แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เขียนเมื่อประมาณปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เขียนยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ ทำให้มีประโยคที่ไม่ควรมีขึ้นมา ซึ่งก็คือซีนนี้
“เอ่อ…” โออิคาวะทำหน้าไม่ถูก มือสองข้างยกขึ้นมาวาดมั่ว ๆ ไปบนอากาศเหมือนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก
“นาย… ไม่คิดว่ามันแปลก ๆ เหรอ นายกับฉัน ผู้ชายทั้งคู่ แล้วนายมาขอฉันคบ...เป็นแฟน... นายเป็นเกย์เหรอ?”
อุชิจิมะตอบเสียงนิ่ง “เปล่า”
“อ้าว”
สงสัยเขาจะโดนอิวะจังฟาดหัวบ่อยจนสมองฝ่อหมดแล้ว รู้สึกเหมือนตามความคิดคนตรงหน้าไม่ค่อยทัน
“อะไรของนายเนี่ย”
“ฉันชอบนาย”
ในความเป็นจริง ชอบผู้ชายก็คือเกย์ค่ะ ในเรื่องนี้ทั้งสองคนเป็นเกย์ค่ะเลยรักกัน ไม่ต้องมาบอกว่าไม่ได้เป็น ชอบแกแค่คนเดียว มันไปลบตัวตนคนอื่นเขา อย่าทำอีก
ตามนั้นค่ะ ผ่านมา 6 ปีคนเขียนก็เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้นแล้วนะ!
แต่ไม่ได้ลบเพราะมันเชื่อมกับเรื่องอื่นในนี้ด้วย ;-; เอาเป็นว่าใครผ่านมาก็อ่านตรงนี้กันหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
One Shot: Fan Fiction Haikyuu!
Ushijima Wakatoshi x Oikawa Tooru
「付き合ってください」
มันเป็นภาพที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็น
หน้าประตูโรงเรียนอาโอบะโจไซ คลาคล่ำไปด้วยเด็กนักเรียนจำนวนมากที่ทยอยกันเดินออกจากโรงเรียน คาบเรียนสุดท้ายเพิ่งจบไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน และวันนี้เป็นวันจันทร์... วันที่โออิคาวะ โทรุ กาดอกจันทน์ไว้ตัวใหญ่ ๆ ว่า เป็นวันพักผ่อน
เพราะฉะนั้น วันนี้เขาเลิกเรียนเร็ว
จะออกไปลัลล้าที่ไหนไม่ใช่ปัญหา อิวะจังก็ว่าไม่ได้ด้วย
เด็กหนุ่มคิดอย่างสบายอารมณ์ เขาเพิ่งลาสมาชิกชมรมวอลเลย์บอลออกมา ยอมโดนอิวะจังบ่นนิด ๆ หน่อย ๆ ทนสายตาริษยาของเหล่ารุ่นน้องผู้น่ารักเล็กน้อย แล้วก็โยนทุกอย่างทิ้งไปขณะเดินตรงไปที่ประตูโรงเรียน
ทว่าเขาก็สังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ
เรือนร่างสูงโปร่งของเซตเตอร์หนุ่มชะงักกึก นัยน์ตาสีน้ำตาลเพ่งมองตรงประตูโรงเรียนอย่างสงสัย นักเรียนยืนออกันหน้าประตูด้วยจำนวนที่มากกว่าปกติ …หรือจะมีดารานักร้องมาแถว ๆ นี้?
เมื่อโออิคาวะเดินเข้าไปใกล้ฝูงชน หลายคนเริ่มหันมาสนใจเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดา... เด็กหนุ่มเดินเรื่อย ๆ ไม่ใส่ใจชาวบ้าน คิดแต่เพียงว่า วันนี้กลับไปนอนเล่นที่ห้องหรือจะทำอะไรก่อนดี...
