Rating: Teen and Up Audiences
Archive Warning (s) : None
Fandom (s) : SEVENTEEN
Categories: General
Relationship: MINGYU & JEONGHAN
Characters: MINGYU, JEONGHAN
Note: ความโรแมนติกเป็น 0 นะคะ ถ้าใครคาดหวังจะได้อ่านฟิคหวาน ๆ คือ ไม่ใช่เรื่องนี้ 555
Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงแต่อย่างใด และไม่มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียแก่บุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงที่ถูกกล่าวถึงใด ๆ ทั้งสิ้น
This Little Dog Must Be Died Soon
MINGYU/JEONGHAN
ยุนจองฮันมักนั่งอยู่ที่บาร์เสมอ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเขาชื่นชอบฝีมือการชงค็อกเทลของบาร์เทนเดอร์คนเก่ง อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะในสถานที่แห่งนี้มักมีเรื่องราวอันควรค่าแก่การเฝ้ารอให้มันลอยมาถึงหู
ค็อกเทลแก้วแรกพร่องไปได้ครึ่งแก้วแล้วตอนที่ชายหนุ่มคนหนึ่งทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา แล้วสั่งเครื่องดื่มด้วยคำว่า “ขอแบบคุณผู้ชายคนนี้ครับ” มองจากนอกโลกก็ยังดูออกว่าอยากให้เขาหันไปคุยด้วย ยุนจองฮันวาดรอยยิ้มบนหน้าเหนือแก้วค็อกเทลก่อนจะหันหน้าไปสบตาอีกฝ่ายช้า ๆ
ว้าว
สารภาพกันตรง ๆ ว่าดูดีกว่าที่คิด
เขาเป็นชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ที่มีแววตาเป็นประกายเหมือนลูกหมาตลอดเวลา ดูน่าจะเป็นคนดูแลรักษารูปร่างตัวเองเป็นอย่างดี พิจารณาจากต้นแขนและลำตัวที่ดูไร้ไขมันอย่างน่าเหลือเชื่อ ขาคู่นั้นยาวน่าดู ยิ่งนั่งบนเก้าอี้สตูลตรงบาร์แบบนี้ยิ่งเห็นชัดเจน
จองฮันเลิกคิ้วใส่เขา รอคอยบทสนทนาที่ควรจะเกิดขึ้นตามที่อีกฝ่ายวางแผนไว้
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของผู้มาเยือน ก่อนเขาจะเอ่ย
“คนของเขตสิบเจ็ดนี่แตกต่างจากคนทั่วไปจริง ๆ นะครับ”
จองฮันชะงักมือที่กำลังจะยกค็อกเทล
“…รู้ได้ยังไงครับ”
“ก็” อีกฝ่ายทำท่าครุ่นคิด กวาดสายตามองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างไม่ค่อยมีมารยาทนักก่อนจะตอบซื่อ ๆ “มันดูออกนี่ครับ”
“ยังไงครับ”
“อืม...” เขาดูลุกลี้ลุกลนขึ้นมาเมื่อโดนต้อน “สูทที่คุณใส่เป็นยี่ห้อที่วางขายเฉพาะที่เขตนั้นนี่ครับ จะว่าเป็นของซื้อฝากหรือสั่งตัดเพื่อเอามาใส่ทุกวันก็ดูแปลกอยู่ถ้าจะต้องถ่อไปซื้อถึงเขตสิบเจ็ด...”
