Fast & Feel Love เร็วโหด…เหมือนโกรธเธอ ภาพยนตร์ลำดับที่ 8 ของผู้กำกับ "เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์" ที่มีคำจำกัดความว่าเป็น หนังแอคชันในชีวิตประจำวัน ที่มีความเร็วความฟาสต์พร้อมพุ่งทะยานสู่การเป็นที่หนึ่งด้านความเร็วมือระวิงของ “เกา” (แสดงโดย นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต) โดยมี กีฬาสแต็ค (Sport Stacking) เรียงแก้วประชันความเร็วเป็นจุดมุ่งหมาย

เรียกว่าตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างออกมาก็เหมือนเป็นการหย่อนโพยให้เตรียมตัวตั้งรับมาแล้วตั้งแต่ต้นแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่ใช่รสเดียวกับภาพยนตร์ลำดับก่อนหน้า ซึ่งหลายคนดูแล้วอาจพูดตามในใจว่า “What the hell !?!” เหมือนที่ เจ (แสดงโดย ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์) พูดเอาไว้ในช่วงนาทีหนึ่ง

แล้วหลายจังหวะก็…What the hell !?! จริง ๆ ? แบบเอางี้เลยนะ ทั้งความปั่น ความแสบ รวมมีม ซึ่งเราในฐานะที่ขอสารภาพเลยว่าดูหนังมาไม่มากเลยอาจไม่เก็ตความ Parody หยอกล้อกับหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น ๆ แบบที่หลายคนจับได้แบบทั้งหมด แต่เหนือประเด็นนั้นก็ยังมีหลายจุดของหนังที่พาเราขำและเปลี่ยนมู้ดไปได้ทั้งเรื่อง มีหลายจุดที่ทำงานกับเรา และบางจุดก็ปล่อยหมัดฮุกใส่เราเข้าอย่างจัง ซึ่งเราก็แอบรู้สึกว่าผู้กำกับกำลังเอ็นจอยและหยอกล้อตัวเองในหนังอยู่เหมือนกัน

สำหรับเราการหยิบเอา กีฬาสแต็ค มาอยู่ในเรื่องเหมือนเป็นภาพแทนของยุคสมัยปัจจุบันที่ไม่ว่าใครต่างก็สามารถลงแข่งในสนามเดียวกันได้ ความเปิดกว้างไร้กฎเกณฑ์ แต่ยังคงมีวิธีเล่น มีแพทเทิร์น มีกติกาและการตัดสิน ช่วยให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นมากว่าเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในสนามแบบไหนในปัจจุบันนี้

แต่นอกจากเรื่องความฟาสต์ เรื่องนี้ยังแฝงไว้ด้วยประเด็นยิบย่อยอย่างการศึกษาและความฝัน ที่เหมือนเป็นเครื่องยืนยันอีกเสียงว่า การพาตัวเองหลุดจากกรอบเส้นทางสายหลัก ยังมีเส้นทางอีกมากที่พึงจะเป็นได้และหลายคนก็สามารถทำมันได้อย่างดีและถือสิ่งนั้นประคองชีวิตได้อย่างเต็มตัวเต็มใจเสียด้วย

เส้นทางไปสู่ความเป็นหนึ่งของ เกา ทุกวินาทีมีความหมายเท่ากับการรักษาตำแหน่งแชมป์ที่อาจมีตัวละครลับจากที่ไหนในโลกมาล้มสถิติเข้าเมื่อไหร่ก็ได้ ความเดือดพุ่งพล่านของเกาที่อะไรก็มาหยุดไม่ได้เหมือนเราได้เจอช่วงวัยหนึ่งที่พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อผลลัพธ์เดียวที่ต้องการ เสียได้ก็ยอมเสีย แลกได้ก็ยอมแลก ขอแค่สิ่งที่ต้องการเกิดขึ้นจริงเหมือนสิ่งนั้นเป็นทุกอย่างในชีวิต

ใบหลิว เป็นตัวละครหนึ่งที่เราจดจำมาก ทั้งจากมีม “ฉันพร้อมจะใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อโค่นแก” และแค่ฉากเปิดตัวก็เอาเลยจ่ะ ไฟลุก! จุดหนึ่งที่เราชอบในความสัมพันธ์ของ เกา และ ใบหลิว คือการยอมรับในตัวเองของ เกา ว่าไม่เร็วแล้ว และการยื่นมือขอให้ช่วยจากคนที่เยาว์กว่าหรือแม้แต่คนอื่นก็ตาม ก็ไม่ได้แย่อะไรตรงไหนเลย ไปคว้ามาด้วยกันสิ

? วันแห่งชัยชนะมิอาจอยู่ตลอดไป

อย่างที่รู้กันว่านอกจากความแอคชันเดือดพล่านในไฟฝัน หนังยังว่าด้วยเรื่องในชีวิตประจำวันที่มีดีเทลยิบย่อยอีกเต็มไปหมด จุดที่ตลกก็ตลกแบบหลุดขำ แต่จุดที่จริงมันก็สมจริงจนใจเจ็บ และพาร์ตความห่วยในชีวิตประจำวันเนี่ยแหละที่ปล่อยหมัดใส่เราเต็ม ๆ เพราะบางทีเราก็ลืมไปเลยว่าไอ้ที่เราไม่ต้องคอยปวดหัว ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องแบกภาระการตัดสินใจสารพัด มันเป็นเพราะมีคนมาสนใจให้ มีคนมาคอยจัดการให้ มีคนกรุยทางส่งให้เราเดินในทางที่อยากได้อยากเป็นอย่างสะดวก และถ้าวันหนึ่งคนเหล่านี้หายไปเราคงช็อตแบบยืนนิ่งไปเลยเหมือนกัน

แต่นั่นแหละสุดท้ายแล้วสำหรับเรา มันทิ้งคำถามให้ชวนคิดถึงสรรพดีเทลต่าง ๆ ในชีวิตเหมือนกันว่า สิ่งนั้นเรายอมแลกมาได้ไหม หรือ บางอย่างยอมปล่อยไปได้หรือเปล่า เพราะบางทีโอกาสที่ได้มามันก็รอไม่ได้และหลาย ๆ สิ่งมันก็แลกมาด้วยชัยชนะไม่ได้เหมือนกัน

ถึงคนเหล่านั้น และหนังเรื่องนี้
, I have to thank you.
ขอบคุณมากจริง ๆ :)

/ Souce
ภาพ : GDH , Official Teaser