ร้านหนังสือแห่งนี้ แม่มดคนนี้ โครงกระดูกศัลยา ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ ภายใต้คำพูดของแม่มดที่พูดว่า “เหมือนเอาโครงกระดูกไปไว้บนดวงจันทร์” และเรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้น

     “หากชีวิตคนเรานั้นเจอทุกข์

ย่อมอยากหนีทุกๆนาทีนั้น

หากแม้นหนีจนสำเร็จพลัน

ชีวิตนั้นคงย่อมพบสุขตามเหตุไฉน

แต่เมื่อเราได้ฆ่าคนแล้ว

คงไม่แคล้วพบทุกข์มากขนาดไหน

และเมื่อได้กลายเป็นฆาตกรไป

อะไรๆเลยจะหันกลับมา”

     นันได้เข้ามาทำงานที่ร้านหนังสือแห่งนี้ และวันหนึ่ง วันที่โครงกระดูกศัลยาหายไป แม่มดจึงพาเธอไปยังตรอกแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และคนแต่ละคนล้วนมีลับลมคมในกันทั้งสิ้น พร้อมกับเรื่องราวโสกนาฏกรรมของตรอกนี้จึงถูกเปิดเผย เมื่อเรื่องราวของคนตายทั้งหมดสามคน นำไปสู่เรื่องราวความลับที่ปิดมิดก็ถูกเปิดเผยว่า สามคนนี้เคยข่มขืนเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ เพ็ญภา และเด็กคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย เพราะว่า หลักจากเธอถูกข่มขื่น แม่เธอก็ร้องไห้ เสียใจอย่างหนัก คนรักหนีไป และคนในตรอกไม่ยอมพูดความจริงเพื่อจับคนร้ายเข้าคุก ทำให้เธอช้ำใจอย่างมาก และครั้งนี้ก็อีกเช่นกัน ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นจะซ้ำรอยเดิมกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ผู้หญิงคนนั้นรอด และสามคนนั้นถึงจุดจบของพวกมัน รวมถึงคนในตรอกได้หายไปกันหมด เพื่อจะได้ไม่มีใครเป็นพยานรู้เห็นในเหตุฆาตกรรมของทั้งสามคนนี้นั้นเอง 

     “นันเริ่มฝันเห็นตัวเองนั้น

เปลี่ยนฉับพลันเป็นเพ็ญภานั่น

แล้วความจริงนันคือใครกัน

ชีวิตนั้นเปลี่ยนไปนิจนิรันดร์

และเมื่อนันตื่นขึ้นมาจากฝัน

นันพบว่านั้นเป็นเพียงแค่ฝัน

นันกลับมาอยู่ที่เดิมพลัน

แล้วนันนั้นไม่ใช่เพ็ญภา

หรือความจริงนันคือเพ็ญภา

ใครก็มาช่วยกันตอบได้ไหมหนา

ว่าความจริงแล้วนันเป็นใครนำพา

หากรู้ว่าความจริงเฉลยคืออะไร”

      ทุกคนในตรอกนี้ก็เป็นคนผลักดันให้เรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นแบบนี้ เพราะบางที การที่เราไม่ช่วยคนดีให้รอดพ้นเลย ก็ย่อมเหมือนกับที่เราเป็นฆาตกรเองนั้นแหละ ดังนั้น หนังสือเล่มนี้เป็นตัวกลางเชื่อมความจริงว่า คนเราควรพูดในสิ่งที่เราเห็น โดยอย่ากลัวความเป็นจริงเหล่านั้นเลย แต่เรื่องนี้เหมาะกับเด็กอายุ ๒๐ ปีขึ้นไป เพราะมีเนื้อหาที่รุนแรงบางฉาก และไม่เหมาะกับคนที่เป็นซึมเศร้า เพราะทำให้รู้สึกเศร้ากว่าเดิมก็ได้ แต่เหมาะกับคนทุกคนที่อยากอ่านเอาตื่นเต้น ขนลุกนิดๆ หลอนหน่อยๆ แบบมึนๆด้วย รวมถึงอ่านคำพูดและคำกลอนที่มีกลิ่นอายแนวแบบหลอนๆ

LOOK A BREATHE