พอถึงคิวเรา ก็เดินเข้าไปแบบลั้ลลามาก
เพราะความทรงจำที่เคยมีจากการขอวีซ่าเชงเก้น
ครั้งก่อนมันดีที่สุดเลยเว้ยแก
เจ้าหน้าที่ใจดีมาก คุยดี๊ดี ตอนสัมฯ เสร็จก็บอกเลย
ว่าผ่านนะ ขอให้สนุกไรงี้
ตัดภาพมาวันนี้ เจ๊ที่อยู่ตรงหน้านั้นตั้งแต่วินาทีแรก
ที่เห็นหน้าเราจนบอกลา
ไม่ยิ้มให้สักแอะเลยจ้า ดุมาก
ริมฝีปากในขณะที่ไม่ได้พูดนี่เม้มตรงเป็นไม้บรรทัด
"ขอวีซ่าไปทำอะไรคะ"
"ไปศึกษาต่อค่ะ ปีแรกไปเรียนภาษาก่อน
จบแล้ว ถึงจะต่อปริญญาโท
พี่ที่เคยไปก่อนหนูบอกว่าต้องขอวีซ่าศึกษาต่อ
เพราะ ถ้าได้แล้วมันเปลี่ยนประเภทไม่ได้"
มีวีซ่าศึกษาต่อกับวีซ่าเรียนภาษา
*มันมีวีซ่าศึกษาต่อกับวีซ่าเรียนภาษา
ซึ่งจริงๆ แล้วจะขอวีซ่าศึกษาต่อได้
ต้องมีทักษะเยอรมันระดับ B2 อยู่ในมือ
ไปต่อยอดอีกนิดก็เข้ามหาลัยได้เลย
แต่ของเรามันพิเศษที่ว่า
ปลายทางต้องการจะเรียนโท
แต่ยังขาดภาษาที่จะใช้เป็นพื้นฐาน
เลยจำเป็นต้องเริ่มด้วยการเรียนภาษาก่อน
เป็นอันรู้กันว่าตอนนี้ภาษายังอ่อนด๋อย
เลยได้รับยกเว้นไม่ต้องยื่น B2
วีซ่าศึกษาต่อที่ได้ก็ครอบคลุมการเรียนภาษาเลย
"เอกสารน้องน้อยมากเลยนะคะ"
//ว้อทททททท น้อยมากยังไงวะ
คือ ทุกอย่างที่บนเว็บไซต์บอกว่าให้เตรียม
ก็เตรียมหมดเลยนะ
แม้แต่ประกันสุขภาพที่ไม่ได้บอกให้เตรียม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in