ทว่าขายาว ๆ ใต้กางเกงนักเรียนก็มีอันต้องชะงัก เมื่อเงาร่างหนึ่งมายืนขวางเขาไว้
โออิคาวะไล่สายตามองตามร่างที่สูงกว่าเขา แล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นใบหน้าของคน ๆ นั้น
อุชิจิมะ วากะโทชิ
ใบหน้าคมเข้มยังคงเรียบเฉยไร้อารมณ์ ทว่านัยน์ตาสีนิลกลับฉายประกายประหลาดที่โออิคาวะอ่านไม่ออก เจ้าตัวยังอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนของชิราโทริซาวะที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย เพราะปกติโออิคาวะเห็นอีกฝ่ายแต่เวลาอยู่ในชุดลงแข่งหรือชุดวอร์มเท่านั้น
คนตัวเล็กกว่าปั้นยิ้มรับแขก “อุชิวากะจัง มาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?”
อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ย “มาหานาย”
“…ฉัน?”
โออิคาวะย่นคอเหมือนสยองเสียเต็มประดา... แน่นอนว่าเขาก็โอเวอร์ไปอย่างนั้น แค่…ค่อนข้างแปลกใจ
พวกเขาเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อไหร่นะ? หลังอินเตอร์ไฮที่เขาพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเจ็บใจหรือเปล่า? เหมือนพวกเขาจะเจอกันอีกสองสามครั้ง แต่ก็แค่บังเอิญเท่านั้น ไม่ใช่การเจอกันเป็นทางการหรืออะไร
แล้วอีกฝ่ายมาหาเขาถึงหน้าโรงเรียน?
“มีอะไรสำคัญขนาดที่นายต้องมาหาฉันถึงหน้าโรงเรียนเลยหรือไง? อุชิวากะจัง?”
เขาถามทีเล่นทีจริง แต่อีกฝ่ายกลับตอบมาหนักแน่น
“สำคัญมาก”
นัยน์ตาสีนิลไหววูบก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ เหมือนคนตัดสินใจในบางอย่างได้
แล้วอุชิจิมะ วากะโทชิ ก็เอ่ยประโยคสะเทือนโลกออกมา
“โออิคาวะ... คบกับฉันเถอะ”
โออิคาวะไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า
น้ำเสียงนั้นแน่วแน่ ทั้งกริยาท่าทาง และแววตาที่มองจ้องมาทางเขาเพียงอย่างเดียว... พออีกฝ่ายเอ่ยประโยคที่กระชากทุกสรรพเสียงออกไปจากหัวเขาได้ สีหน้าก็เครียดขึ้งขึ้นมาทันที
นานทีเดียวกว่าโออิคาวะจะหาเสียงตัวเองเจอ “…คบ…คบกัน? นายหมายความว่ายังไงน่ะ อุชิวากะจัง”
แต่กลายเป็นว่าคนที่ทำหน้าไม่เข้าใจดันเป็นอุชิวากะเสียเอง
“คบกัน? ก็… ฉันไม่คิดว่านายจะไม่เข้าใจ...”
“ไม่ ๆ คือ ฉันคิดว่าฉันเข้าใจ แต่ไม่รู้ว่าเข้าใจไปในทางเดียวกับนายหรือเปล่า คบกันนี่มันหมายถึง...เอ่อ...” โออิคาวะกลอกตาก่อนพูดต่อ “…แฟน?”
อุชิจิมะนิ่งไปก่อนพยักหน้า
เสียงฮือฮาดังขึ้นจากรอบด้าน วินาทีนั้นเองที่กัปตันของอาโอบะโจไซระลึกได้ว่า ตัวเองยังยืนอยู่หน้าโรงเรียนที่คลาคล่ำไปด้วยนักเรียนจำนวนมาก และส่วนใหญ่ยังไม่ยอมออกจาบริเวณนี้เพราะอีเวนท์พิเศษของพวกเขาเนี่ยแหละ
โออิคาวะเหวอจนไม่รู้จะเหวอยังไง ทั้งคำตอบของคนตรงหน้าและบรรยากาศโดยรอบ “แฟน? อุชิวากะจัง คนจะเป็นแฟนกันน่ะ ไม่ใช่ว่าเดินมาขอคบแล้วมันจะเป็นได้นะ มันต้องมีความรู้สึกดี ๆ กันก่อนสิ!”
