เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
เมื่อฉันถูกเรียกปรับทัศนคติ By ilaw
  • รีวิวเว้ย (603) ย้อนกลับไปหนังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 อาวุธสำคัญชิ้นหนึ่งของคณะรัฐประการ (คสช.) นอกจากเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ซึ่งไม่เห็นมีห่าอะไรที่จะตรงกับเนื้อเพลงเลยแม้แต่น้อยในความเป็นจริง ก็คืออาวุธอย่างการเรียกใครก็ได้มาเข้าสู่กระบวนการในการ "ปรับทัศนคติ" ซึ่ง คสช. เชื่อว่ามันจะช่วยให้ควบคุมคนบางกลุ่มในสังคมได้อย่างแน่นอน กระบวนการของการเรียกปรับทัศนคติของ คสช. ดำเนินไปในช่วงเวลานั้นไม่ต่างอะไรกับการที่เหล่าผู้ร้ายแห่งก็อตแทมออกมาทำหน้าที่ในการพิพากษาและควบคุมสังคม ก็ในเมื่อคนชั่วดันเข้าใจว่าตัวเองเป็น "คนดี" จึงย่อมใช้วิธีแบบที่คนชั่วและโง่นิยม นั่นคือการข่มขู่ คุกคาม และบีบบังคับให้คนเห็นต่างต้องเห็นเหมือนตน หากไม่เหมือนต้องมีการซ่อมแซมอะไรบางอย่าง อันที่จริงวิธีคิดแบบนี้อาจจะผิดฝาผิดตัวมาตั้งแต่ตอนที่เหล่าผู้นำ คสช. เรียนหนังสือ เพราะการเรียนของพวกเขาในสถาบันการศึกษาด้านความมั่นคงของรัฐไทยนั้น น่าจะเข้าใจว่า "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" และความจริงนั้นต้องเป็นความจริงของ "ผู้มีอำนาจเท่านั้น" ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าการกระทำของ คสช. ภายหลังจากการรัฐประหาร คือกระบวนการของคนปัญญาอ่อนที่หลงคิดว่าตัวเองเป็น "คนดี" และพยายามที่จะยัดเยียดความดีของตัวเองให้กับคนอื่นเข้าใจ รับรู้และเห็นคล้อยตามไปด้วยผ่านกระบวนการของการ "ปรับทัศนคติ" ที่เมื่อเราอ่านเรื่องราวของการเรียนปรับทัศนคติในรูปของ "บันทึกความทรงจำ" ของคนที่เผชิญเหตุการณ์ดังกล่างจบลง ยิ่งทำให้เรารู้สึกโมโหและยิ่งโมโหมากไปอีก ที่คนพวกนี้ไม่เข้าใจว่า "อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน" เหมือนที่มีการเขียนเอาไว้ในคำประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1 ความว่า "ราษฎรทั้งหลายพึงรู้ไว้เถิดว่าประเทศนี้เป็นของราษฎร" 
    หนังสือ : เมื่อฉันถูกเรียกปรับทัศนคติ
    โดย : ilaw
    จำนวน : 175 หน้า
    ราคา : 200 บาท

    "เมื่อฉันถูกเรียกปรับทัศนคติ" เป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของสังคมไทยเมื่อตอนหลังการรัฐประหาร 2557 ที่โจรขึ้นมามีอำนาจและพยายามขะบอกกับทุกคนว่าพวกมันนั้นเป็นคนดี กระบวนการอย่างหนึ่งของโจรเหล่านี้คือการอุดปากผู้เห็นต่างด้วยทุกช่องทางที่มี ทั้งการประกาศใช้กฎอัยการศึก การประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคร่าว (ม.44) ในการข่มขู่ คุกคามประชาชนในประเทศ อาจจะเรียกได้ว่าในช่วงเวลานั้นเหล่าโจร คสช. ปกครองประเทศผ่านกลไกของการสร้าง "ความกลัว" ภายใต้ผ้าคลุมของ "คนดี"

    "เมื่อฉันถูกเรียกปรับทัศนคติ" ทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านความทรงจำของผู้คน ที่ถูกเหล่าร้ายคุกคามข่มขู่ ด้วยกระบวนการของการ "ปรับทัศนคติ" ทั้งคนธรรมดาที่เรียกร้องประชาธิปไตย นักการเมือง นักข่าว นักเขียน ขักวาดการ์ตูน พ่อของใครบางคน ลูกของใครสักคน และแม่ของใครคนหนึ่ง พวกเขาถูกข่มขู่คุกคามอย่างมากภายหลังจากการรัฐประหาร 2557 ความเลวร้ายและกระบวนการอัน "อยุติธรรม" ถูกหยิบมาใช้ในนามของ "ความดี" โดยคนที่เรียกตัวเองว่า "คนดี"

    ตลอดความยาวของหนังสือ "เมื่อฉันถูกเรียกปรับทัศนคติ" เราอ่านไปที่ละหน้า และต้องคอยพักการอ่านลง นั่นมิใช่เพราะว่าหนังสือเล่มนี้อ่านยากหรือน่าเบื่อแต่ประการใด หากแต่การอ่านในแต่ละหน้านั้นมันทำให้เรา "โมโห" ต่อการกระทำของเหล่าคนชั่วร้าย ที่เที่ยวหลอกใครต่อใครว่าตัวเองเป็น "คนดี" กระบวนการของการปรับทัศนคติ คือกระบวนการของการคุกคามประชาชน ซึ่งในทุกวันนี้กระบวนการดังกล่าวยังคงดำเนินไปถึงแม้จะเปลี่ยนรูปแบบจากการปรับทัศนคติไปแล้วก็ตามที่ หากแต่ในวันนี้ (2563) คนชั่วช้าก็ยังคงครองอำนาจ และตามคุกคามคนในประเทศนี้อยู่

    คิดยอนไปแล้วก็สมเพช กับเหล่าคนที่ออกมาแสดงความปรีดาดีใจ ที่ได้เรียกพวกอสูรกายเหล่านี้ขึ้นมาจากขุมนรก เพื่อให้พวกมันมาปกครองคนเป็น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in