จองฮันพรูลมหายใจ
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก่อนจะกดเบอร์โทร.หาใครคนหนึ่ง
ทันใดนั้น โทรศัพท์คนข้าง ๆ ก็ดังขึ้น อีกฝ่ายสะดุ้งโหยง รีบร้อนรับมันจนหลุดมาดที่พยายามสร้างไว้อย่างดีจนหมดสิ้น เสียงที่รับสายสั่นเล็กน้อยด้วยความหวาดหวั่น
“ส...สวัสดีครับ”
ยุนจองฮันที่ถือโทรศัพท์ค้างไว้ที่หูเหลือบมองคนข้าง ๆ
“…”
“…”
“…”
“…สวัสดีครับ...? ”
“นายโง่หรือเปล่าเนี่ย”
เขากรอกเสียงตอบไปในโทรศัพท์ ทั้งที่จริง ๆ อีกฝ่ายน่าจะได้ยินแค่เพราะเขาพูดอยู่ตรงหน้านี่แหละ
ชายหนุ่มตรงหน้าตาโตขึ้นมาทันที
“…รุ่นพี่ยุน? ”
คนโดนเรียกว่ารุ่นพี่นวดขมับ
“ปกติมันต้องเรียกว่าอะไร”
“…เอ่อ...แองเจิล? ”
เป็นโค้ดเนมที่ปกติก็เรียกกันจนชิน แต่พอมาจากปากหมอนี่แล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอายขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ยุนจองฮันกลอกตา มองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอมือถืออีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจำไม่ผิด
“คิม-มิน-กยู ใช่ไหม”
“ครับ!” อีกฝ่ายตอบรับทันที
จองฮันหลับตาอย่างข่มอารมณ์ก่อนจะพูดต่อ “นายตายแน่ถ้าตอบทุกคำถามง่ายแบบนี้”
“…”
“นายชื่ออะไร”
“…เอ็มครับ”
“อืม เอ็ม นายเป็นสายลับประสาอะไรถึงไม่รู้ว่าต้องติดต่อคนในทีมตัวเองยังไง ไม่สิ นายดูออกถึงขั้นว่าฉันมาจากไหน แต่ดันดูไม่ออกว่าฉันเป็นคนในหน่วยงานเดียวกับนาย? ”
มินกยูหน้าจ๋อยลงไปจนจากชายหนุ่มตัวสูงใหญ่กลายเป็นลูกหมาตัวเท่าฝ่ามือ
“แล้วเอส. คูปส์มันคิดบ้าอะไรถึงให้เด็กใหม่อย่างนายมาประกบฉันกันนะ” จองฮันยีผมตัวเองไว ๆ อย่างหงุดหงิด เจ้าหัวหน้างานอย่างชเวซึงชอล โค้ดเนมเอส. คูปส์นั่นก็หาแต่เรื่องมาให้เขาเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้นสักที งานสายลับที่ทำทุกวันนี้มันง่ายนักหรือไง
เขาเปิดมือถืออีกรอบเพื่อเตรียมพิมพ์ด่าเพื่อนสนิทควบตำแหน่งหัวหน้างาน แต่สิ่งที่อีกฝ่ายส่งมาพอดีในวินาทีที่เขากดเข้าแอปพลิเคชั่นเข้าไปคือข้อความเข้ารหัสที่ทำให้เขาต้องหันกลับไปมองหน้ามินกยูอีกครั้ง
“…นายจบโรงเรียนเตรียมมาด้วยคะแนนสูงสุดเหรอ”
“…ครับ”
“…นี่สินะที่เขาว่าเก่งวิชาแต่ไม่เคยลงสนามจริงก็เท่านั้น”
“…ผมกำลังพยายามครับ”
หลังเจอคอมโบคำสาดเสียเทเสียของจองฮันไปชุดใหญ่ คิมมินกยูผู้มั่นหน้ามั่นใจเมื่อสิบนาทีแรกก็หายวับไป เหลือเพียงลูกหมาจ๋องที่หูลู่หางตกใส่จองฮันตลอดเวลา
คนเป็นรุ่นพี่ถอนหายใจอีกรอบ
“ฉันไม่ได้เก่งภาคสนามนัก ปกติเป็นฝ่ายยุทธการ รู้ใช่ไหม”
“แต่รุ่นพี่ก็ได้คะแนนทักษะต่อสู้ระยะประชิดสูงกว่าเกณฑ์มากเลยไม่ใช่เหรอครับ”
“แต่ฉันได้คะแนนด้านไหวพริบกับยุทธการเต็ม แปลว่าฉันมีสิ่งอื่นที่ทำได้ดีกว่า และฉันจะไม่เสียเวลาเสียแรงไปกับอะไรที่ฉันทำไม่ได้ดีพอที่ตัวเองตั้งไว้ โอเคไหม”
มินกยูกะพริบตาปริบ ๆ มองเขา “...โอเคครับ”
“นายก็แค่ทำตามที่ฉันบอก มีอะไรสงสัยก็ถาม ยกเว้นเวลาปฏิบัติงาน เวลาทั่วไปถามได้ แล้วก็ดูที่ทางก่อนถามด้วย”
“…ถ้างั้น หน้าบาร์นี่เราคุยกันแบบนี้ได้ด้วยเหรอครับ”
จองฮันอยากลุกขึ้นแล้วกระโดดกระทืบ ๆ เท้าบนเคาท์เตอร์บาร์ด้วยความหงุดหงิด
“นายรู้อะไรบ้าง! ใครเป็นพี่เลี้ยงคนก่อนของนาย!”
