เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
The Obesity Code By Jason Fung แปล ลลิตา ผลผลา
  • รีวิวเว้ย (763) ในช่วงเวลานี้คงไม่มีเพลงไหนที่เราจะได้ยินบ่อยและติดหูเท่าเพลง "ฉันอ้วน" ของ TimeTime (https://youtu.be/4LFi-e-m_Nk) เพราะนอกจากเพลงจะพูดถึงเรื่องของอาหารการกินและความอ้วนแล้ว เพลงนี้ยังจับเอาความสนุกสนานของความอ้วน อาหาร คสามรัก และคสามอบอุ่นมารสมเข้าไว้ด้วยกันแบบในเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ว่า

    "ที่ฉันอ้วน เพราะฉันหยุดกินไม่ได้
    แววตาฉันเหลือบไปเห็นอะไรต่ออะไร 
    ก็อยากกินไปหมดเลย
    แต่ฉันอ้วน แล้วเธอจะรักฉันไหม 
    หมดหัวใจที่มีมอบให้เธอตลอดไป 
    ให้เธอสุขใจมีพุงอุ่น ๆ ให้หนุนนอน"

    แต่เอาเข้าจริงแล้ว "ความอ้วน" มันอาจจะไม่ได้น่ารัก น่าเอนดูอย่างในเนื้อเพลงก็เป็นได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ความอ้วนพัฒนาตัวเองไปสู่ "โรคอ้วน" เมื่อนั้นความมันส์และความลำบากของการใช้ชีวิตมักจะเกิดตามมา โดยเฉพาะโรคในกลุ่มที่ทางการแพทย์เรียกว่า NCDs หรือโรคไม่ติดต่อ อาทิ โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นของแถมจากการพัฒนาขึ้นมาจากความน่ารักอย่าง "อ้วนจ้ำม่ำ" มาสู่ "โรคอ้วน" ในเวลาถัดมา
    หนังสือ : The Obesity Code
    โดย : Jason Fung แปล ลลิตา ผลผลา
    จำนวน : 416 หน้า
    ราคา : 395 บาท

    "The Obesity Code" หรือในชื่อไทยคือ "วิทยาศาสตร์ความอ้วน" หนังสือวิทยาศาสตร์ขนาดยาว 20 บท ที่จะพาเราไปทำความเข้าใจ และเรียนรู้ถึง "ความอ้วน" และ "โรคอ้วน" ซึ่งเนื้อหาใน "The Obesity Code" จะพาเราไปทำความรู้จักเรื่องราวของความอ้วน และการ "ลดความอ้วน" ผ่านการย่อยข้อมูลการวิจัย และกลุ่มตัวอย่างการวิจัย ที่ใน  "The Obesity Code" มุ่งเน้นในการหยิบเอาเฉพาะงานวิจัยที่ทำใน "คน" เท่านั้นมาบอกเล่าในเนื้อหาของหนังสือ

    นอกจากเรื่องราวของความอ้วนแล้ว "The Obesity Code" ยังพาเราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับมายาคติต่าง ๆ ที่ว่าด้วยเรื่องของความอ้วนและการลดน้ำหนักได้อย่างน่าสนใจ ด้วยวิธีการที่ผู้เขียนหยิบเอาชุดความเชื่อทั้งเรื่องของความอ้วน และการลดน้ำหนัก ในชุดความเชื่อแต่ละชุดมากางออกและหยิบเอางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชุดความเชื่อนั้น ๆ มาอธิบาย หรือบางชิ้นก็อาจจะเรียกได้ว่าเอางานวิจัยมา "ขยี้" ชุดความเชื่อเหล่านั้นให้แหลกเละคาหน้ากระดาษ

    และ "The Obesity Code" ก็ยังพาเราไปทบทวนถึงแนวทางและวิธีการของการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน ที่หลายคนลงมือทำตามบางโปรแกรมแล้วได้ผล แต่กับบางคนโปรแกรมเหล่านั้นอาจจะไม่ได้ผล รวมถึง "The Obesity Code" ยังสร้างเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ ๆ ต่อการจัดการและการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในยุคปัจจุบัน ว่าวิธีการรักษาเบาหวายชนิดที่ 2 ที่ทำกันมาหลาย 10 ปี มันใช่วิธีที่ถูกต้องและดีที่สุดต่อการจัดการโรคเบาหวานชิ้นที่ 2 จริง ๆ หรือไม่ และถ้าไม่ใช่ผู้ป่วยควรจะจัดการและรับมือกับมันอย่างไร

    หนังสือ "The Obesity Code" อาจจะไม่ใช่คำตอบของผู้ที่ต้องการสูตรสำเร็จของการลดความอ้วน หากแต่ "The Obesity Code" ช่วยให้เราเข้าใจระบบ และวงจรของความอ้วนทั้งระบบได้อย่างดี ส่วนเรื่องของการลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักนั้นในหนังสือเล่มนี้ก็ทิ้งไว้ว่า มันคือความพึงใจของแต่ละบุคคลในการเลือกใช้วิธีการ หรือจะเลือกลดหรือไม่ลดน้ำหนักก็ได้แล้วแต่ผู้อ่านเลย ว่าจะเลือกทางใด ในเมื่อเข้าใจวงจรและระบบของ "ความอ้วน" ทั้งหมดแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เพราะอย่างไรเสีย เรื่องการลดความอ้วนมันก็เป็นเรื่อง "ส่วนบุคคล"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in