“แล้วใครบอกว่าฉันไม่มีความรู้สึกดี ๆ กับนาย”
“อะไรนะ? นายกับฉันเป็นคู่แข่งกันนะ”
“เป็นคู่แข่งกันแล้วจะรู้สึกดี ๆ ต่อกันไม่ได้เหรอ?”
คำถามเหมือนย้อนคำตอบเขามาถามกลับ ฟังแล้วปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที โออิคาวะเผลอยกมือกุมขมับก่อนตั้งสติถามคนตรงหน้าใหม่
“ตกลงนายมาทำอะไรที่นี่กันแน่”
“ฉันมาหานาย” คำตอบเดิม
“นายมาหาฉันทำไม”
“…มาขอนายคบ”
“…”
รู้สึกอยากลงไปโขกหัวกับพื้นเหลือเกิน
โออิคาวะอยากถามอะไรอีกฝ่ายอีกหลาย ๆ อย่าง แต่ดูท่าแล้วตรงนี้น่าจะไม่เหมาะ นัยน์ตาสีน้ำตาลตวัดมองคนตรงหน้าก่อนเดินห่างออกมา
“ตามฉันมา”
ไม่ไกลจากโรงเรียนนักมีสวนสาธารณะเล็ก ๆ ที่พอจะพื้นที่ให้พวกเขา ‘ปรับความเข้าใจ’ กันสักเล็กน้อย โออิคาวะที่ก้าวนำมาก่อนทิ้งกระเป๋าลงบนม้านั่งก่อนทิ้งตัวลงตาม นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบมองคนตัวสูงที่ยืนทำหน้าไม่เข้าใจโลกอยู่ข้าง ๆ
“ยืนทำไม นั่งสิ”
ประโยคกึ่งคำสั่งทำให้ต้องนั่งลงอย่างเสียมิได้
“เอาล่ะ” พอเห็นคนข้าง ๆ ได้ที่ โออิคาวะก็หันมา “ฉันถามจริง ๆ เถอะ ไอ้เมื่อกี้... หน้าโรงเรียนน่ะ นายล้อเล่นใช่ไหม?”
อุชิจิมะส่ายหน้า “ฉันจริงจัง”
“…อุชิวากะจัง” คนที่ฉลาดมาตลอดรู้สึกตัวเองโง่ขึ้นมาทันที “นายเป็นผู้ชายใช่ไหม?”
“ใช่”
“ฉันก็เป็นผู้ชายนะ”
“ใช่”
“เอ่อ…” โออิคาวะทำหน้าไม่ถูก มือสองข้างยกขึ้นมาวาดมั่ว ๆ ไปบนอากาศเหมือนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก “นาย… ไม่คิดว่ามันแปลก ๆ เหรอ นายกับฉัน ผู้ชายทั้งคู่ แล้วนายมาขอฉันคบ...เป็นแฟน... นายเป็นเกย์เหรอ?”
อุชิจิมะตอบเสียงนิ่ง “เปล่า”
“อ้าว”
สงสัยเขาจะโดนอิวะจังฟาดหัวบ่อยจนสมองฝ่อหมดแล้ว รู้สึกเหมือนตามความคิดคนตรงหน้าไม่ค่อยทัน “อะไรของนายเนี่ย”
“ฉันชอบนาย”
จู่ ๆ เจ้าคนที่พูดจาอะไรแทบไม่เข้าหูชาวบ้านก็โพล่งประโยคช็อกโลกออกมาอีกครั้ง คราวนี้โออิคาวะที่กำลังทำหน้าไม่ถูกถึงกับนิ่งค้างไป ความรู้สึกแปลก ๆ แล่นวาบไปทั่ว ปลายประสาทชาวาบ นัยน์ตาสีน้ำตาลใสเบิกกว้าง ปากอ้าค้าง ก่อนที่จะรู้สึกร้อนหน้าขึ้นมากระทันหัน
“…เฮ่ย พูดอะไรเนี่ย อุชิวากะจัง!”