มินกยูทำหน้าซื่อใส่เขา “ไม่มีเลยครับ ผมเพิ่งเริ่มลงสนามวันแรกวันนี้เลย”
ชเวซึงชอล ชเวซึงชอล ชเวซึงชอล!!!
เจ้าของชื่อน่าจะจามจนตายไปแล้วถ้าคำสาปแช่งของจองฮันส่งไปถึงได้จริง เขากำมือแน่นก่อนจะค่อย ๆ คลายออกช้า ๆ ก่อนตอบ
“เจ้าของร้านก็เป็นคนของเรา เอ็ม ฉันขอสั่งการบ้านนายอย่างแรกเลยนะ ภายในพรุ่งนี้นายต้องรู้ว่าหน่วยของเราทั้งหมดอยู่ที่ไหนบ้าง”
“…พรุ่งนี้เลยเหรอครับ”
“ไม่งั้นก็กลับไปโรงเรียน ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องมา” จองฮันว่า “สนามจริงมันไม่เหมือนโรงเรียน ถ้านายพลาดนายตายจริง ๆ แน่ ตายที่ไม่ใช่คำเปรียบเทียบ แต่คือรู้สึกตัวอีกทีร่างนายก็ลงดินไปแล้ว ไม่มีใครได้สรรเสริญด้วยซ้ำ เพราะงานของเรามันอยู่ในความมืด”
“…”
“ไปจัดการตัวเอง”
เขาพูดเพียงเท่านั้น แล้วหันไปสนใจค็อกเทลในมือต่อเหมือนก่อนหน้านี้ระหว่างพวกเขาไม่มีบทสนทนาอะไรระหว่างกันอีก
คิมมินกยูนั่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ครู่ใหญ่ทีเดียว นานพอที่จองฮันจะจัดการค็อกเทลในแก้วตัวเองจนหมดได้ แต่พอหันกลับมายังเห็นว่าเจ้าหมายักษ์ใจเล็กเท่านิ้วก้อยนี่ยังนั่งอยู่ ความเพลิดเพลินจากแอลกอฮอล์ก็แทบมลายไปในทันที
“เป็นอะไรไปอีก”
“คือว่า”
“…”
“เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่า รุ่นพี่เท่กว่าที่คิดไว้เสียอีก”
“…”
ชเวซึงชอลมันส่งตัวอะไรมาให้เขาวะเนี่ย
THE END
220705
แค่อยากเขียนอะไรสักอย่างแหละ 555 ออกมาเป็นสายลับหน้ามึนกับรุ่นพี่ที่ดุจังเล้ยยยย แต่เก่งน้า ไรงี้ อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป เชิญติดตามต่อได้ในจินตนาการค่า--
ก็ ครับ ฟิคแบบพิมพ์เสร็จอัปเลย ไม่ได้เช็คอะไรทั้งสิ้น ให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้เช้าค่ะ
คอมเมนต์กันได้เช่นเคยยย เลิฟฟฟยอลลลล
#wirunfic
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in