าเป็นคำตอบให้ชีวิตช่วงนี้คือ ที่คัดลอกมาบางส่วน
“ผมก็นั่งคิดว่าอะไรคือคุณสมบัติสำคัญที่ขาดหายไป ก็พบว่ามันเป็นยุคสมัยที่คนสูญเสียความกล้าหาญ ฉะนั้น ถ้าให้ผมเลือกคุณสมบัติสักข้อที่อยากจะบอกกับคนรุ่นใหม่ก็คือ นี่เป็นยุคสมัยที่คุณกำลังสูญเสียความกล้าหาญในทุกๆ มิติไป เป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่จะพาคุณไปสู่อนาคตใหม่ได้
คือความรู้คุณมีหมดแล้ว คุณพร่ำบ่นอะไรกันได้หมด คุณสอนผู้คนมากมายในสเตตัส แต่ทำไมคุณยังเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไม่ได้สักที แล้วคุณก็มาไถ่บาปด้วยการเขียนสเตตัสต่อไป เพื่อให้เพื่อนคุณมากดไลก์แล้วก็ปลอบประโลมจิตวิญญาณคุณอย่างอ่อนโยน เพื่อคุณจะเขียนสเตตัสอื่นในวันรุ่งขึ้นต่อไป แล้วคุณก็โพสต์รูป ถ่ายน้ำชงน้ำชาอะไรหลอกๆ กันไป แต่คุณไปไม่ถึงแก่นของชีวิต คุณไปไม่ถึงจุดที่จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนได้ เพราะคุณไม่ยอมออกไปจากโซนที่คุณปลอดภัยไง ความกล้าหาญไม่ได้หมายความว่าคุณต้องไปขี่มอเตอร์ไซค์รอบโลกนะ แต่แค่คุณยังไปไม่ถึงแก่นของการที่คุณจะเปลี่ยนแปลงได้
อย่างฤดูหนาวไม่มีใครว่ายน้ำหรอก มันเย็น แต่คุณไม่มีทางมีประสบการณ์เลยว่าการว่ายน้ำในฤดูหนาวเป็นยังไง ถ้าคุณไม่กระโดดลงไป ที่ผมพูดเพราะผมว่ายน้ำในฤดูหนาว ผมอยากรู้มันเป็นยังไง วินาทีแรกที่คุณจะเอาตัวลงน้ำมันทรมาน คุณต้องใช้ความกล้า แต่มันจะมีโมเมนต์หนึ่งที่คิดว่าก็ไม่เห็นเป็นไร มึงไม่ตายแน่นอน มึงลงไปเหอะ แล้วพอร่างกายเริ่มปรับสมดุลมันมีความสุขมาก มันมีสมาธิอย่างสูง มันมีกระบวนการของการเรียนรู้ ก็เหมือนการทำงาน คุณต้องกล้าที่จะลงไปเหนื่อย ที่จะผ่านความผิดพลาด ล้มเหลว แล้วพอมันเสร็จ คุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มันเป็นโมเมนต์ที่มีความสุข ระดับปัญญาและจิตวิญญาณคุณจะยกขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้สอนคุณได้จากการเรียนในระบบ ไม่ได้สอนคุณได้จากการอ่านตำรา แต่คุณต้องลงมือทำ
ผมว่าช่วงที่ผมทำรายการ ตอบโจทย์ประเทศไทย ผมใช้ความกล้าหาญเต็มที่เท่าที่สื่อมวลชนในประเทศนี้จะทำได้แล้ว มันเหมือนปีนเขาเอเวอเรสต์นะ ไม่ตกลงมาตายได้นี่เก่งมากแล้ว แล้วก็ยังมีชนักติดหลัง มีอะไรพะรุงพะรังเต็มไปหมด ซึ่งมันพร้อมที่จะกลับมาหาเราได้เสมอ นี่ไม่ใช่การปีนเขาเอเวอเรสต์จริงๆ แต่มันคือเอเวอเรสต์แห่งวิชาชีพ จะป่วยการอะไรถ้าคุณไปปีนเขาเอเวอเรสต์แต่ในวิชาชีพคุณไม่ทำหน้าที่ของคุณ คุณไม่ปีนเอเวอเรสต์ในวิชาชีพของคุณ ซึ่งผมขึ้นเอเวอเรสต์ของวิชาชีพผมไปแล้ว ผมเลยไม่ติดค้างไง”
จาก https://readthecloud.co/thoughts-10/
ฉันพบว่าฉันขาดความกล้าหาญและใช้ชีวิตอยู่ในsafe zone ล่องลอยไปตามน้ำเท่านั้น รู้สึกว่าตัวเองยังพยายามไม่มากพอ ตอนนี้เลยตั้งใจว่าต้องหาเอเวอร์เรสของตัวเองในวิชาชีพนี้และเริ่มปีนมันสักที เพราะสิ่งที่น่ากลััวคงเป็นการแก่หรือตายไปโดยไม่ได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่หรือพยายามอย่างเต็มกำลัง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in