สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ผมจะพาย้อนเวลาไปเมื่อประมาณปี พ.ศ.2547 ซึ่งผมเป็นเป็นเด็กประถมในโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลศาลายา ตอนเด็กผมเป็นเด็กสมาธิสั้นครับ ทำอะไรนานๆไม่ได้ ยกเว้นอ่านการ์ตูนขายหัวเราะ จนหมอบอกกับแม่ผมว่า ต้องลองให้เรียนดนตรีดู แน่นอนครับ ผมอยากเป็นมือกลองแต๊ก(กลองสเเนร์)ของวงโยฯโรงเรียน เพราะมันโคตรเท่ แต่!! แม่กลับเอาผมไปฝากไว้กับวงดนตรีไทย! - -" แม่ครับ มันไม่เท่เลย ฮ่าๆ
คุณครูดนตรีคนแรก ชื่อครูแอน และครูเจี๊ยบ เป็นครูสอนดนตรีคนแรกของผม ถามผมว่าอยากเล่นอะไร ผมเลยเลือกซอด้วง เพราะในขณะนั้นมีเพื่อนร่วมห้องผมคนนึงก็เล่นซอด้วงอยู่เเล้ว เลยคิดแค่เล่นตามๆเพื่อนไป ก็ใจจริงผมอยากตีกลองแต๊กนี่หน่า T T
หลังจากที่ครูแอนและครูเจี๊ยบ เคี่ยวเค็ญผมสีซอด้วงมาร่วมขวบปี ผมเริ่มเล่นซอด้วงได้ดีขึ้น และโรคสมาธิสั้นของผมก็หาย จนถึงป.5 ในวันปิดเทอม ผมต้องขึ้นแสดงครั้งแรก ในงานโรงเรียน ตื่นเต้นมาก!!! ซ้อมทั้งวันทั้งคืน เอาซอกลับมาซ้อมที่บ้านด้วย จนคนแถวบ้านต้องหลอนเสียงดนตรีไทยไปตามๆกัน ฮ่าๆ ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดีครับ
[รูปประกอบ]
ไม่มีครับ หายหมดแล้วตอนน้ำท่วม
หลังจากนั้นก็ไปช่วงขาขึ้นของชีวิตผมครับ ได้ออกงานร่วมกับวงมากมาย ตั้งแต่งานวัด งานศพ วันแม่ วันพ่อ วันสำคัญทางศาสนา ได้ค่าตัวบ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ไม่ซีเรียสตามประสาเด็กๆ จนพีคสุดคือได้ไปเล่นดนตรีถวายพระพร ออกทีวีทั้งช่อง11(ในสมัยนั้น) และช่อง 9 ซึ่งช่อง11ผ่านไปด้วยดีครับ แต่ช่องเก้านี่สิ จำจนตาย ฮ่าๆ เนื่องด้วยว่าตอนซ้อมวงไปถ่ายที่ช่องเก้านั้น ผมรับหน้าที่พิเศษ นั้นคือ ได้เป็นมือฉาบครับ! ฮ่าๆ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุณครูแอนอยากให้รุ่นน้องได้เฉิดฉายบ้าง ผมก็ไม่ซีเรียสครับ ดีเหมือนกัน ไม่ต้องจำโน็ต แค่ตี แช่แว้บ แช่วับ แช่แว้บ ไปเรื่อยๆ ชิลๆ
พอถึงวันอัดเทปที่สตูดิโอเกิดเรื่องเซอร์ไพร์ครับ คือที่สตูดิโอห้ามใช้ฉาบ เพราะเสียงมันบาดหูไป ทำไงล่ะครับ หน้าเสียเลย จะอดออกทีวีมั้ย อุสาห์โม้กับชาวบ้านไว้ตั้งเยอะ คุณครูเจี๊ยบจึงโยนซอด้วงของแกให้ แล้วบอกว่า เล่นนี้แทน "แต่ครูครับ ผมไม่ได้ซ้อม!" "แต่เอ็งนั่งฟังเพลงนี่ทุกวัน เอ็งต้องเล่นได้ ด้นสดไปเลย" ครูเจี๊ยบกล่าว ผมจึงจำใจเล่นครับ ทำไงได้
การอัดเริ่มไปได้ด้วยดี จนถึงท่อนที่ผมเล่นดำน้ำ เนื่องจากจำโน็ตไม่ได้ ฮ่าๆ กล้องครับ ไอ่สัส กล้องในสตูลอยมาจ่อที่หน้า แล้วผมก็เห็นหน้าตัวเองในมอเตอร์ ในหัวตอนนั้นคือ เยดเข้ เอาแล้ว เกือบหลุดขำ เกร็งหน้าสู้ครับ ถ้าหลุดเท่ากับความชิบหายของวงโรงเรียน เกร็งจนตาเหลือกเลยครับ ฮ่าๆ
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ เฮ้อ T T ฮ่าๆๆ หลังจากนั้นเวลาในวัยประถมของผมก็หมดลง พร้อมฝากตำนานไว้ว่าเป็นวงดนตรีไทยของโรงเรียนที่ดีที่สุดตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงปัจจุบัน
ในตอนนั้น ผมรักดนตรีไทยมาก ปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ทิ้งดนตรีไทย และจะเล่นไปเรื่อยๆ จะใช้ดนตรีไทยหาเลี้ยงชีพ เป็นความฝันที่ชัดเจนที่สุดในวัยเด็กของผมเลย หลังจากนั้น ความฝันของผมก็จบลงในช่วง ม.ต้น อย่างว่องไว...
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนถึงตรงนี้นะครับ ถ้าหากอยากอ่านต่อ ตอนต่อไปชื่อว่า
"[ภาคมัธยมต้น]จุดเริ่มต้นใหม่และการล่มสลายของความฝัน"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in