โออิคาวะผงะถอยไปนั่งชิดอีกฝั่งของม้านั่ง อุชิจิมะขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้เข้ามาใกล้จนชิด อีกฝ่ายจ้องมาทางเขาอย่างจริงจังจนพาให้รู้สึกว่า... นี่ชักไม่เข้าท่า
เขาไม่ได้เป็นเกย์นะ
ไม่เคยคิดด้วยว่าจะมีวันที่ผู้ชายมาสารภาพรักตรง ๆ
แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็น... อุชิจิมะ วากะโทชิ คนที่ทั้งชาตินี้เขาก็อยากโค่นลงให้ได้
ทั้งอย่างนั้น อกข้างซ้ายกลับเต้นรัวขึ้นมาจนน่ากลัว
“ฉันพูดจริง”
อีกฝ่ายรุกหนัก
“เพราะฉันชอบนาย ถึงมาขอนายคบเป็นแฟน”
“…อุชิวากะจัง”
คนที่นิ่งมาตลอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ เผลอยกมือขึ้นกุมหน้า ท่าทางที่แสดงออกว่าลึก ๆ แล้วอีกฝ่ายก็กังวลไม่น้อยทำให้โออิคาวะชักรู้สึกผิดที่ทำท่าเหมือนเห็นอีกฝ่ายล้อเล่นมาตลอด
หมอนี่จริงจัง
จริงจังสุด ๆ
“ฉันมาขอนายคบ แต่ว่า...” อุชิจิมะพึมพำ แต่เสียงไม่ได้เบาจนไม่ได้ยิน “นายไม่จำเป็นต้องตกลงก็ได้ ฉันแค่อยากบอกให้นายรู้”
“…”
“โอกาสเป็นไปได้มันน้อยมาก ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากลองเสี่ยงดูเลยมา ถึงนายจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล่น ๆ ฉันก็คงพูดอะไรไม่ได้”
นัยน์ตาสีนิลที่มองลึกเข้ามาหนักแน่นและเต็มไปด้วยความจริงใจ แม้จะมีระยะห่างระหว่างพวกเขา แต่ท่าทางที่เหมือนอ่านทะลุทุกอย่างทำให้โออิคาวะเผลอขยับตัวอย่างอึดอัด
โชคดีที่แถวนี้ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
ทันใดนั้น จู่ ๆ อุชิจิมะก็ลุกพรวดขึ้น เดินมาหยุดตรงหน้าเขา แบ้วประกาศเสียงก้อง
“ขอโอกาสให้ฉัน”
“…โอกาสอะไร?”
เขาเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่สูงกว่า จากตรงนี้ยิ่งเห็นความมุ่งมั่นฉายชัดบนสีหน้าของสไปเกอร์แห่งชิราโทริซาวะ
“ไม่ว่านายจะเป็นยังไง ฉันก็ชอบนาย”
“…เอ่อ…”
“ให้โอกาสฉันคบกับนายดูสักครั้งเถอะ โออิคาวะ”
โธ่ว้อยยยยยยยย
ในใจของโออิคาวะโอดครวญเสียงดังลั่นเพราะหลากอารมณ์เข้ามาพร้อม ๆ กัน คนตรงหน้าสีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิด ทั้งที่เพิ่งบอกว่าคงไม่มีหวัง แต่ก็ยังมาขอโอกาสกับคนอย่างเขา
ไม่สิ ทำไมหมอนี่ถึงชอบเขา
เรื่องพวกนี้คงอธิบายด้วยหลักเหตุผลไม่ได้ แต่คนที่ทุ่มเทให้กับคนอื่นขนาดนี้...โออิคาวะไม่เคยเจอกับตัวเองมาก่อน
บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ก็...ไม่ได้รู้สึกแย่นัก
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ใช่ว่าเดินมาขอคบแล้วจะโอเคทันทีเสียเมื่อไหร่ อย่างไรเขาก็คือโออิคาวะ โทรุ หนุ่มสุดฮอตของเซย์โจ ย่อมต้องวางท่ากันเสียเล็กน้อย
พอคิดได้ เด็กหนุ่มก็สูดหายใจลึก ยืดตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบ
“สามวัน”
“?”
“…ขอเวลาฉันคิดสามวัน ถ้าตอนนั้นนายยังไม่คิดว่าที่มาขอฉันคบมันเสียเปล่า ฉันจะตกลง”
นั่นคือคำพูดที่เขาบอกออกไป
และเรื่องราวหลังจากนี้ ตัวเขาเองก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in